B&O E8 3rd Gen

หูฟัง True Wireless ระดับ Premium Grade

เชื่อมต่อ Bluetooth 5.1

รองรับ aptX เสียงหรูหรา

425's Recommend

• ตั้งแต่ครั้งแรกที่ ผมได้เห็นคลิปจากต่างประเทศ ผมก็มีอาการคันอยากจะได้มาเป็นเจ้าของมากๆครับ รูปร่างหน้าตา รวมไปถึง วัสดุที่ใช้นั้น อยู่ในเกรดที่เรียกได้ว่าระดับ Top ของวงการหูฟัง True Wireless เลยครับ
• พอได้ลองสัมผัส ก็ต้องบอกเลยว่า เป็นประสบการณ์ความหรูหรา บนนิ้วมือผมอย่างแท้จริงครับ
• ตัวหูฟังเนื้อเรียบเนียน ด้วยขนาดที่เล็กลงกว่ารุ่นก่อนทำให้สามารถส่วมใส่ได้อย่างสบาย และ ยังให้ความกระชับได้ดีอยู่
• ตัวกล่องชาร์จก็หุ้มหนังหรูหรา สัมผัสดี แค่หยิบออกมา เปิดกล่องก็มีแต่คนมองแล้วล่ะครับ
• โทนเสียงรุ่นนี้ถือว่าปรับจูนมาได้ดีมากๆ ให้โทนเสียงที่หรูหรา เนียนนุ่ม ละมุนหู เอามากๆ ฟังกับเพลงแนวไหนก็อร่อยครับ
• ข้อดีของโทนเสียงแบบนี้ ทำให้เราสามารถฟังเพลงได้นานโดยที่ ไม่เลี่ยน , เบื่อ หรือ ล้าหูไปเสียก่อนครับ
• อีกจุด ที่ผมชอบมากๆเลย คือ ระบบ Transparency Mode ที่สามารถรับเสียงจากภายนอกเข้ามาที่หูของเราได้ โดยที่เราไม่ต้องถอดตัวหูฟังออกจากหูเลยครับ
• พอได้ลองใช้ดูซีรี่ย์บน Netflix ก็ไม่พบอาการดีเลย์ แถมยังช่วยเพิ่มอรรถรสในการดูซีรี่ย์ขึ้นไปอีกขั้นนึงครับ (ทดสอบกับ Oneplus 7T Pro และ iPad Pro 11)
• จากการลองเล่นเกมส์ยังพบอาการดีเลย์อยู่บ้างเล็กน้อย ว่ากันแบบง่ายๆ คือ เสียงยังมาช้ากว่าตอนเรากดปุ่มไปเสี้ยววินาทีครับ
• เอาเป็นว่า ถ้าคุณไม่ได้มีปัญหาเรื่องงบประมาณ และ กำลังมองหาหูฟัง True Wireless ที่สุดจัดที่สุด ณ เวลานี้ ก็ต้องจัด B&O E8 3rd Gen ตัวนี้ไปแหละครับ

B&O E8 3rd Gen 's Highlight

• ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 7 ชั่วโมง และ 35 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับกล่องชาร์จ
• รูปทรงและขนาดของตัวหูฟังที่ออกแบบใหม่ ส่วมใส่ได้กระชับแม้มีขนาดที่เล็กลง
• โทนเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ปรังแต่งโดยทีมงาน Sound Engineer ของ Bang & Olufsen
• Transparency Mode ประสบการณ์ใหม่ของการได้ยิน สามารถปรับจูนระดับเสียงรอบตัวคุณได้ผ่าน Application
• เพิ่มจำนวนไมค์โครโฟนเบิ้ลเป็นข้างละ 2 ตัว ทำให้เสียงการสนทนาโทรศัพท์ ใสและชัดเจน
• เชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Bluetooth 5.1 ทำให้การเชื่อมต่อไหลลื่นไม่มีสะดุด
• รองรับทั้ง aptX(เฉพาะรุ่นที่รองรับ) และ AAC(บน iOS) ให้คุณภาพเสียงที่เต็มอิ่ม

Gallery

Tech Spec. 

• Driver : Electrodynamic , 5.7 mm. diameter
• Frequency Response : 20 - 20,000 Hz.
• Sensitivity : 107dB ±3dB
• Impedance : 16 Ohm
• Bluetooth : Bluetooth 5.1
• Music and Talk time : Up to 7h/35h w. case (Moderate volume)
• Charging Time : 
• Earphones : approx. 2h
• Charging Case (USB-C) : 2h
• Charging Case (Qi Wireless) : 2½h
• Quick charge : 20 minutes in the case provide 1.5 hour playtime
• Battery power
• Earphones : 
• Right (Primary) 60 mAh
• Left (Secondary) 60 mAh
• Charging Case : 530 mAh
• Waterproof level (Iprating) : IP54 (dust and splash/sweat resistant)
• Weight
• Earphones :
• Right (Primary) 5.8G/20 OZ
• Left (Secondary) 5.8G/20 OZ
• Charging case : 55g (without earbuds)
• Dimensions
• Earphones : 2.5cm h x 1.9 cm w x 2.6 cm d
• Charging Case : 7.05 cm h x 4.6 cm w x 3.45 cm d

ประสบการณ์ใช้งานจริงจากทีมงาน 425Audio

ดีไซน์หรูจริง

• เรื่องดีไซน์นั้นต้องยอมรับทางแบรนด์ B&O จริงๆว่า “เนี๊ยบมาก” ทุกตารางนิ้ว ตั้งแต่กล่องชาร์จที่เป็นพลาสติกแข็ง “หุ้มหนัง” ให้ความรู้สึกการพกพาที่ “ดูพรีเมียม หรูหรา” แน่นอนครับในความ แข็งแรงนั้น ยังแฝงความสะดวกสบายไว้ให้ด้วย ด้วยน้ำหนักโดยรวมที่ “เบาและเล็กกระทัดรัด”  ทำให้การใช้งานนั้นได้ความสะดวกสบาย ลงตัวสุดๆครับ

 รองรับการชาร์จไร้สาย (Wireless Charge)

• นอกจาก “ความหรูหรา พรีเมียม” ของกล่องชาร์จแล้ว ยังมีความพรีเมียมที่แฝงอยู่ภายในกล่องชาร์จซ่อนอยู่อีก คือ การชาร์จกล่องแบบไร้สาย(Wireless Charge) ที่ดูทันสมัย รองรับกับอุปกรณ์ที่ทันสมัยในยุคนี้จริงๆครับ

การคุยโทรศัพท์

• ภายในหูฟังนั้นมีไมค์โครโฟนสำหรับคุยโทรศัพท์ไว้ถึงข้างละ 2 ตัว ทำให้ B&O E8 3rd Gen นี้สามารถโฟกัสเสียงพูดของผู้ใช้งานได้ดีมากกว่าหูฟังหลายๆตัวที่อยู่ในคลาสเดียวกัน ให้ความรู้สึกใน “การคุยโทรศัพท์ที่ง่าย” ไม่ติดขัดครับ

สามารถเชื่อมต่อกับ Application Bang & Olufsen เพื่อตั้งค่าเสียงเพิ่มเติมได้

• เราสามารถดูแบตฯของหูฟังผ่านแอพฯ และ ปรับระดับเสียงของโหมดดูดเสียง รวมถึงปรับแต่งเสียงของหูฟังสำหรับแนวเพลงต่างๆเพิ่มเติมได้ 425° ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานมากๆเลยครับ

การดูคลิปวิดิโอ Netflix & เล่นเกม

• 425° มีโอกาสได้ลองทดสอบกับ Oneplus 7T Pro และ iPad Pro 11 พอได้ลองใช้ดูซีรี่ย์บน Netflix ก็ไม่พบอาการดีเลย์ แถมยังช่วยเพิ่มอรรถรสในการดูซีรี่ย์ขึ้นไปอีกขั้นนึง ด้วยคุณภาพเสียงที่พรีเมียมครับ 
• จากการลองเล่นเกมส์ 425° ยังพบอาการดีเลย์อยู่บ้างเล็กน้อย ว่ากันแบบง่ายๆ คือ เสียงยังมาช้ากว่าตอนเรากดปุ่มไปเสี้ยววินาทีครับ

การเปิดโหมดดูดเสียงบรรยากาศรอบข้าง (Transparency)

• สัมผัส 1 ครั้งที่หูฟังข้างซ้าย

ระบบดูดเสียงรอบข้างดีมาก (Transparency Mode)

• เป็นอีกจุด ที่ 425° ชอบมากๆเลย คือ ระบบ Transparency Mode ที่สามารถรับเสียงจากภายนอกเข้ามาที่หูของเราได้ โดยที่ “เราไม่ต้องถอดตัวหูฟังออกจากหู” ให้ระดับเสียงที่ได้ยินชัด เหมือนไม่ได้ใส่หูฟัง ที่สำคัญคือเราสามารถ เพิ่ม-ลด ระดับเสียงนั้นได้ภายในแอพฯอีกด้วย 

เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้อย่างสเถียร

• ต้องยอมรับอีกเรื่องเลยล่ะครับว่า การเชื่อมต่อของ “B&O E8 3rd Gen” นั้นสามารถทำได้สเถียรมากๆ การเชื่อมต่อไหลลื่น ไม่มีสะดุด ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Bluetooth 5.1 เรียกว่า  “พรีเมียมสมชื่อจริงๆ” 

มีจุกหูฟังชนิดโฟม 1 คู่ ไซส์ M (ComplyTM tips) ให้มาด้วย

• จุกหูฟังแบบโฟมชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษคือช่วยป้องกันขี้หูของเราไม่ให้ไปอุดท่อนำเสียงได้ อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการซีลเสียงรอบข้างในขณะใช้งาน ทำให้คุณภาพเสียงนั้นสามารถส่งมาถึงหูของเราได้อย่างเต็มเปี่ยมจริงๆครับ

Sound Review (รีวิวเสียง)

เสียงเบส (Low Frequency)

• หากใครที่ชอบฟังเสียงย่านเบสกระชับๆ ขนาดมวลกำลังดีชนิดที่ว่า “กำลังจับต้องได้” และเน้นโทนเสียงที่เป็นธรรมชาติ 425° ต้องบอกเลยว่า “ไม่ผิดหวังแน่นอน” เจ้า “B&O E8 3rd Gen” ตัวนี้สามารถตอบสนองเสียงได้อย่างแม่นยำ ให้เสียงชิ้นดนตรีเช่น กีตาร์เบส(E.bass) และกระเดื่อง(Kick Drum) ที่เป็นพระเอกในบทเพลงต่างๆได้อย่างดี ยกตัวอย่างเพลง Versace on the Floor ของ Bruno Mars ที่มีเสียงกระเดื่องและกีตาร์เบสที่หนึบหนับไปด้วยกันทั้งเพลง ก็สามารถให้เสียงที่ออกมาได้เป็นธรรมชาติมากๆ ไม่รู้สึกถึงคัลเลอร์(ไม่ถูกปรุงแต่ง) โดยที่เสียงชิ้นดนตรีดังกล่าวไม่บดบังเสียงร้องหรือเสียงชิ้นดนตรีอื่นๆด้วยครับ 

เสียงกลาง (Mid Frequency)

• ให้เนื้อเสียงร้องออกมาได้อย่างคมชัดกำลังดี โทนเสียงติดนุ่มนิดๆ เนียนหน่อยๆ ช่วยสร้างความรู้สึกของการฟังเพลงได้อย่าง “ไพเราะ” ให้เสียงชิ้นดนตรีเช่น กีตาร์,เปียโน,เครื่องสายในเพลงสไตล์ Pop Jazz อย่างเพลง Temptation ของ Diana Krall ได้แบบ “ฟินมากๆ” แต่สำหรับใครที่ชอบความกระแทกกระทั้น คงรู้สึกว่ามัน “นุ่มไปหน่อย” แต่ข้อดีของโทนเสียงที่ติดเนียนนุ่มแบบนี้ ทำให้การฟังเพลงของเรานั้นสามารถฟังได้ในระยะเวลาที่ยาวนานมากกว่าหูฟังทั่วๆไป ไม่เกิดอาการล้าหู และช่วยชะลออาการเสื่อมเสียของหูเราไว้ได้ด้วย กับคนที่ชอบใส่หูฟัง “ฟังเพลงตลอดวัน” ครับ 

เสียงแหลม (High Frequency)

• “B&O E8 3rd Gen” นั้นสามารถให้น้ำเสียงย่านแหลมได้อย่างละเอียด ย่านปลายแหลมก็สามารถตอบสนองได้ถึง อยู่ในระดับที่เรียกว่า “ดีมาก” สำหรับใครที่ชอบเสพรายละเอียดเสียงชิ้นดนตรี พวกเครื่องทองเหลืองของชุดกลอง(Hihat,Ride) ชอบความโปร่งใสในการฟัง ต้องบอกเลยว่า “เหมาะกับหูฟังตัวนี้มาก” แต่สำหรับความคิดเห็นของทีมงาน 425° นั้น อยากแนะนำให้ใช้ฟังกับเพลงในสไตล์ Mainstream,Acoustic,Jazz,Country ยิ่งถ้าเป็น Pop-Jazz นั้นยิ่งเหมาะมากๆ และเป็นสไตล์ที่ทาง 425° ชอบฟังกับหูฟังรุ่นนี้มากที่สุดครับ  

สรุป

• เสียงย่านเบส : ให้ความกระชับกำลังพอดี มวลขนาดกลาง ลงได้ไม่ลึกมาก
• เสียงย่านกลาง : ฟังเพราะ โทนเสียงเนียนนุ่ม แต่ฟังง่าย
• เสียงย่านแหลม : ฉูดฉาดกำลังดีกับเพลงสไตล์ Mainstream,Pop-Jazz แต่ยังไม่แนะนำให้ฟังถึง Metal

คะแนนจากทีมงาน 425° (ความคิดเห็นส่วนตัว)

• เสียงย่านเบส : 7/10 คะแนน 
• เสียงย่านกลาง : 7/10 คะแนน
• เสียงย่านแหลม : 8/10 คะแนน
• *** เป็นการเปรียบเทียบความรู้สึกหลังใช้กับหูฟังที่อยู่ในเรทราคาที่ใกล้เคียงกัน ***

How To Use “B&O E8 3rd Gen”

• *** หูฟังและกล่องชาร์จบรรจุแบตเตอรี่ชนิดชาร์จซ้ำได้ กรุณาใช้สายชาร์จที่แนบมาในกล่องและ Adapter หัวชาร์จที่ได้มาตรฐานเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย ***
• *** การชาร์จกับแรงดันไฟที่สูงเกินมาตรฐาน อาจทำให้แบตเตอรี่เกิดความเสียหายได้ ***
• *** กรุณาชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนการใช้งานครั้งแรก *** 
• *** กรุณาเช็ดและทำความสะอาดหูฟังให้แห้ง(ในกรณีที่หูฟังโดนละอองน้ำ) ก่อนที่จะนำหูฟังลงเคสชาร์จแบตเตอรี่ ***

การสวมใส่ (How To Wear)

• หูฟังทั้งสองข้างจะมีสัญลักษณ์ L (ข้างซ้าย) , R (ข้างขวา)
• สวมหูฟังทั้งสองข้างและบิดหูฟังกลับไปทางด้านหลังเพื่อเพิ่มความกระชับ
• *** ควรเลือกขนาดจุกหูฟังที่เหมาะกับสรีระร่างกาย ***
• *** หากสวมใส่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เสียงบรรยากาศภายนอกรั่วเข้าไปภายในหูของเราได้และอาจทำให้ไม่ได้ยินเสียงความถี่ย่านต่ำ (Low Frequency) ***

วิธีการจับคู่บลูทูธครั้งแรก

• หลังจากที่แกะ Package ให้นำหูฟังทั้งสองข้างใส่ลงไปในกล่องชาร์จ
• นำหูฟังทั้งสองข้างออกจากกล่องชาร์จ
• หูฟังทั้งสองข้างจะเข้าสู่โหมดจับคู่โดยอัตโนมัติ (เกิดไฟสถานะสีขาวก่อนและกลายเป็นสีน้ำเงิน “กระพริบเป็นจังหวะช้าๆ” ที่หูฟังทั้งสองข้าง)
• เปิดบลูทูธบนอุปกรณ์และเลือกเชื่อมต่อบลูทูธกับ “Beoplay E8”
• หลังจากที่เชื่อมต่อสำเร็จ ไฟสีน้ำเงินจะดับลง

การเชื่อมต่อ Bluetooth ครั้งต่อไป

• หยิบหูฟังทั้งสองข้างออกจากกล่องชาร์จฯ
• เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ของท่าน
• หากอุปกรณ์ของท่านเคยเชื่อมต่อกับ “Beoplay E8” หูฟังและอุปกรณ์ของท่านจะเชื่อมต่อกันเองโดยอัตโนมัติ

หากต้องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น

• *** นำหูฟังทั้งสองข้างเก็บลงกล่องชาร์จและยกเลิกการจับคู่บนอุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อไปแล้ว (Forget Device) และเชื่อมต่อบลูทูธตามปกติได้เลย ***
• หรือ นำหูฟังออกจากกล่องชาร์จและสัมผัสที่มัลติฟังก์ชั่นของหูฟังทั้งสองข้างประมาณ 5 วินาที จน “ไฟสถานะสีน้ำเงิน” ที่หูฟังเริ่มกระพริบเป็นจังหวะช้าๆ
• สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ตามขั้นตอนปกติ โดยเลือกชื่อบลูทูธบนอุปกรณ์เป็น “Beoplay E8”ครับ

วิธีรีเซ็ทหูฟัง

• ตัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์กับหูฟัง (Forget Device) บนอุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อออกทั้งหมด
• หยิบหูฟังออกจากกล่องชาร์จทั้งสองข้าง
• “สัมผัสที่หูฟังทั้งสองข้างค้างไว้” ประมาณ 10 วินาที “จนไฟสถานะสีแดง” เริ่มกระพริบ
• หลังจากที่ไฟสีแดงดับลง หูฟังจะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอน Pairing ใหม่อีกครั้ง โดยกลายเป็น “ไฟสถานะสีขาว” และ “สีน้ำเงิน” ตามลำดับ 
• สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ตามขั้นตอนปกติ โดยเลือกชื่อบลูทูธบนอุปกรณ์เป็น “Beoplay E8”ครับ

วิธีเปิดหูฟัง

• “เปิดโดยอัตโนมัติ” เมื่อหยิบขึ้นมาจากเคสชาร์จ

วิธีปิดหูฟัง

• “ปิดโดยอัตโนมัติ” เมื่อเก็บลงเคสชาร์จ

การควบคุมฟังก์ชั่นบริเวณหูฟัง

*** เป็นระบบสัมผัสทั้งสองข้าง ***

ควบคุมการเล่นเพลง 

• เล่น / หยุดเพลง : สัมผัส 1 ครั้งที่หูฟังข้างขวา 
• เล่นเพลงถัดไป : สัมผัส 2 ครั้งที่หูฟังข้างขวา 
• ย้อนไปเพลงก่อนหน้า : สัมผัส 2 ครั้งที่หูฟังข้างซ้าย  

ควบคุมการรับโทรศัพท์ 

• รับสายโทรศัพท์ : สัมผัส 1 ครั้งที่หูฟัง (ได้ทั้งสองข้าง)
• วางสายโทรศัพท์ : สัมผัส 2 ครั้งที่หูฟัง (ได้ทั้งสองข้าง)
• ปฏิเสธสายโทรศัพท์ : สัมผัสเป็นเวลา 5 วินาที (ได้ทั้งสองข้าง)
• *** ไมค์โครโฟนข้างละ 2 ตัว***

การเรียกใช้งาน Voice Assistant (Google&Siri)

• สัมผัส 3 ครั้งที่หูฟังข้างขวา
• *** สามารถเรียกใช้งานได้แค่ที่หูฟังข้างขวาเท่านั้น ***

ไฟสถานะที่เคสชาร์จ

*** บริเวณด้านหน้าเคสชาร์จจะมีไฟสถานะ led เพื่อแสดงถึงสถานะการชาร์จแบตฯของหูฟังทั้งสองข้าง ***

• เมื่อหูฟังทั้งสองข้างถูกเก็บลงกล่องชาร์จแบตฯ ไฟสถานะด้านหน้าเคสชาร์จจะเป็นสีส้ม เพื่อแสดงถึงสถานะว่า “กำลังชาร์จแบตฯหูฟัง”
• “ไฟสถานะสีส้ม” จะกลายเป็น “ไฟสถานะสีเขียว” เมื่อแบตฯหูฟังเต็มแล้ว

วิธีตรวจสอบสถานะแบตฯของกล่องชาร์จ

• *** สามารถตรวจสอบสถานะแบตฯ โดยการเปิดฝากล่องชาร์จ และดูที่ไฟสถานะหน้ากล่อง (หูฟังอยู่ภายนอกกล่องชาร์จ) ***
• ไฟสถานะสีเขียว : สามารถชาร์จหูฟังได้มากกว่า 1 ครั้ง
• ไฟสถานะสีส้ม : สามารถชาร์จหูฟังได้อีก 1 ครั้ง
• ไฟสถานะสีแดง : ควรชาร์จแบตฯ
• *** กล่องชาร์จสามารถชาร์จหูฟังซ้ำได้ทั้งหมด 4 ครั้ง ***
• *** ขณะเสียบชาร์จไฟกับกล่องชาร์จและหูฟัง ไฟสถานะด้านหน้าเคสชาร์จจะเป็น “สีส้ม” และกลายเป็น “สีเขียว” เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้ว ***
• *** กล่องชาร์จสามารถชาร์จแบตฯกับ Wireless Charge ได้ โดยใช้เวลาชาร์จประมาณ 2.5 ชม. ครับ ***

อายุการใช้งานของแบตเตอรี่

• ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 7 ชั่วโมง และ 35 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับกล่องชาร์จ
• สามารถชาร์จเพิ่มกับเคสได้อีก : 4 ครั้ง
• รวมใช้งานสูงสุด : 35 ชม.
• ใช้เวลาชาร์จแบตฯหูฟังและเคสชาร์จ : ประมาณ 2 ชม.

Product Include (อุปกรณ์ภายในกล่อง)

• หูฟัง Beoplay E8 3rd Gen
• กล่องชาร์จ
• สายชาร์จ USB-C 
• ซิลิโคนหูฟัง 4 ไซส์ (XS, S, M L)
• จุกหูฟังชนิดโฟม 1 คู่ ไซส์ M (ComplyTM tips)
• คู่มือการใช้งานเบื้องต้น (Quick Start Guide)

Waranty (เงื่อนไขการรับประกัน)

• รับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง B&O กำหนด
• *** ในส่วนของอะไหล่,สายชาร์จ,เคสชาร์จ ที่มากับตัวหูฟังจะมีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน ***
• คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวหูฟังทั้งสองข้าง, สายชาร์จ ,จุกหูฟังซิลิโคนทุกแบบ
• หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของทางโรงงาน เปลี่ยนตัวใหม่ให้ทันที
• สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง
• หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น สายขาดใน, แจ็คหัก, ฝาเคสชาร์จหัก,ก้านหูฟังหัก , สายยางซิลิโคนของเคสชาร์จขาด, เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นหูฟังผิดวิธี(ใชแอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• ปัญหาการคุยโทรศัพท์แล้วเป็นเสียงที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดตัวหูฟังอีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• อาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***เช่น กำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดหายแล้วกลับมาเป็นปกติ *** ซึ่งจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• หากตัวหูฟังหรือชิ้นส่วนของกล่องชาร์จเสียหรือชำรุด ที่เกิดจากการใช้งานไปแล้วเกินกว่า 7 วัน จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• สินค้ารุ่นนี้มีมาตรฐานการกันน้ำที่ระดับ IP54 ซึ่งเป็นการกันละอองน้ำและเหงื่อจากการออกกำลังกายเท่านั้น หากสินค้าเสียหายจากการลงไปแช่น้ำหรือจากแรงดันน้ำสูงๆในทุกกรณี จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน