Axgio Dash

(Degree ฟิต เบา เหมือนไม่ได้ใส่) 

Video รีวิว

<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/ixySlSVydT8" frameborder="0" allow="autoplay; encrypted-media" allowfullscreen></iframe>

แบรนด์

• Axgio ก่อตั้งเมื่อปี 2014 มุ่งเน้นออกแบบและวิจัยผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับ Bluetooth ไม่ว่าจะเป็น หูฟัง หรือ ลำโพง ไร้สาย
• ทีมงาน 425degree ตะลึงกับ Axgio Dash รุ่นนี้ครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• หูฟัง Axgio Dash
• จุกหูฟังซิลิโคน 3 ขนาด 3 คู่
• สาย micro USB 2 หัว สำหรับชาร์ตหูฟัง 2 ข้าง
• เคสใส่หูฟัง

วัสดุ

• Housing (บอดี้หูฟัง)  :  พลาสติกแข็งเนื้อด้าน
• Ear Hook (ตัวล็อคใบหู)  :  พลาสติกให้ตัวนุ่มนิ่มเข้ารูป
• จุกหูฟัง  :  ซิลิโคน

ขนาดและน้ำหนัก

• Housing (กว้าง x ยาว x สูง)  :  48 x 4 x 3.5 mm.
• น้ำหนัก  :  22.6 g.

Design

• ด้านนอกมี Logo ยี่ห้อ "Axgio" บ่งบอกคุณภาพของตัวหูฟัง
• หูฟังเป็นชนิด True Wireless Earbuds คือไร้สาย แบบ ไร้สายจริงๆครับ

• มี Earhooks(ตัวล็อคใบหู) ทำให้รูปทรงโดยรวมออกไปทาง Sport ครับ
• ถือว่าเป็นหูฟังที่ทั้งความทันสมัยและความ Sport ในตัวเดียวกันเลยครับ

• ท่อนำเสียงเอียงเพื่อให้เสียงสามารถส่งเข้าไปในหูของเราได้ดีขึ้นครับ

• ตัวปุ่มของหูฟังทั้ง 2 ข้าง มีความนูนและระยะห่างที่พอเหมาะ ทำให้สามารถกดปุ่มคำสั่งได้โดยง่ายครับ
• เนื่องจากตัวหูฟังไร้สายจริงๆ ทำให้หมดกังวลเรื่องสายพันกันไปได้เลยครับ

การป้องกัน

• มาตรฐานการป้องกันน้ำระดับ IPX4 ซึ่งสามารถทนต่อเหงื่อและละอองน้ำได้นิดหน่อยครับ
• สำหรับผู้ที่ต้องการใช้หูฟังสำหรับการออกกำลังกาย หมดกังวลเรื่องเหงื่อที่จะไปทำอันตรายใดๆ ต่อหูฟังได้เลยครับ
• ทางทีมงาน 425degree ไม่แนะนำให้นำตัวหูฟังไปใส่อาบน้ำ ตากฝน หรือ นำไปล้าง ครับ
• หากต้องการทำความสะอาด ทางทีมงาน 425Degree แนะนำให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ด แล้ว ตามด้วยผ้าแห้งดีกว่าครับ

วิธีการใช้งาน

• การเปิด/ปิด หูฟัง
• กดปุ่มกลางค้าง 3 วินาที

• การ Pairing (แบบ Stereo)
  1. เปิด Bluetooth ใน Smartphone
  2. กดปุ่มกลางที่หูฟังข้างขวาค้าง 10 วินาที
  3. ไฟ LED ด้านใต้หูฟังข้างขวาเป็น สีน้ำเงินกับแดง สลับกัน
  4. มีเสียงแจ้งเตือนว่า "Pairing"
  5. เลือกคำว่า "Axgio Dash" ใน Bluetooth List ของ Smartphone คุณ
  6. จะมีเสียงแจ้งเตือน "Connected"
  7. เปิดหูฟังข้างซ้าย
  8. หูฟังทั้งสองข้างจะมีเสียงแจ้งเตือนว่า "True Wireless Stereo Connected"
• ต้องยอมรับว่าการเชื่อมต่อของ Axgio Dash นั้นง่ายดายจริงๆ ง่ายกว่าหูฟังรูปแบบนี้ยี่ห้ออื่นๆเยอะเลยครับ
• ***หมายเหตุ  :  หูฟังตัวนี้สามารถเชื่อมต่อแบบ Mono แยกใช้ ข้างซ้าย หรือ ขวา ได้ แต่ทางทีมงาน 425degree ไม่แนะนำให้ใช้โหมดนี้ เพราะจะทำให้การเชื่อมต่อแบบ Stereo มีปัญหาในอนาคตครับ 

• การพูดคุยโทรศัพท์
  • รับสาย / วางสาย  :  กดปุ่มกลาง 1 ครั้ง
  • ปฏิเสธสาย  :  กดค้างที่ปุ่มรับสาย 1 - 2 วินาที
• การเล่นเพลง
• เล่น / หยุดเพลง : กดที่ปุ่มกลาง 1 ครั้ง
• เลื่อนไปเพลงถัดไป : กดปุ่ม "-" ค้าง
• ย้อนไปเพลงก่อนหน้า : กดปุ่ม "+" ค้าง
• เพิ่มความดังเสียง : กดปุ่ม "+"
• ลดความดังเสียง : กดปุ่ม "-"

• การชาร์จแบต
  • เมื่อแบตใกล้หมด  :  ไฟ LED ด้านใต้หูฟังเป็นสีแดงกะพริบๆ
  • ขณะชาร์จ  :  ไฟ LED ด้านใต้หูฟังเป็นสีแดงค้าง
  • เมื่อแบตเต็ม  :  ไฟ LED ด้านใต้หูฟังเป็นสีน้ำเงินค้าง

การรับประกัน

• รับประกัน 6 เดือน ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง Axgio กำหนด
• ลูกค้าต้องเก็บกล่อง และอุปกรณ์ในกล่องมาอย่างครบถ้วน กล่อง สายชาร์จ และจุกยางสำรอง
• สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี หรือตำหนิเสียหายการใช้งานของลูกค้า ร่องรอยการกระแทกหรือการขูดอย่างรุนแรง

Review เสียง

• เสียงเบส ( 7/10)  :  เด่นไปในย่าน Mid-Bass เบสไม่ได้ลงลึกมาก แต่มีแรงปะทะที่เหมาะสม กระชับ เก็บตัวไว ไม่บวมเบลอไปกระทบย่านเสียงอื่นๆ การบาลานซ์ย่านเสียงเบสถือว่าทำได้ดีครับ
• เสียงกลาง ( 6.5/10)  :  คนร้องมีความสดคมเหมือนไปฟังดนตรีสดๆ ซึ่งจะมีเสียงรอดไรฟัน (ฟ,ซ) ได้ยินอยู่เรื่อยๆ ทางทีมงาน 425degree ก็มีทั้งคนทีชอบและไม่ชอบครับ  เสียงเครื่องดนตรีในย่านนี้มีความคมของตัวโน้ต ออกไปทางกลางแหลม ทำให้เสียงเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย เช่น กีตาร์ มีความคมชัดขึ้น ครับ
• เสียงแหลม ( 6/10)  :  เครื่องดนตรีในย่านเสียงแหลมยังไม่มีประกายเป็นฝอยๆ ยังติดความเป็นเหลี่ยมๆ จึงไม่เหมาะกับเพลงแนว Jazz R&B ประเภทเสียงร้องสูงๆ หรือ เพลงที่มีเครื่องดนตรีที่อยู่ในย่านเสียงสูงเยอะ เช่น เพลง Classic ตามความเห็นของทาง 425degree แนวเสียงแบบนี้เหมาะกับเพลง POP Rock เพลงตลาดทั่วๆไปมากกว่าครับ
• มิติ ( 6/10)  :  ความกว้างของเวทีเสียงไม่ได้กว้างแบบทุ่งข้าวสาลี ชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นจะอยู่ชิดๆกันหน่อย ทำให้เราเข้าไปค้นหารายละเอียดเล็กๆน้อยๆของเสียงได้ยาก ไม่เหมาะกับเพลงแนวที่ใช้เครื่องดนตรีเยอะๆในการบรรเลง เช่น แนว Classic หูฟังตัวนี้เหมาะกับแนวเพลงที่ใช้เครื่องน้อยชิ้นมากกว่าเช่น POP Rock หรือ เพลงตลาดทั่วๆไปมากกว่าครับ
• สรุป  :  หากคุณชอบเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผมว่าคุณไม่ควรพลาดกับหูฟังตัวนี้ ที่เป็นเทคโนโลยีไร้สายจริงๆ แม้ว่าคุณภาพเสียงเดิมๆของมันจะแพ้หูฟังมีสายไปหน่อย แต่ก็ยังคงให้ความสนุกของเสียงดนตรีได้อยู่ครับ    

ประสบการณ์ใช้งานจริงจาก 425Degree

• เนื่องจากตัวหูฟังทั้ง 2 ข้าง ไม่มีสายเชื่อมต่อ การพกพาจึงต้องใช้เคสที่ทาง Axgio ให้มาเพื่อเก็บหูฟังให้ครบคู่ครับ.
• ซึ่งในตลาดตอนนี้หา หูฟังแบบไร้สายจริงๆแนว Sport แบบนี้ไม่ได้ ยกเว้นแต่ Axgio Dash ตัวนี้เลยครับ

• การส่วมใส่ถือว่าส่วมใส่ได้ง่ายและสบาย ไม่มีอาการจุกหู , ปวดหู หรือ หนีบหูเลยครับ

• ตัวหูฟังมี Earhooks(ตัวล็อคกับใบหู) เมื่อสวมใส่แล้ว ตัวหูฟังจะไม่หลุดออกจากหูได้เลยครับ ทางทีมงาน 425Degree เคยทดสอบหูฟังรูปแบบนี้มาหลายรุ่นก็ยังไม่เจอตัวไหนที่ตอบโจทย์เรื่องความแน่นและสบาย แถมไม่หลุดหูไม่ว่าจะออกกำลังกายหนักแค่ไหนก็ตามเลยครับ

• เหมาะกับออกกำลังกาย วิ่งเหยาะๆ หรือ ใช้ใน Fitness ก็สบาย ไม่ต้องกลัวหูฟังหลุด ไม่มีสายมาให้กวนใจระหว่างการออกกำลังกายด้วยครับ

• แม้เสียงที่ถ่ายทอดออกมาจากหูฟังจะไม่ได้มีรายละเอียดระดับนักแต่งเพลง แต่สำหรับผู้ฟังทั่วไปสามารถใช้ฟังเพื่อรับความสนุกของเพลงได้เป็นอย่างดี (ความเห็นของทีมงาน 425degree ยังคิดว่าเสียงดีกว่าหูฟังที่แถมให้มากับ Smartphone หลายยี่ห้อเลยครับ)

• *** ตัวไมค์ไม่มีระบบกันเสียงรอบข้าง ฝั่งคู่สนทนาได้ยินเสียงรอบข้างขณะพูดคุยโทรศัพท์ จึงไม่เหมาะกับการใช้พูดคุยตลอดเวลา เหมาะกับการใช้งานพูดคุยโทรศัพท์เป็นครั้งคราวมากกว่าครับ
• ***หูฟังบลูทูธทุกรุ่นเวลาดูคลิปวีดีโอจะมีอาการเสียงกับภาพไม่ตรงกันเล็กน้อยซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ***

ข้อมูลทั่วไป

• Bluetooth Chip  :  CSR64210 และ CSRA64215
• Bluetooth Version  :  4.2
• ช่วงความถี่เสียงที่ตอบสนอง  :  200 Hz. - 10k Hz.
• มาตรฐานการป้องกัน  :  IPX4
• ความจุแบตเตอรี่  :  95 mAh
• ชาร์ตแบตเต็ม  :  ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
• ใช้งานคุยโทรศัพท์ หรือ ฟังเพลง ต่อเนื่องได้นาน  :  6 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความดังเสียงและขนาดไฟล์เพลง)