HyperX Cloud Buds Wireless

หูฟัง wireless คล้องคอ

ทรง earbud ใส่สบาย เล่นเกมส์ไม่ดีเลย์ !

425°Audio สรุปชัดๆ :

• หากท่านกำลังหาหูฟัง wireless คล้องคอสำหรับเล่นเกมส์และดูหนังบนสมาร์ทโฟนแบบไม่มีปัญหาเรื่องเสียงไม่ตรงภาพ (เสียงไม่ดีเลย์) ทีมงาน 425°AUDIO ขอแนะนำ HyperX Cloud Buds หูฟัง wireless คล้องคอที่เหล่านักเกมมิ่งและใช้งานดูคลิปโซเชียลมีเดี่ยทั่วไป ไม่ ควร พลาด คร้าบ !
• สำหรับทีมงาน 425°AUDIO แล้ว เจ้า HyperX Clouds Buds เป็นหูฟัง wireless ที่เล่นเกมส์ได้ลื่นไหล ไร้ปัญหาเสียงดีเลย์มากวนใจ ทดสอบทั้ง iOS และ Android พบว่าเล่นเกมส์เสียงตรงภาพทั้ง 2 ระบบกับเกมส์ทุกแนว ไม่ว่าจะเป็น PUBG, ROV, FreeFire หรือแม้แต่ ROV, LoL Wildlift ก็ไม่พบปัญหาเสียงดีเลย์ให้ขัดตา อีกทั้งหูฟังยังเป็นทรง earbud ที่ใส่สบาย ไม่อึดอัดหู สามารถใส่ใช้งานได้นานโดยที่ไม่เจ็บหูเลยสักนิดเดียวครับ
• HyperX Cloud Buds เป็นหูฟัง Bluetooth wireless คล้องคอที่เน้นใช้เล่นเกมส์โดยเฉพาะ รองรับ aptX™ และ aptX™HD เพื่อให้รายละเอียดเสียงและความรวดเร็วได้มากกว่าชุดคำสั่งพื้นฐานทั่วไป ตัวหูฟังเป็นทรง earbud ที่สวมใส่สบาย ใส่ได้นาน ไม่อึดอัด โทนเสียงเบสมวลหนา ออกชัดเป็นมวล รายละเอียดดี และแยกเสียงชัด อีกทั้งยังมีขนาดและรูปร่างที่พกพาไปไหนมาไหนได้ง่าย นํ้่าหนักเบา มีซองผ้าสำหรับเก็บหูฟังแถมมาให้ในกล่องด้วยครับ

Sound Review (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425°AUDIO นะครับ)

• เสียงเบส : เบสหนา หัวโน๊ตชัด ฟังกระชับและออกเป็นลูก สปีดเบสปานกลาง deepbass จะออกไปทางคลอๆ ฟังลึกพอใช้ แรงปะทะดีฟังสนุก ได้แรงกระแทกจากเสียงกระเดื่องกลองและเสียงเครื่องเคาะต่างๆได้ดี ฟังสนุก เสียงเบสอาจมีไปบังเสียงย่านแหลมบ้างเล็กน้อย ไม่ได้บังมากไปจนขาดรายละเอียดครับ
• เสียงกลาง : เสียงกลางฟังชัด มวลหนากำลังดี รายละเอียดชัด ฟังดูไม่ได้ถอยหลังมาก แต่ก็ไม่ได้พุ่งไปจนเสียงอุดอู้ จัดอยู่ในระดับที่ใสครับ รายละเอียดคมชัดดีครับ
• เสียงแหลม : เสียงแหลมจะออกหม่นๆ หัวมนไม่ขึ้นขอบ แต่รายละเอียดยังฟังชัด เสียงฉาบ-แฉกลองชุดชัดไม่เสียดหู เป็นเสียงแหลมที่ฟังสบาย และได้รายละเอียดเสียงเครื่องทองเหลืองที่ชัดเจนดีครับ
• เวทีเสียง : เวทีเสียงกว้าง ฟังโปร่ง มิติลึก-ตื้นชัดพอประมาณ การแยกเสียงดนตรีทำได้ดี ไม่ได้ฉีกห่างจากกันมาก ทิศทางและตำแหน่งเสียงยังจัดว่าฟังง่ายอยู่ครับ
• สรุป : HyperX Cloud Buds เป็นหูฟังทรง earbud ที่เบสหนาและฟังสนุกมากๆ ถึงแม้หางเสียงเบสอาจมีแกว่งไปโดนรายละเอียดเสียงดนตรีในย่านแหลมเล็กน้อย แต่เสียงแหลมยังฟังชัดและสัมผัสถึงรายละเอียดได้ดีอยู่ เป็นโทนเสียงที่เหมาะกับฟังเพลงที่มีจังหวะสนุกๆ จังหวะเร็วๆ เน้นเสียงกลองและเสียงเบสมันส์ๆจะฟังสนุกมากๆกับ HyperX Cloud Buds ครับ

Product Highlight

• หูฟัง Bluetooth คล้องคอสำหรับเล่นเกมส์เฉพาะ
• สวมใส่ earbud มี earfins สำหรับเสริมความกระชับ สวมใส่สบายหู
• เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.1 รองรับ aptX™,aptX™HD
• ไดร์เวอร์ dynamic ขนาด 14 มม. แม่เหล็ก neodymium
• ไมโครโฟน electret-condenser รับเสียงรอบทิศทาง
• เล่นต่อเนื่องได้สูงสุด 10 ชม.

Gallery :

425°AUDIO Experience
ประสบการณ์การใช้งานจริงจากทีมงาน 425°AUDIO

ดีไซน์ : สวยงาม วัสดุดี

• ยังคงมีหน้าตาที่จัดจ้านเป็นเอกลักษณ์สำหรับ HyperX Cloud Buds สายเคเบิ้ลเป็นวัสดุยาง TPU และส่วน housing เป็นพลาสติกแข็ง ทำสีมาสวยงามใส่แล้วดูโดดเด่น มาพร้อมกับปุ่มจับคู่บลูทูธและปุ่มมิลติฟังชั่นสำหรับคุมมัลติมีเดี่ยต่างๆที่จับคลำปุ่มกดง่าย แต่แอบเสียดายที่ตรงหูฟังน่าจะมีแม่เหล็กสำหรับดูดติดกันเอาไว้คล้องคอสักหน่อยแฮะ แต่ยังดีที่สายเคเบิ้ลมันเป็นยางที่ค่อนข้างเกาะคอเราอยู่บ้าง คล้องคอแบบไม่ใส่หูฟังที่หูก็ไม่ได้ไหลลื่นเท่าไหร่ครับ

การพกพา : นํ้าหนักเบา พกง่าย มีซองผ้าเอาไว้ใส่หูฟังแถมให้ด้วย

• นํ้าหนักของมันเบามากครับ เพียงแค่ 27.5 กรัมเท่านั้น ทำให้สวมใส่ได้อย่างไม่หนักคอ และยังพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกมาก อีกทั้ง HyperX เค้ายังแถมซองผ้าตาข่ายหนาๆนุ่มๆอย่างดี ปากเป็นเชือกหูรูด มาให้เราใส่หูฟัง HyperX Clouds Buds เวลาพกพาไปไหนมาไหนด้วย เย้ ! ไม่ต้องไปเสียตังเสียเวลาหาซื้อกระเป๋าเพิ่มเลยครับ

การสวมใส่ : มาในทรง earbud ที่ท่อเสียงยื่นเข้าหูเล็กน้อย แต่ยังใส่สบายแบบ earbud !

• เจ้า HyperX Clouds Buds สวมใส่สบายหูมากๆ โดยมันมาในทรง earbud ใช้จุกยางแบบพิเศษที่ท่อเสียงจะยื่นเข้าหูเล็กน้อย และมีติ่งซิลิโคน earfins เพื่อให้เราใส่หูฟังได้กระชับขึ้น ความรู้สึกการสวมใส่เรียกว่าใส่สบายตามสไตล์ earbud เลยครับ ไม่จุกหู ไม่อึดอัด ใส่โล่งๆหูหรือใส่คาหูไว้ทั้งวันก็สามารถทำได้ สบายๆครับผม
• สิ่งที่แอบเสียดายคือ “มันไม่กันนํ้า” หากใครหวังว่าจะเอา HyperX Cloud Buds ไปใส่ออกกำลังกายในฟิตเนสด้วย **ทางเราไม่แนะนำนะครับ

เสียง : เบสมวลหนา แรงปะทะฟังสนุก

• หลังจากที่ได้ทดลองฟังเพลงอยู่ช่วงเวลานึงก็ต้องบอกเลยครับว่าใครชอบหูฟังที่ให้โทนเสียงฟังสนุกๆจะต้องชอบ HyperX Clouds Buds แน่นอน โทนเสียงที่ admin สัมผัสได้อย่างแรกเลยคือ “เสียงเบสที่มวลหนาฟังกระชับ” มีแรงปะทะที่ฟังสนุก ออกตุ้บตั้บๆเลย อีกทั้งมันยังแยกเสียงชิ้นดนตรีต่างๆออกมาได้ดีฟังง่ายอีกด้วย ถึงแม้จะแยกเสียงได้ไม่ห่างกันจนฉีกเหมือนหูฟังเกมมิ่งราคาแพงๆ แต่ก็จัดว่ายังฟังจับทิศทางของเสียงได้อย่างไม่ต้องเพ่ง ใครชอบฟังเพลงจังหวะสนุกๆอย่าง Pop, Hip-hop เนี่ย เหมาะมากครับ

การเล่นเกมส์ : ทดสอบแล้วทั้ง iOS, Android, Window เล่นเกมส์ไม่ดีเลย์

• การใช้เล่นเกมส์ถือว่าเป็นจุดแข็งสำหรับ HyperX Cloud Buds ตัวนี้เลยครับ เพราะนอกจากจะใส่สบาย โทนเสียงฟังสนุกและพกพาง่ายๆแล้ว “ยังใช้เล่นเกมส์ได้ทุกเกมส์” ทั้ง iOS และ Android เลยครับ
• สำหรับ iOS ทดลองเล่น PUBG และ Call of Duty Mobile ก็ไม่พบอาการเสียงดีเลย์แต่อย่างใด กดยิงปุ๊ปเสียงติดนิ้วปั๊ป ใช้เล่นจริงจังๆได้เหมือนๆกับหูฟังเสียบสายเลยครับ
• ส่วน Android ก็ให้ผลลัพท์เดียวกันกับ iOS ทดลองเล่น PUBG, Call of Duty Mobile ก็ไม่เจอเสียงปัญหาเสียงดีเลย์มาจุกจิกกวนใจ กดยิงปุ๊ป เสียงมาปั๊ป ใช้เล่นได้สบายๆครับ
• เรื่องการเล่นเกมส์ถือว่า Hyper X Cloud Buds สอบผ่าน ใช้เล่นเกมส์แบบไร้สายได้ลื่นๆตาเลยจ้า

**ค่าความหน่วงหรือดีเลย์ อาจส่งผลลัพท์ที่แตกต่างขึ้นอยู่กับอุปกรณ์
**โทรศัพท์ที่ทีมงาน 425°AUDIO ใช้ทดสอบ : iPhone 11, Samsung Galaxy S20,Window 10

การคุยโทรศัพท์ : เสียงชัดเจน พูดปกติก็สื่อสารรู้เรื่อง !

• การคุยโทรศัพท์ของ HyperX Cloud Buds จัดอยู่ในระดับที่ “พอใช้ได้” ครับ
• ทดลองโทรคุยแบบปกติพบว่า หูฟังให้เสียงพูดของเราได้คมชัดดีครับ ส่วนตอนใช้คุยในที่เสียงดังๆเช่นข้างถนน คุณภาพเสียงจะดรอปลงเล็กน้อยครับ ปลายสายจะได้ยินรอบข้างดังพอสมควร แต่เสียงพูดยังจัดในระดับที่ฟังรู้เรื่องครับ
• ส่วนการโทรผ่านแอปพลิเคชั่น Line พบว่าเสียงไมค์มีความคมชัดขึ้น ใสขึ้น คุยชัดกว่าการโทรแบบธรรมดา แต่ถ้าคุยในที่เสียงดังๆ ปลายสายยังได้ยินเสียงรบกวนดังพอสมควร แต่ยังดีที่เสียงพูดของเรายังคมชัดฟังได้อยู่ครับ
• ส่วนเรื่องการสื่อสารภายในเกมส์ก็จัดว่า “ใช้คุยได้สบายๆครับ” สื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมรู้เรื่อง ไม่พบปัญหาอะไรครับ

คลิปออนไลน์ : Youtube, Netflix ดูได้สบายๆ ไร้ดีเลย์

• ในเรื่องดูคลิปออนไลน์ ทั้ง iOS และ Android ใช้ดูได้แบบเสียงตรงปากตัวละครเลยครับ
• ทดสอบดู Youtube หลายๆคลิป (คลิปที่เสียงกับภาพตรงกัน) สามารถใช้ HyperX Cloud Buds ดูได้อย่างไม่มีปัญหา
• เช่นเดียวกันกับดูซีรี่ย์ใน Netflix ก็ไม่พบปัญหาเสียงดีเลย์ใน HyperX Cloud Buds สามารถใช้ดูหนัง ดูซีรี่ย์ได้สบายๆเลยครับ

HyperX Cloud Buds เหมาะกับใคร ?

• เหมาะกับคนที่กำลังหาหูฟังสำหรับเล่นเกมส์บนมือถือ ที่สามารถเล่นได้ทุกเกมส์ ทุกแนว ไม่ดีเลย์ทั้งระบบ iOS และ Android
• เหมาะกับผู้ที่ต้องเดินทางบ่อยๆ และอยากได้หูฟังที่สามารถพกพาง่ายๆ นํ้าหนักเบา กินพื้นที่ในกระเป๋าน้อย
• เหมาะกับผู้ที่อยากได้หูฟังเอาไว้ฟังเพลง ดู Youtube, Netflix หรือดูสตรีมเมอร์แคสเกมส์
• เหมาะกับผู้ที่อยากได้หูฟังเอาไว้ฟัง Podcast เช่น Clubhouse เป็นต้น

การใช้งาน HyperX Cloud Buds เบื้องต้น

ข้อควรทราบก่อนเริ่มใช้งาน HyperX Cloud Buds

1. ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนใช้งานครั้งแรก
2. ทดลองสวมใส่ eartips ทุกขนาด เพื่อหาและเลือกใส่ eartips ที่เหมาะกับช่องหูของเรามากที่สุด เพื่อความกระชับและโทนเสียงที่ไม่รั่วไหล
3. ไม่แนะนำให้ใช้ HyperX Cloud Buds ใส่ออกกำลังกาย เพราะหูฟังไม่มีมาตรฐานกันนํ้ารับรอง

การเปลี่ยน eartips

การสวมใส่

การเปิด-ปิดเครื่อง

• เปิดหูฟัง : กดปุ่ม power ค้าง 2 วินาที > ไฟสีนํ้าเงินติดขึ้น > ปล่อยนิ้ว > หูฟังเปิดแล้ว
• ปิดหูฟัง : กดปุ่ม power ค้าง 2 วินาที > ไฟสีแดงติดขึ้น > ปล่อยนิ้ว > หูฟังปิดแล้ว

การเชื่อมต่อ Bluetooth

1. ขณะหูฟังปิดอยู่ > กดปุ่ม power ค้างประมาณ 5 วินาที > ไฟกระพริบสีแดง-นํ้าเงิน
2. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ > ค้นหาชื่อ “HyperX Cloud Buds” > แตะเชื่อมต่อเป็นอันเสร็จสิ้น
3. เมื่อใช้งานเสร็จแล้ว > กดปุ่ม power ค้าง 2 วินาที > ไฟสีแดงติดขึ้น > ปล่อยนิ้ว > เพื่อปิดหูฟัง
4. ในการใช้งานครั้งต่อไป > กดปุ่ม power ค้าง 2 วินาที > ไฟสีนํ้าเงินติดขึ้น > หูฟังจะเปิดและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ล่าสุดอัตโนมัติ

**หากหูฟังอยู่ในโหมดจับคู่ (ไฟกระพริบแดง-นํ้าเงิน) ช่วงเวลานึงแล้วยังไม่ถูกเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใดๆ ดูหังจะปิดอัตโนมัติ

การเชื่อมต่อ Bluetooth กับอุปกรณ์อื่น

1. ลบชื่อ “HyperX Cloud Buds” ออกจากอุปกรณ์เก่า > ปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์เก่า
2. ขณะหูฟังปิดอยู่ > กดปุ่ม power ค้างประมาณ 5 วินาที > ไฟกระพริบสีแดง-นํ้าเงิน
3. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ใหม่ > ค้นหาชื่อ “HyperX Cloud Buds” > แตะเชื่อมต่อเป็นอันเสร็จสิ้น

การควบคุมต่างๆ

• เล่นเพลง-หยุดเพลง : กดปุ่มฟังชั่น 1 ครั้ง
• ไปยังเพลงถัดไป : กดปุ่มฟังชั่น 2 ครั้ง
• ย้อนเพลง : กดปุ่มฟังชั่น 3 ครั้ง
• เพิ่มเสียง : กดปุ่ม (+)
• ลดเสียง : กดปุ่ม (-)
• เรียก Google & Siri : กดปุ่มฟังชั่นค้างจนได้ยินเสียงสัญญาณ
• รับสาย-วางสาย : กดปุ่มฟังชั่น 1 ครั้ง
• ปฏิเสธสาย : กดปุ่มฟังชั่นค้างจนสายตัดไป
• สลับสาย : กดปุ่มฟังชั่น 2 ครั้ง

การชาร์จแบตเตอรี่

1. เสียบสายชาร์จ USB-C ที่หูฟัง > เสียบชาร์จกับ USB คอมพิวเตอร์ หรือ ปลั๊กไฟบ้านกับหัวชาร์จ 5V ไม่เกิน 1A
2. ขณะชาร์จ หูฟังจะกระพริบไฟสีแดงช้า
3. เมื่อชาร์จเต็มแล้ว ไฟจะดับไป

Product Included (อุปกรณ์ภายในกล่อง)

• หูฟัง HyperX Cloud Buds จำนวน 1 อัน
• จุกหูฟัง จำนวน 3 คู่
• สายชาร์จ USB-C จำนวน 1 เส้น
• ซองผ้าสำหรับใส่หูฟังจำนวน 1 ใบ
• คู่มือการใช้งาน

เงื่อนไขการรับประกันสินค้า (Product Warranty)

• สินค้ารับประกันศูยน์ไทย 2 ปี เงื่อนไขเป็นไปตามที่ Ascenti กำหนด

บริษัท Ascenti จะไม่รับประกันเปลี่ยนหรือคืนสินค้าที่มีสภาพผิดปกติ ดังต่อไปนี้

สภาพสินค้าผิดปกติ

• สินค้ามีสภาพผิดปกติ ได้แก่ ไหม้, แตก, หัก, บิ่น, งอ, ยุบ, เบี้ยว, ร้าว, ทะลุ หรือ มีรอยขูดถลอก เป็นต้น

การเก็บรักษาที่ไม่ถูกต้อง

• สินค้ามีสภาพที่เกิดจากการเก็บรักษาที่ไม่ถูกต้อง เช่น รอยคราบสนิม, คราบอ๊อกไซด์, คราบน้ำ เป็นต้น

เสียหายจากปัจจัยภายนอก

• สินค้าเสียหายเนื่องจากปัจจัยภายนอก เช่น ไฟตก, ไฟเกิน, ฟ้าผ่า เป็นต้น

สติ๊กเกอร์รับประกันขาดหาย

• สติ๊กเกอร์รับประกันของบริษัทเอสเซนตี้ รีซอร์สเซส มีรอยฉีก, ขาด ,หลุด, หาย, ลบ, แก้ไข หรือถูกปิดทับจนไม่สามารถมองเห็นสาระสำคัญบนตัวสติ๊กเกอร์

ใช้สินค้าผิดวิธี

• การใช้สินค้าผิดวิธี มีการแก้ไขก่อนได้รับอนุญาต เกิดอุบัติเหตุกับตัวสินค้า มีร่องรอยการเปิดแกะ หรือร่องรอยการซ่อม

มีรอยปากกาบนสินค้าหรือสติ๊กเกอร์รับประกัน

• ทางบริษัทเอสเซนตี้ รีซอร์สเซส ไม่ให้การรับประกันสินค้าที่มีรอยปากกาใดๆ เขียนลงบนตัวสินค้า และไม่สามารถลบออกได้ โดยไม่ส่งผลต่อสาระสำคัญบนตัวสติ๊กเกอร์ หรือสินค้า

หีบห่อที่ใช้บรรจุไม่เหมาะสม

• ความเสียหายหรือการสูญเสีย โดยมีสาเหตุจากหีบห่อที่ใช้บรรจุไม่แข็งแรงมั่นคงเพียงพอ หรือไม่เหมาะสมกับสินค้า

ไม่มีหมายเลขประจำตัวสินค้า

• ไม่มีหมายเลขประจำตัวสินค้า (Serial Number) สำหรับสินค้าที่ปกติต้องมี หรือมีการติดสติ๊กเกอร์เลียนแบบสติ๊กเกอร์รับประกันเอสเซนตี้ รีซอร์สเซส

เกิดจากซอฟต์แวร์

• ปัญหาที่เกิดขึ้นอันเกี่ยวเนื่องมาจากซอฟต์แวร์ ไวรัส หรือระบบปฏิบัติการ ที่ติดตั้งโดยผู้ซื้อ

สินค้าหมดอายุการรับประกัน

• สินค้าที่หมดอายุการรับประกัน หรือสินค้าที่ตรวจไม่พบอาการเสีย จะต้องเสียค่าบริการขั้นต่ำในการตกลงซ่อม หรือไม่ตกลงซ่อม

ไม่มีกล่องผลิตภัณฑ์

• การส่งเคลมสินค้าต้องส่งพร้อมกล่องบรรจุผลิตภัณฑ์