Tin Audio - T2 Pro

หูฟัง In-Ear ขั้ว MMCX

(Degree Tin Audio - T2 แบบตีบวก)

425 Recommend : 

• หูฟังรุ่น Tin Audio - T2 Pro เป็นรุ่นที่พัฒนาย่านเสียงให้มีความหนาและความสว่างขึ้นกว่ารุ่น Tin Audio - T2 พร้อมเสียงเบสที่ลงลึกกว่าเดิม
• เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเสียงกลางและแหลม เสียงเบสพอดีๆ แรงปะทะที่ไม่โอเวอร์แต่ให้ความรู้สึกอย่างเป็นธรรมชาติ
• ได้รับคะแนนสูงถึง 8/10 คะแนน จากสำนักรีวิวหูฟังที่นักเล่นหูฟังให้การยอมรับอย่าง Headfonics 

Tin Audio - T2 Pro’s Highlight :

• ตัวหูฟังผลิตจาก Aluminium Alloy อย่างดี ดูแข็งแรงและทนทาน
• ให้เสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีความเที่ยงตรงของเสียงและเบสที่มากขึ้น ลุ่มลึกขึ้น เสียงกลางและแหลมมีความสว่างมากขึ้น
• ขับเคลื่อนด้วยไดร์เวอร์ Dual-Dynamic Unit 10mm.+6mm.
• มาพร้อมกับสายเคเบิ้ลทองแดงชุบเงินถัก 8 เส้น ค่าความบริสุทธิ์ระดับ 5N

Gallery

สเปคของ Tin Audio - T2 Pro
(ข้อมูลจากคู่มือภายในกล่อง)

• หูฟัง: Tin Audio - T2 Pro
• บอดี้: Aluminium Alloy
• ไดร์เวอร์: Dual-Dynamic Unit 10mm.+6mm.
• ค่าความต้านทาน: 16 โอห์ม
• ความเร็วในการตอบสนอง: 102db/MW
• ย่านความถี่ที่ตอบสนอง: 12-40000 Hz
• ชนิดสาย: Silver-Plated Oxygen-Free Copper Cable 5N 8Core
• แจ๊ค: 3.5 มม.
• ความยาวของสาย: 1.25 เมตร

Unboxing and
First Impression’s Tin Audio T2 Pro

     หลังจากที่เราได้ทำการแกะกล่องเจ้าหูฟังรุ่น Tin Audio - T2 ไปแล้ว คราวนี้ผมจะมาแกะกล่องหูฟังรุ่น Tin Audio - T2 Pro ซึ่งเป็นรุ่น Top ว่าจะมีความแตกต่างยังไงกับรุ่นธรรมดาอย่าง Tin Audio - T2 บ้าง เรามาดูกันเลยครับ

     Tin Audio - T2 Pro มาเหมือนกับ Tin Audio - T2 เป๊ะๆเลยครับ คือมาในรูปกล่องกระดาษผิวลื่นสีขาวธรรมดา ด้านหน้าสกรีนตราโลโก้ “Tin HiFi” สีดำเงา ตรงหัวมุมขวาบนสกรีนชื่อรุ่นว่า “T2 Pro” ผมค่อยๆแกะฝากล่องออก พบส่วนเว้าของกล่องเพื่อใช้ดึงกล่องหนังที่อยู่ข้างในออกมาได้อย่างง่ายๆ ผมดึงกล่องหนังออกมาพบว่า กล่องหูฟังยังคงดูคล้ายหนังสือสารานุกรมเล่มหนาๆ ปกหนังเหมือนกับเจ้า Tin Audio - T2 ยังไงอย่างงั้นเลยครับ

     เมื่อผมค่อยๆเปิดฝากล่องหนังออก จะพบกับตัวหูฟัง Tin Audio - T2 Pro บอดี้ยังคงเป็นสีเงิน ผลิตจาก Aluminium Alloy พร้อมจุกหูฟังโฟมเหมือนกับรุ่น Tin Audio - T2 แต่สิ่งที่ต่างไปเล็กน้อยคือขั้วแจ๊คขนาด 3.5 มม ที่มาในสีเงิน ใต้บล็อกใส่หูฟังเราจะพบกับสายแจ็คทองแดงชุบเงินถัก 8 เส้น ค่าความบริสุทธิ์ระดับ 5N พันกับตีนตุ๊กแกอย่างเรียบร้อย เรียกได้ว่าเหมือน Tin Audio - T2 เป๊ะๆถัดมาจะเป็นจุกหูฟังที่แถมมา 2 แบบ แบบละ 3 ขนาด โดยจะมีจุกหูฟังรูนำเสียงกว้างและรูนำเสียงแคบ สิ่งที่ทำให้ Tin Audio - T2 Pro แตกต่างจากรุ่น Tin Audio - T2 นั่นคือการให้จุกหูฟังแบบที่ 3 มาด้วย ซึ่งจุกหูฟังแบบที่ 3 จะเป็นจุกซิลิโคนที่มีเนื้อแข็งกว่าจุกหูฟังสองแบบแรก มีรูนำเสียงที่แคบกว่า หรือเรียกว่าจุกหูฟังรูนำเสียงแคบพิเศษครับ และสุดท้ายคือคู่มือที่มีสเปคของ Tin Audio - T2 Pro ระบุอยู่ข้างใน ผมรู้สึกผิดหวังอีกครั้งแม้จะเป็นรุ่น Top ทาง Tin Audio ก็ยังไม่แถมกล่องเก็บหูฟังขนาดพกพาหรือซองใส่หูฟังมาให้ แต่โดยรวมก็เรียกได้ว่า แพ็คเกจเหมือนกับ Tin Audio - T2 ทุกอย่าง ต่างกันแค่สีแจ๊คสายหูฟังที่ Tin Audio - T2 Pro จะเป็นสีเงิน และจุกหูฟังซิลิโคนทึบแบบรูนำเสียงแคบพิเศษที่แถมมากับกล่องครับ

Sound Review Tin Audio - T2 Pro
(เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425 นะครับ)

     คราวนี้มาถึงคิวของ Tin Audio - T2 Pro ซึ่งเป็นรุ่นอัพเกรดขึ้นมาจากหูฟังรุ่น Tin Audio - T2 โดย Tin Audio - T2 Pro จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของเสียงให้ดีขึ้นกว่ารุ่น Tin Audio - T2 หูฟัง Tin Audio - T2 Pro นั้นจะแตกต่างจากรุ่น Tin Audio - T2 ขนาดไหน เราจะมาเปรียบเทียบระหว่างหูฟังทั้งสองรุ่นกันแบบจุดต่อจุด ย่านเสียงต่อย่านเสียง ดังต่อไปนี้ครับ

• เสียงเบส - เสียงเบสของ Tin Audio - T2 Pro จะมีความลึก หนา และกว้างใหญ่กว่าหูฟังรุ่น Tin Audio - T2 เล็กน้อย โดยเนื้อเสียงของเบสจะยังคงความแห้งและความเป็นธรรมชาติเอาไว้ เราจะได้ยินเสียงเบสที่ลึก ไต่ขึ้นมาเสริมให้ภาคริทึ่มของเพลง (Rhythm) ฟังดูแข็งแรง แน่นหนาขึ้น อีกทั้งเนื้อเสียงของเบสยังฟังดูสว่างขึ้นมาเล็กน้อยอีกด้วย ถึงแม้เสียงเบสของ Tin Audio - T2 Pro จะมีมวลที่ใหญ่และลงลึกกว่า Tin Audio - T2 หูฟังรุ่นนี้ก็อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ของผู้ที่นิยมเสียงเบสเป็นหลัก เนื่องจาก Tin Audio - T2 Pro ไม่ได้มีคาแรคเตอร์เสียงที่เน้นเบสลูกใหญ่ ลึก หางเสียงหนาๆและยาว แต่เป็นการให้เสียงเบสที่เป็นธรรมชาติที่สุดในขณะที่ฟังดูหนาขึ้นกว่าเดิม กระเดื่องกลองยังคงให้เนื้อเสียงที่เป็นธรรมชาติ ดูสว่างและมีแรงปะทะที่ไม่โอเวอร์มากนัก เนื้อเสียงของกระเดื่องกลองมีลักษณะออกเป็นลูกและรวบตัวเก็บ ทิ้งความลุ่มลึกเอาไว้เสี้ยววินาที ก่อนที่จะจางตัวไปอย่างรวดเร็ว โดยรวมถือว่าทำได้ดีกว่าพอสมควรเมื่อเทียบกับรุ่น Tin Audio - T2 ครับ
• เสียงกลาง - เสียงกลางของ Tin Audio - T2 Pro ยังคงความเป็นธรรมชาติและความสดของเนื้อเสียง แต่ Tin Audio - T2 Pro จะมีเสียงกลางที่ใสและชัดเจนขึ้นกว่ารุ่น Tin Audio - T2 ส่งผลให้ได้ยินรายละเอียดของเครื่องดนตรีที่มีเนื้อเสียงที่ซับซ้อนดียิ่งขึ้นเช่น เอฟเฟคเสียงแตก (Distortion) ของกีต้าร์หรือเครื่องสังเคราะห์เสียง (Synthesizers) ที่ได้ความสะอาดสะอ้าน ชัดเจน สว่างและมีมิติ
• เสียงสแนร์ของกลองฟังดูสะอาดขึ้นกว่า Tin Audio - T2 นํ้าหนักการตีหนักเบาของมือกลองที่ชัดและรู้สึกถึงมันได้ง่าย มีแรงปะทะให้พอจับได้บ้างเล็กน้อย เสียงกีต้าร์มีความฉํ่าและมีนํ้ามีนวลขึ้นกว่า Tin Audio - T2 เล็กน้อย มีอาการทิ่มหูบ้างกับเพลง Rock บางเพลง แต่ก็ยังฟังต่อไปได้อย่างไม่มีปัญหา เสียงร้องยังมีขนาดความดังเท่า Tin Audio - T2 แต่ด้วยความที่เสียงกลางของ Tin Audio - T2 Pro ถูกพัฒนาให้มีความสว่างขึ้น มันส่งผลให้เสียง Sibilance ของเสียงร้อง (เสียงของ จ,ช,ซ,ส หรือเสียง s,c,th ในเพลงสากล) ออกมาอย่างชัดเจนขึ้นจนมีการทิ่มหูเล็กน้อยในบางครั้งบางคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเสียงร้องผู้หญิงที่มีเสียงย่านเสียงแหลมเยอะ แต่โดยรวมแล้ว Tin Audio - T2 Pro มีเสียงกลางที่พุ่งกว่า Tin Audio - T2 อยู่พอสมควรครับ
• เสียงแหลม - เสียงแหลมของ Tin Audio - T2 Pro มีความชัดและสะอาดขึ้นกว่า Tin Audio - T2 ส่งผลให้หางเสียงโดยรวมของเพลงมีความโปร่งปลายๆ เสียงกีต้าร์ที่มีการเล่นโน๊ตสูงๆมีความคมของเสียงดี ไม่บาดหู เสียงแฉ (Crash) ทุกใบของกลองชุดมีความสว่างในเนื้อเสียงที่ดี มีอาการทิ่มหูนิดหน่อย แต่ก็ไม่เป็นปัญหามากมายในการฟังเพลงครับ
• ซาวด์สเตจ - หูฟังรุ่น Tin Audio - T2 Pro มีซาวด์สเตจที่กว้างขึ้นกว่า Tin Audio - T2 เล็กน้อย เนื่องจากเสียงซับเบส(Sub-Bass)ที่เพิ่มขึ้นมา ทำให้ซาวด์โดยรวมฟังดูมีความลึกตื้นขึ้น มีความรู้สึกถึงพื้นที่่ในเพลงมากขึ้นกว่า Tin Audio - T2 ครับ

     คาแรคเตอร์เสียงของหูฟังรุ่น Tin Audio - T2 Pro ที่ผมได้กล่าวมาข้างต้น เป็นการฟังโดยใช้จุกหูฟังชนิดโฟมที่มากับตัวหูฟังในการทดสอบ ในกล่อง Tin Audio - T2 Pro ได้แถมจุกหูฟังซิลิโคนมา 3 แบบ แบบละ 3 ขนาด รวมจำนวน 9 คู่ 

     เริ่มจากจุกหูฟังซิลิโคนแบบขุ่นที่ให้มาเหมือน Tin Audio - T2 โดยจะมีทั้งจุกรูนำเสียงแคบและจุกรูนำเสียงกว้าง มีความนุ่มนิ่มของเนื้อซิลิโคนอยู่พอสมควร แต่สิ่งที่ Tin Audio - T2 Pro มีแต่ Tin Audio - T2 ไม่มีคือจุกหูฟังซิลิโคนแบบทึบ มีเนื้อซิลิโคนที่แข็งกว่าจุกซิลิโคนแบบขุ่น มีรูนำเสียงที่แคบกว่าปกติ หรือผมขอเรียกว่า “จุกหูฟังรูนำเสียงแคบพิเศษ” ซึ่งผมจะมาทดสอบจุกหูฟังที่ผมได้เล่าไปข้างต้นว่ามีผลกับเสียงของ Tin Audio - T2 Pro มากน้อยแค่ไหน ให้คุณลูกค้าทุกๆท่านทราบถึงข้อแตกต่างดังนี้ครับ

• จุกหูฟังรูนำเสียงกว้างแบบขุ่น - อย่างแรกที่รู้สึกถึงความต่างอย่างชัดเจนเลยคือ ภาพรวมของเพลงที่กระจายตัวออกไปไกลขึ้นทั้งซ้ายและขวา มีซาวด์ สเตจที่กว้างขึ้น โปร่งขึ้น เสียงเบสและแรงปะทะถดถอยลงเล็กน้อย รู้สึกว่าเสียงเบสถูกดันไปอยู่หลังสุดของเลเยอร์เครื่องดนตรีทั้งหมด แต่ยังรู้สึกจับต้องได้ ชัดเจน เสียงกลางมีความพุ่งขึ้นมาข้างหน้ามากขึ้น มีเนื้อเสียงที่หยาบขึ้นเล็กน้อย เสียงแหลมมีเสียงที่กวนหูบ้างนิดหน่อย โดยรวมแล้วจุกหูฟังรูนำเสียงกว้างแบบขุ่นจะเหมาะกับผู้ที่อยากให้ซาวด์สเตจของ Tin Audio - T2 pro กว้างขึ้น มีเสียงกลางและเสียงแหลมที่หนาขึ้นในขณะที่เบสถูกดันให้ไปอยู่หลังท้ายทอยเลยครับ
• จุกหูฟังรูนำเสียงแคบแบบขุ่น - รู้สึกได้เลยว่าเบสและแรงปะทะพุ่งชนตรงๆเข้าใบหน้าเลยครับ เนื้อเสียงหนาขึ้นและดูทึบขึ้น แต่ก็ยังเป็นเสียงเบสและแรงปะทะที่ยังคงความแห้งตามสไตล์ของ Tin Audio - T2 Pro คอเบสที่ชอบเสียงเบสหนักๆ ฉํ่าๆอาจไม่ถูกใจสิ่งนี้ ความคมของเสียงกลางถดถอยลงไปเล็กน้อยเช่นเดียวกับเสียงแหลม แต่เสียงแหลมยังมีความฉํ่าและความสะอาดของเสียงอยู่อย่างรู้สึกได้แบบไม่ต้องพยายาม ซาวด์สเตจมีความแคบเป็นเส้นตีบมากขึ้น โดยรวมถือว่าฟังสนุกขึ้นทีเดียวกับจุกหูฟังรูนำเสียงแคบแบบขุ่น
• จุกหูฟังรูนำเสียงแคบพิเศษแบบทึบ - เบสจะออกตัวได้กว้างและกระ พือกว่าจุกหูฟังรูนำเสียงแคบแบบขุ่นอยู่พอสมควรครับ อีกทั้งยังรู้สึกว่าตำแหน่งของมันอยู่ชิดใบหน้าเรามากขึ้น แรงปะทะมีความแข็งในเนื้อเสียงขึ้นและตีหนักกว่าเดิมเล็กน้อย โทนเสียงกลางและแหลมดูทึบขึ้นพอสมควร มีความรู้สึกมนๆของปลายเสียงของทั้งสองย่าน แต่ยังคงความชัดเจนอยู่แม้อาจไม่เท่าจุกหูฟังรูนำเสียงกว้างหรือจุกโฟม ซาวด์สเตจแคบขึ้น เหมือนซาวด์สเตจถูกบีบให้มาอยู่ตรงกลางมากขึ้น แต่การแยกมิติซ้ายขวายังรู้สึกทางซ้ายและทางขวาได้ดีอยู่ ถึงแม้เบสจะหนักขึ้นก็ตาม แต่ก็ยังเป็นเบสและแรงปะทะที่แห้งอยู่ดี โดยรวมถือว่าฟังสนุกใช้ได้เลยครับ
• สรุป - หูฟัง Tin Audio - T2 Pro ให้เสียงที่เรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นในทุกๆด้านจากรุ่น Tin Audio - T2 ไม่ว่าจะเป็นเสียงเบสที่ดีขึ้น เสียงกลางและเสียงแหลมที่สว่างขึ้น แต่อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบเสียงเบสเป็นหลัก เพราะเสียงเบสของ Tin Audio - T2 Pro จะเป็นเบสที่แห้ง ไม่ฉํ่าเหมือนหูฟังรุ่นอื่นๆ โดยรวมแล้ว สิ่งที่ Tin Audio - T2 Pro เป็นคือการเป็นหูฟังที่มีซาวด์คาแรคเตอร์ที่ให้เสียงอย่างเป็นธรรมชาติ สด และมีความ “Real” ในเนื้อเสียงครับ

Package Include
(อุปกรณ์ภายในกล่อง)

• หูฟัง Tin Audio - T2 Pro จำนวน 1 คู่
• สายเคเบิ้ล Silver-Plated Oxygen-Free Copper 5N 8Core 1 เส้น
• จุกหูฟังชนิดโฟม 1 คู่
• จุกหูฟังชนิดซิลิโคน 3 แบบ แบบละ 3 ขนาด (S/M/L) รวม 9 คู่
• ตีนตุ๊กแกสำหรับพันเก็บสาย 1 เส้น

How To Assemble Tin Audio - T2 Pro
(การประกอบหูฟัง Tin Audio - T2 Pro)

1. ที่ตัวบอดี้หูฟังจะมีสีบอกข้างซ้ายและข้างขวาอยู่ โดยสีแดงคือข้างขวาและสีนํ้าเงินคือข้างซ้าย
2. ให้ทำการเสียบขั้วสาย MMCX เข้าไปที่ตัวบอดี้หูฟัง โดยให้เสียบเข้าไปตรงๆจนมีเสียงดัง “แป๊ก” ***ข้อควรระวัง ถ้าเสียบขั้วสายกับตัวบอดี้หูฟังไม่ตรงแล้วฝืนดันไปแรงๆ อาจทำให้แกน MMCX ด้านในเสียหายได้
3. การถอดขั้วสาย MMCX ออกจากตัวบอดี้หูฟัง ให้ใช้เล็บนิ้วชี้และเล็บนิ้วโป้ง จิกช่องว่างระหว่างขั้วสายและหูฟังพร้อมออกแรงดึงเล็กน้อยจะหลุดออกจากกันได้โดยง่ายครับ ***ข้อควรระวัง การฝืนดึงแรงเกินไป อาจทำให้ขั้วแกน MMCX เสียหายได้ ถ้าขั้วสายและตัวบอดี้หูฟังไม่หลุดออกจากกัน แสดงว่ายังจิกเข้าไม่ลึกพอหรือไม่ออกแรงดึงเล็กน้อยตอนใข้เล็บจิกครับ

Warranty
(การรับประกัน)

• รับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขผู้ผลิต Tin Audio กำหนด
• *** ในส่วนของอะไหล่(จุกหูฟัง,สายหูฟัง)มีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน
• ไม่มีประกันในส่วนของการกันนํ้า เพราะทางทีมงานไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีนํ้าเข้า ที่เกิดจากลูกค้านำไปใช้ผิดวิธีหรือไม่ เช่น ว่ายนํ้า หรือ ดำนํ้าลึก ครับ
• ลูกค้าต้องเก็บกล่อง และอุปกรณ์ในกล่องมาอย่างครบถ้วน รวมทั้งจุกหูฟังเสริมทุกชนิด รวม 9 คู่
• ความเสียหายหูฟังตั้งแต่เปิดกล่องเช่น ดังข้างเดียว เสียงไม่ดัง สามารถเคลมได้ปกติครับ
• สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี หรือตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า ร่องรอยการกระแทกหรือการขูดอย่างรุนแรง
• หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น สายขาดใน, หัวแจ๊คหัก ,เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นหูฟังผิดวิธี(ใช้แอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขในการประกันนะครับ