Energea ComPac Mini 2 10000mAh Powerbank ( PD 3.0 | QC 3.0 | VOOC | PPS | 22.5 W ) - Gunmetal

Highlight

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสินค้า

อยากรู้อะไรเกี่ยวกับ Energea ComPac Mini 2 10000mAh Powerbank | 425° มีคำตอบ

• แบรนด์ : Energea
• รุ่น : ComPac Mini 2 10000mAh
• สี : Gunmetal (สีเทาเข้ม)
• ขนาด : 7.9 x 5.65 x 2.5 cm
• น้ำหนัก : 174 g

Product Detail รายละเอียดสินค้า

• วัสดุหลัก : พลาสติก ABS
• ดีไซน์แบบเรียบง่ายและมาพร้อมการทำขอบชิ้นงานแบบมน ให้สัมผัสที่นุ่มนวลและกระชับมือ
• ขนาด Powerbank มีความเล็กกะทัดรัดใกล้เคียงบัตรเครดิตและน้ำหนักที่เบา ช่วยให้สามารถพกพาได้อย่างสะดวก
• ความจุของตัว Powerbank อยู่ที่ 10000mAh หรือสามารถชาร์จ iPhone 14 Pro ได้ประมาณ 2 รอบ
• มาพร้อมเทคโนโลยี Universal Smart Charge 4.0 ที่รองรับมาตรฐานชาร์จเร็วได้อย่างหลากหลายทั้ง Power Delivery 3.0 (PD 3.0), Quick Charge 3.0 (QC 3.0), PPS, Huawei Super Charge Protocol (SCP) และ Oppo VOOC
• รองรับการใช้งานชาร์จเร็วแบบ Power Delivery 3.0 (PD 3.0) สำหรับ iPhone 14/13 Series และมาตรฐานอื่น ๆ รวมถึงอุปกรณ์ที่รองรับชาร์จเร็วอื่น ๆ ที่กำลังไฟสูงสุดไม่เกิน 22.5W
• นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยี GenWave™ ที่จะรองรับการชาร์จพลังงานต่ำอย่างปลอดภัยให้แก่อุปกรณ์ขนาดเล็กอย่างสมาร์ทวอชหรือหูฟังไร้สาย
• ชาร์จไฟเข้า Powerbank อย่างรวดเร็วด้วยมาตรฐาน PD2.0 เต็มภายในเวลา 3 ชั่วโมง
• มาพร้อมช่องเสียบ จำนวน 2 ช่อง แบบพอร์ต USB-C รองรับมาตรฐาน QC 3.0, PD 3.0, PPS  จ่ายไฟสูงสุด 22.5W สำหรับชาร์จเร็วให้กับ iPhone 14 Series / 13 Series และ iPhone / iPad รุ่นที่รองรับ รวมถึงอุปกรณ์ Samsung และ Android รุ่นต่าง ๆ ที่รองรับ
• พอร์ต USB-A รองรับมาตรฐาน QC 3.0, SCP, VOOC จ่ายไฟสูงสุด 22.5W สำหรับชาร์จเร็วให้กับอุปกรณ์ Android รุ่นต่าง ๆ รวมถึงอุปกรณ์ Huawei และ Oppo ที่รองรับอีกด้วย และสามารถชาร์จให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้หลากหลาย
• สำหรับการชาร์จไฟเข้าตัว Powerbank สามารถชาร์จผ่านช่อง USB-C ที่ทำหน้าที่เป็นทั้ง Input/Output ในตัวได้เลย โดยจะทำการชาร์จเข้าที่กำลังไฟสูงสุด 18W เมื่อใช้งานร่วมกับ Adapter ที่รองรับ PD แบบ 18W ขึ้นไป
• LED แสดงสถานะแบตเตอรี่คงเหลือจะแบ่งออกเป็น 4 ดวง โดยแบ่งเป็นดวงละ 25% ของความจุทั้งหมด
• บนตัว Powerbank มีการสกรีนโลโก้แบรนด์ Energea, สัญลักษณ์ช่องเสียบ, สเปคการใช้งาน, มาตรฐานความปลอดภัย มาให้อย่างชัดเจน
• สามารถใช้งานร่วมกับ iPhone / Smartphone Android / Tablet ได้ทุกรุ่นแต่ในส่วนของประสิทธิภาพในการชาร์จ ต้องขึ้นอยู่กับตัวอุปกรณ์ว่ารองรับหรือไม่ด้วย
• ***หากต้องการชาร์จเร็วแบบ PD ใน iPhone ต้องใช้สาย USB-C to Lightning หรือในอุปกรณ์ Android ทั่วไป ต้องใช้สาย USB-C to USB-C ซึ่งจะไม่มีแถมมาให้ในกล่องนะครับ
• ***หากพบว่าเมื่อเสียบชาร์จเร็วแบบ PD แล้วระบบมีการตัดไฟเป็นเวลา 3-5 วินาที และมีการชาร์จเข้าใหม่อีกครั้งอัตโนมัติ ถือเป็นอาการปกติของการชาร์จแบบ PD นะครับ เนื่องจากระบบจะปรับกระแสไฟจากแบบปกติให้เป็นแบบชาร์จเร็ว PD นั่นเอง ซึ่งจากที่ทาง 425degree ทำการเทสกับอุปกรณ์ PD หลาย ๆ แบรนด์ก็พบอาการนี้เช่นกัน ซึ่งไม่ได้เป็นความเสียหายใด ๆ ของอุปกรณ์ครับ
• ***ตัวแบตจะมีไฟส่วนหนึ่งที่สูญเสียไปที่ตัวอุปกรณ์ระหว่างที่ชาร์จประมาณ 30% และจะมีอีกส่วนหนึ่งที่สูญเสียไฟไปในการแปลงไฟเข้าสู่เครื่องโทรศัพท์ ดังนั้นเวลาชาร์จจริงจะไม่มีแบตสำรองตัวไหนชาร์จได้เต็มตาม Spec ครับ

ข้อมูลเชิงเทคนิค

• Capacity : 10,000mAh 37Wh
• Input USB-C : 5V/2A, 9V/2A (PD / QC2.0)
• Output USB-C : 5V/3A; 9V/2A; 12V/1.5A (PD3.0 / QC 3.0)
• Output USB-C : 5-5.9V/3A; 5-11V/2A (PPS)
• Output USB-A : 4.5V/5A; 5V/4.5A; 9V/2A; 12V/1.5A (QC3.0 / SCP / VOOC)
• All ports in use : 5V/3A (15W)
• Max Output : 22.5W

อุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน

• ช่องUSB-C (จ่ายไฟสูงสุดที่ 22.5W | มาตรฐาน QC 3.0, PD 3.0, PPS)

• อุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จเร็ว PD 18W-22.5W ได้แก่ iPhone 14 Series, iPhone 13 Series, iPhone 12 Series, iPhone 11 Series, iPhone X/Xs Series, iPhone 8 Series และสูงสุดที่ 22.5W ใน iPad บางรุ่น
• อุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จเร็ว PPS สูงสุดไม่เกิน 25W ได้แก่ Samsung Galaxy S22 Series / S21 Series / S20 Series / Note 20 Series / Note 10 Series / Z Flip 4 / Z Fold 4 / Z Flip 3 และ Z Fold 3
• Smartphone หรืออุปกรณ์รุ่นอื่น ๆ ที่รองรับการจ่ายไฟผ่านช่อง USB-C พร้อมการรองรับมาตรฐานตามที่ Adapter กำหนด

• ช่องUSB-A (จ่ายไฟสูงสุดที่ 22.5W | มาตรฐาน QC 3.0, SCP, VOOC)

• Smartphone/Tablet และ อุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จเร็วแบบ QC 3.0, SCP, VOOC ที่ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 22.5W เช่น Huawei, Oppo และ Smartphone Android รุ่นต่าง ๆ
• Smartphone หรืออุปกรณ์รุ่นอื่น ๆ ที่รองรับการจ่ายไฟผ่านช่อง USB-A

สรุปเรื่องการจ่ายไฟ

• [สำหรับเสียบช่อง USB-C] หากเสียบชาร์จอุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จเร็ว QC 3.0, PD 3.0, PPS เช่น iPhone/iPad/Samsung จำนวน 1 เครื่อง ผ่านช่อง USB-C จะเป็นการชาร์จเร็วกำลังไฟสูงสุดไม่เกิน 22.5W และหากเสียบชาร์จอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ไม่ได้รองรับการชาร์จเร็ว QC 3.0, PD 3.0, PPS ระบบจะทำการตรวจสอบและจ่ายกำลังไฟให้เหมาะสมกับอุปกรณ์นั้น ๆ ครับ
• [สำหรับเสียบช่อง USB-A] หากเสียบชาร์จอุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จเร็ว QC 3.0, SCP, VOOC เช่น iPhone/iPad/Samsung/Huawei/Oppo จำนวน 1 เครื่อง ผ่านช่อง USB-A จะเป็นการชาร์จเร็วกำลังไฟสูงสุดไม่เกิน 22.5W และหากเสียบชาร์จอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ไม่ได้รองรับการชาร์จเร็ว QC 3.0, SCP, VOOC ระบบจะทำการตรวจสอบและจ่ายกำลังไฟให้เหมาะสมกับอุปกรณ์นั้น ๆ ครับ
• [สำหรับเสียบทั้งสองช่อง (USB-A+USB-C)] Powerbank จะทำการตรวจสอบและจ่ายกำลังไฟให้เหมาะสมกับอุปกรณ์นั้น ๆ ครับ แต่จะไม่ได้เป็นการชาร์จเร็ว (Fast Charge) เนื่องจากต้องมีการแบ่งกำลังไฟกันครับ โดยกำลังไฟรวมสูงสุดจะอยู่ที่ 5V/3A (15W)

• **ปริมาณไฟที่ชาร์จได้จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของสายชาร์จ และอุปกรณ์ที่นำมาเสียบชาร์จด้วยครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• Energea ComPac Mini 2 10000mAh Powerbank x 1

เงื่อนไขการรับประกัน

• ทางร้าน 425degree รับประกันสินค้าภายใน 1 ปีในความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและความเสียหายที่ว่านั้นไม่รวมถึงการกระทำของผู้ใช้งานหรือการใช้งานที่ผิดวิธี โดยลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ
• อุปกรณ์เสริมที่แถมมาในกล่อง (สายชาร์จ) จะรับประกัน 7 วันครับ
• ***และเพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ของลูกค้า หลังจากที่ได้รับสินค้า แนะนำให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของทางแบรนด์ Energea ไว้ได้เลยครับ (คลิกที่นี่) ส่วนขั้นตอนต่างๆในการเคลมสินค้าให้แจ้งผ่านทาง 425Degree ปกติครับ
• ***แถบ Serial Number ที่แปะมาบนแบตสำรอง จะลอกและจางได้ง่าย หากต้องการลงทะเบียนแนะนำให้ทำทันที ตั้งแต่ได้รับสินค้าครับ
• ***สำหรับการชาร์จเข้าแบตสำรอง แนะนำว่าควรใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟได้ตรงตามสเปคที่ระบุมาเท่านั้นนะครับ หากใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟน้อยกว่าที่สเปคระบุ จะทำให้ชาร์จเข้าได้ช้าและส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หากลูกค้าใช้หัวชาร์จที่ไม่ตรงสเปค แล้วอุปกรณ์เกิดความเสียหาย กรณีนี้จะไม่รวมอยู่ในการรับประกันนะครับ

การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

• ผ่านการรับรองมาตรฐาน FCC, RoHS, CE certifications และ มอก.
• FCC : อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์/คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นก่อนที่จะนำไปขายในสหรัฐฯจะต้องได้รับการรับรองจาก FCC (เป็นองค์กรของรัฐบาลสหรัฐฯ) เพื่อให้ตรงกับข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นตัวนำและการกระจายคลื่นวิทยุ และยืนยันว่าสินค้าเหล่านั้นผ่านข้อจำกัดด้านความปลอดภัยจากการใช้อุปกรณ์สื่อสารทุกประเภท เช่น มีการปล่อยคลื่นรบกวนหรือไม่ หรือ มีการปล่อยสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้า (รังสีไอออไนซ์) และทำร้ายตัวผู้ใช้หรือไม่ หากมีการทดสอบแล้วว่าอุปกรณ์เหล่านั้นมีความปลอดภัยที่ผ่านเกณฑ์ และ ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ก็จะได้รับการเคลมด้วยมาตรฐาน FCC Certification
• RoHS (Restriction of Hazardous Substances) : เป็นข้อกำหนดที่ 2002/95/EC ของสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม ว่าด้วยเรื่องของการใช้สารที่เป็นอันตรายในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งหมายความรวมถึงเครื่องใช้ทุกชนิด ที่ต้องอาศัยไฟฟ้าในการทำงาน เช่น โทรทัศน์ เตาอบไมโครเวฟ วิทยุ เป็นต้น ซึ่งหมายความว่า ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องผ่านตามข้อกำหนดดังกล่าว
• CE (European Conformity) : คือกฎระเบียบว่าด้วยความปลอดภัยในสหภาพยุโรปที่กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ต้องผ่านการทดสอบที่ระบุไว้ จึงจะสามารถจำหน่ายได้อย่างถูกกฎหมายในสหภาพยุโรปและเขตเศรษฐกิจยุโรป
• มอก. (Thai Industrial Satandard) : มอก.เป็นคำย่อมาจาก “มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม” ที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางแก่ผู้ผลิตในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพในระดับที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด ประกอบด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการผลิตผลิตภัณฑ์นั้นๆ เช่น เกณฑ์ทางเทคนิค คุณสมบัติที่สำคัญ ประสิทธิภาพของการนำไปใช้งาน คุณภาพของวัตถุที่นำมาผลิต และวิธีการทดสอบเป็นต้น ปัจจุบันสินค้าที่ ( สมอ.) กำหนดเป็นมาตรฐานปัจจุบันมีอยู่กว่า 2,000 เรื่อง ครอบคลุมสินค้าที่เราใช้ อยู่ในชีวิตประจำวันหลายๆ ประเภท ได้แก่ ประเภทอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ สิ่งทอ วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น
• และยังรับรองว่าเป็นสินค้าที่สามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้ครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีครับ