ZMI QB815 Power Bank (15600 mAh | PD40W | QC3.0 | Hub)

สินค้าหมด
SKU
AP071-A1-A
฿1,990.00
สรุปรายละเอียดสินค้า

425Degree Recommend สุดยอดแบตสำรองสเป็คสุดยอดด กับ ZMI QB815 15000mAh Powerbank QC3.0+PD2.0+USB-HUB จุดเด่นคือสเป็คการจ่ายไฟสุดแรงทั้ง Quick Charge 3.0 และ PD นอกจากนี้ยังชาร์จไฟเข้าแบตได้เร็วด้วย Quick Charge 3.0/PD เช่นกัน ทำให้ชาร์จแบตสำรองจนเต็มใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น (ต้องใช้อแดปเตอร์ที่จ่ายไฟ 45W) จุดเด่นที่เหนือกว่าแบตสำรองรุ่นอื่นๆคือ QB815 สามารถเสียบกับคอมพิวเตอร์เพื่อเพิ่มช่อง USB ได้ด้วยครับ สำหรับใครที่ชอบแบตสำรองแรงๆและเป็น HUB ได้อีกต้องตัวนี้เลยสุดๆแล้ว

แชร์
เข้าสู่ระบบเพื่อรับเงิน Degree Points เพื่อใช้ร่วมกัน!

ZMI QB815 15000mAh Powerbank QC3.0+PD2.0+USB-HUB ( Powerbank 15600 mAh )

แบรนด์

  • เเบรนด์ ZMI เครือเดียวกับ Xiaomi

วัสดุ

  • บอดี้แบตสำรองทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์คุณภาพสูง ทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
  • ผิวด้านนอกมีการเคลือบสารกันรอย เพื่อลดรอยขนแมวครับ

ขนาดและน้ำหนัก

  • กว้าง 8.1 ซม. ยาว 16 ซม. หนา 2.1 ซม.
  • หนัก 392 กรัม

ข้อมูลเชิงเทคนิค

  • Total Wattage 56.16Wh
  • Normal Input : 5V/3A
  • Quickcharge Input : 5V/3A, 9V/3A, 12V/3A, 15V/3A, 20V/2.25A (Quickcharge&PD)
  • Normal Output : 5V/2.4A
  • Output USB : 5V/2.4A, 9V/2A, 12V/1.5A (Quickcharge) Max 18W
  • Output Type-C : 5V/3A, 9V/3A, 12V/3A, 15V/2.66A, 20V/2A (Quickcharge&PD) Max 40W
  • Capacity : 15600mAh

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ZMI QB815 15000mAh Powerbank QC3.0+PD2.0+USB-HUB x 1
  • สายชาร์จ Micro USB พร้อมหัวต่อ Type-C x 1 (เป็นหัวต่อตัวเล็กๆที่เสียบกับปลายสายเท่านั้น)
  • สายชาร์จ Type-C to Type-C x 1

อุปกรณ์รองรับการใช้งาน

การชาร์จด้วยช่อง USB

  • อุปกรณ์ทุกชนิดที่รองรับการจ่ายไฟผ่านช่อง USB 

การชาร์จด้วยช่อง Type-C

  • iPhone X, 8, 8 Plus สามารถชาร์จได้โดยใช้สาย Type-C to Lightning
  • Samsung Galaxy S9/S9 Plus
  • Samsung Galaxy S8/S8 Plus
  • Samsung Galaxy Note 8
  • Samsung Galaxy C9 Pro
  • Samsung Galaxy A5 (2017)
  • Samsung Galaxy C7 Pro
  • Samsung Galaxy C9 Pro
  • Huawei Honor 8
  • Huawei P9/P9 Plus
  • Huawei P10/P10 Plus
  • Huawei Mate9/Mate9 Pro
  • Huawei Nova/Nova Plus
  • Huawei Nexus 6P
  • ASUS ZenFone 3
  • ASUS ZenFone 3 Deluxe
  • ASUS ZenFone 3 Ultra
  • Google Pixel Google Pixel Xl
  • HTC 10
  • Sony Xperia XZ Premium
  • Sony Xperia X Compact
  • Xiaomi Mi 5
  • Vivo Xplay5 Elite
  • Oppo F3
  • Motorola Moto Z
  • Motorola Moto M
  • LG Nexus 5X
  • LG G5
  • LG V20
  • Mi Laptop Air 12.5
  • HUAWEI MATE BOOK
  • MacBook Pro
  • New MacBook 12"
  • หรืออุปกรณ์ที่มีพอร์ตชาร์จแบบ Type-C ครับ

การรับประกัน

  • ทางร้าน 425degree รับประกันสินค้าภายใน 1 ปีในความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและความเสียหายที่ว่านั้นไม่รวมถึงการกระทำของผู้ใช้งานหรือการใช้งานที่ผิดวิธี โดยลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ
  • ***สำหรับการชาร์จเข้าแบตสำรอง แนะนำว่าควรใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟได้ตรงตามสเปคที่ระบุมาเท่านั้นนะครับ หากใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟน้อยกว่าที่สเปคระบุ จะทำให้ชาร์จเข้าได้ช้าและส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หากลูกค้าใช้หัวชาร์จที่ไม่ตรงสเปค แล้วอุปกรณ์เกิดความเสียหาย กรณีนี้จะไม่รวมอยู่ในการรับประกันนะครับ

ประสบการณ์ใช้งานจริงจาก 425Degree

  • จากที่เราได้ลองใช้งาน รู้สึกว่า ZMI QB815 เป็นแบตสำรองที่มีสเป็คสูงทุกด้านอย่างแท้จริง ไม่ว่าสเป็คการจ่ายไฟสุดแรงทั้ง Quick Charge 3.0 และ PD อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็น HUB เพื่อเพิ่มช่อง USB ให้กับคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย มาพร้อมความจุ 15600mAh ชาร์จได้สบายๆหลายวันครับ 

  • ถึงแม้ว่า ZMI จะเป็นแบรนด์ใหม่ แต่ก็น่าเชื่อถือเพราะเป็นแบรนด์ในเครือเดียวกับ Xiaomi ผู้ผลิต Smartphone ชื่อดังจากประเทศจีนที่เด่นเรื่องความคุ้มค่า สินค้าของแบรนด์นี้มักจะมีสเป็คแรงมากในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป

  • ดีไซน์ของ ZMI QB815 เป็นแบตสำรองที่ดูพรีเมี่ยม ตัวบอดี้ทำจากอลูมิเนียมสีโทนน้ำเงินเข้มขัดด้านดูเท่หรู ตัดขอบข้างด้วยยางสีดำทำให้จับได้กระชับมือดีทีเดียว
  • ผิววัสดุมีการเคลือบสารกันรอย แต่จากที่แอดมินลองจับเล่นดูตัวนี้ค่อนข้างขึ้นรอยขนแมวง่ายอยู่ครับ แต่เนื่องจากผิวด้านเลยสังเกตุเห็นได้ยากครับ และไม่มีผลต่อการใช้งานครับ

  • แบรนด์ ZMI เค้าใส่ใจในรายละเอียดมากจริงๆครับ มีสติกเกอร์กันฝุ่นปิดช่อง USB มาด้วย ต้องแกะออกก่อนใช้งานนะครับ

  • เมื่อแกะสติกเกอร์ออกแล้วจะพบกับช่องชาร์จ 3 ช่อง มีช่อง USB 2 ช่อง และ Type-C 1 ช่อง
    • ช่อง USB สามารถจ่ายไฟออกแบบ Quick Charge 3.0 ได้โดยจ่ายสูงสุดที่ 5V/2.4A, 9V/2A, 12V/1.5A และถึง Smartphone รุ่นอื่นๆที่ไม่รองรับก็สามารถชาร์จได้โดยแบตสำรองจะจ่ายไฟสูงสุดที่ 5V/2.4A
    • ตรวจสอบรุ่น Smartphone ที่รองรับระบบ Quick Charge ได้ที่นี่ คลิก
    • ช่อง Type-C นี้สามารถจ่ายไฟออกแบบ Quick Charge 3.0 และ PD ได้ โดยจะจ่ายสูงสุดที่ 5V/3A, 9V/3A, 12V/3A, 15V/2.66A, 20V/2A
    • ***PD สามารถใช้งานได้กับ iPhone X, 8, 8 Plus เท่านั้น และจำเป็นต้องใช้สาย Type-C to Lightning ในการชาร์จ (ไม่มีมาให้ในกล่อง)*** 
    • ***การเสียบชาร์จไฟออกพร้อมกันมากกว่า 1 ช่อง : ช่อง Type C จะสามารถจ่ายแบบ PD ได้เสมอไม่ว่าจะชาร์จกี่เครื่อง, ส่วนช่อง USB อีก2 ช่อง หากมีการเสียบชาร์จมากกว่า 1 ช่อง ระบบชาร์จเร็ว QC จะไม่ทำงานครับ เป็นเพียงการชาร์จธรรมดาที่ 5V 2.4A เท่านั้น
  • ส่วนการชาร์จไฟเข้านั้น ต้องชาร์จผ่านช่อง Type-C เท่านั้นครับ

  • เรามาลองเทสการจ่ายไฟกันนะครับ ด้านล่างหลังจากนี้แอดมินจะเทสโดยการเสียบผ่านช่อง USB ที่สามารถจ่ายไฟแบบ QC 3.0 ได้นะครับ โดยสายที่ใช้ แอดมินจะใช้สายที่ให้มาในกล่องเลยครับ
  • จากการลองเทสการจ่ายไฟกับ Galaxy S8 ผ่านช่อง USB พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ S8 สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 9.07V 1.14A ซึ่งถือว่าเป็นการชาร์จด่วน ที่มีปริมาณไฟที่มากพอจะชาร์จ S8 ให้เต็มได้เร็วเลยครับ

  • จากการลองเทสการจ่ายไฟกับ Galaxy Note 4 ผ่านช่อง USB พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ Note 4 สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 9.06V 1.60A ซึ่งถือว่าเป็นการชาร์จด่วน ที่มีปริมาณไฟที่มากพอจะชาร์จ Smartphone ให้เต็มได้เร็วเลยครับ

  • จากการลองเทสการจ่ายไฟ พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ iPhone 8 Plus ผ่านช่อง USB สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.06V 1.75A ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟที่สูงทำให้ชาร์จ iPhone ได้เต็มเร็วกว่าที่ชาร์จปกติ (5V/1A) ครับ

  • มาที่ Tablet กันบ้าง ทีมงานได้ลองเทสการจ่ายไฟกับ Tablet พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ Tablet สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.06V 1.70A ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟที่มากพอจะชาร์จ Tablet ให้เต็มได้ครับ

  • คราวนี้เราลองมาชาร์จในช่อง Type-C กันบ้างนะครับ เพื่อจะได้เห็นว่าจ่ายไฟได้เร็วขนาดไหน
  • เมื่อลองเสียบชาร์จ Macbook Pro (รุ่นนี้รองรับ PD) พบว่าเมื่อเสียบในช่อง Type-C สามารถจ่ายไฟได้ที่ 14.74V 2.9A ซึ่งคำนวณออกมาเป็นไฟถึง 42W ถือว่าเป็นการชาร์จด่วน (PD) และจ่ายไฟได้แรงมากๆเลยครับ ซึ่งสามารถใช้สาย Type-C to Type-C ที่แถมมาให้ในกล่องได้เลยครับ 

  • เมื่อลองเสียบชาร์จ iPhone 8 Plus (รุ่นนี้รองรับ PD) พบว่าเมื่อเสียบชาร์จ iPhone 8 Plus ในช่อง Type-C สามารถจ่ายไฟได้ที่ 8.81V 1.64A ซึ่งถือว่าเป็นการชาร์จด่วน (PD) ทำให้ชาร์จได้เร็วกว่าที่ชาร์จปกติ (5V/1A) ครับ (ในการชาร์จแบบ PD จำเป็นต้องใช้สาย Type-C to Lightning เท่านั้น ซึ่งไม่มีมาให้ในกล่องนะครับ ต้องซื้อแยกครับ)

  • ส่วน Android ก็สามารถชาร์จในช่อง Type-C ได้เช่นกัน เราได้ลองเสียบชาร์จ Galaxy S9 เพื่อดูว่าสามารถจ่ายไฟแบบ Quick Charge ในช่องนี้ได้หรือไม่ ผลที่ได้คือ จ่ายไฟแบบ Quick Charge ได้ครับ โดยสังเกตได้จากด้านล่างหน้าจอ ซึ่งชาร์จเร็วกว่าแบตสำรองทั่วไปอย่างแน่นอน

  • การจ่ายไฟของเจ้าตัวนี้จะมีเงื่อนไขอยู่นิดหน่อยนะครับ ตรงที่ช่อง USB จะสามารถจ่ายไฟแบบ Quickcharge ได้ก็ต่อเมื่อเสียบเพียงช่องเดียวเท่านั้น ส่วนช่อง Type-C นั้น สามารถจ่ายไฟแบบ PD ได้เสมอไม่ว่าจะเสียบกี่เครื่องก็ตามครับ เดี๋ยวแอดมินจะเทสให้ดูเพื่อให้เห็นภาพนะครับ
  • จากภาพด้านล่าง เป็นการลองเสียบช่อง USB ทั้ง 2 ช่องพร้อมๆกัน จะเห็นเลยว่าแบตสำรองจะไม่จ่ายไฟแบบ Quickcharge เลยสักช่องนะครับ (แต่ถ้าถอดให้เหลือชาร์จเพียงเครื่องเดียว จะจ่ายเป็น Quickcharge ได้ครับ)

  • จากภาพด้านล่างทั้ง 2 ภาพนะครับ แอดมินลองเทสให้ดูว่าถ้าเสียบช่อง Type-C เพื่อชาร์จ Macbook Pro เครื่องเดียว จะจ่ายไฟแรงแบบ PD ที่ 14.74V 2.9A  และเมื่อลองนำ Galaxy Note8 มาเสียบเพิ่ม พบว่าไฟที่จ่ายให้ Macbook Pro แทบไม่ลดลงเลยครับ จะจ่ายอยู่ที่ 14.75V 2.8A แต่สำหรับ Galaxy Note8 จะจ่ายไฟแบบธรรมดา ไม่จ่าย Quickcharge นะครับ

สรุปเรื่องการจ่ายไฟนะครับ

สำหรับช่อง USB

  • หากเสียบชาร์จ iPad/Tablet 1-2 เครื่อง ชาร์จได้ปกติครับ
  • หากเสียบชาร์จ iPhone/Smartphone 1-2 เครื่อง ชาร์จได้ปกติครับ
  • หากเสียบอุปกรณ์มากกว่า 1 ชิ้นจะไม่จ่ายไฟแบบ Quickcharge

สำหรับช่อง Type-C

  • หากเสียบชาร์จ iPad/Tablet 1 เครื่อง ชาร์จได้ปกติครับ
  • หากเสียบชาร์จ iPhone/Smartphone 1 เครื่อง ชาร์จได้ปกติครับ
  • หากเสียบชาร์จ Macbook 12", Macbook Pro, Mi Laptop Air 12.5, HUAWEI MATE BOOK ชาร์จได้ปกติครับ

ส่วนการชาร์จพร้อมๆกันทั้ง 3 ช่อง

  • หากเสียบชาร์จ iPad/Tablet 1-3 เครื่อง ชาร์จได้ปกติครับ
  • หากเสียบชาร์จ iPhone/Smartphone 1-3 เครื่อง ชาร์จได้ปกติครับ
  • หากเสียบชาร์จไฟเข้า Macbook หรือชาร์จอุปกรณ์อื่นๆที่จ่ายไฟแบบ PD ก็ยังสามารถเสียบชาร์จไฟที่ช่อง USB ที่เหลือได้ครับ โดยการจ่ายไฟแบบ PD ยังสามารถจ่ายได้เหมือนเดิมโดยไม่ถูกดึงไฟครับ
  • สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการให้จ่ายไฟแบบ Quickcharge ต้องเสียบเพียงเครื่องเดียวเท่านั้นครับ จึงจะจ่าย Quickcharge หากเสียบมากกว่า 1 เครื่องจะไม่จ่าย Quickcharge ครับ
  • กล้องทั่วไป หรืออุปกรณ์อื่นๆ ให้ดูตามปริมาณไฟที่ใช้นะครับ (ดูได้ที่คู่มืออุปกรณ์) ถ้าเป็น 1A ให้คิดเหมือน Smartphone ถ้าเป็น 2A ให้คิดเป็น Tablet ครับ

การใช้งานโดย 425degree

  • *การทดสอบโดยการชาร์จทิ้งไว้เฉยๆ การใช้งานจริงจะขึ้นอยู่กับการเล่นโทรศัพท์ระหว่างชาร์จ แสงหน้าจอ Notification ด้วยซึ่งอาจทำให้รอบน้อยกว่าที่แจ้งในที่นี่ได้ครับ *(เช่น 10000 mAh ตัวแบตจะมีไฟส่วนหนึ่งที่สูญเสียไปที่ตัวอุปกรณ์ระหว่างที่ชาร์จประมาณ 30% และจะมีอีกส่วนหนึ่งที่สูญเสียไฟไปในการแปลงไฟเข้าสู่เครื่องโทรศัพท์ ดังนั้นเวลาชาร์จจริงจะไม่มีแบตสำรองตัวไหนชาร์จได้เต็ม 10000 mAh เต็มตาม Spec ครับ)
  • ทางแบรนด์เองได้เครมไว้ว่าจากแบต 15600 mAh สามารถใช้ได้จริงที่ 9000 mAh ครับ
  • iPhone X (2716 mAh ) = ประมาณ 3 รอบกว่าๆ
  • iPhone 8 (1821 mAh ) = ประมาณเกือบๆ 5 รอบ
  • iPhone 8 Plus ( 2675 mAh ) = ประมาณ 3 รอบกว่าๆ
  • iPhone 7 (1960 mAh ) = ประมาณ 4 รอบครึ่ง
  • iPhone 7 Plus ( 2900 mAh ) = ประมาณ 3 รอบ
  • iPhone 6/6s ( 1810 mAh ) = ประมาณเกือบๆ 5 รอบ
  • iPhone 6 Plus/6s Plus ( 2915 mAh ) = ประมาณ 3 รอบ
  • Galaxy S8 (3000 mAh) = ประมาณ 3 รอบ
  • Galaxy S8 Plus (3500 mAh) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
  • Galaxy S7 (3000 mAh) = ประมาณ 3 รอบ
  • Galaxy S7 Edge (3600 mAh) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
  • Galaxy S6 ( 2550 mAh ) = ประมาณ 3 รอบครึ่ง
  • Galaxy S6 Edge ( 2600 mAh ) = ประมาณ 3 รอบกว่า
  • iPad mini 4 (5124 mAh) = ประมาณเกือบ 2 รอบ
  • iPad Air 2 (7340 mAh) = ประมาณ 1 รอบกว่า
  • iPad Pro (10307 mAh) = ประมาณเกือบ 1 รอบ
  • Huawei P9 (3000 mAh) = ประมาณ 3 รอบ
  • Huawei P9 Plus (3400 mAh) = ประมาณเกือบ 3 รอบ
  • Huawei Mate 9 (4000 mAh) = ประมาณ 2 รอบกว่า
  • Huawei Mate9 Pro (4000 mAh) = ประมาณ 2 รอบกว่า
  • *** Huawei ใช้ Chipset ชาร์จเร็วของตัวเองเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่รองรับ Quick Charge ของ Qualcomm แต่ก็สามารถชาร์จได้ปกติ (5V/2.4A) ครับ
  • ในกล่องแถมสายมาให้ 2 เส้นดังนี้ 1.สาย USB to Micro USB+หัวต่อ Type-C 2.สาย Type-C to Type-C
    • USB to Micro USB+หัวต่อ Type-C เป็นสายที่มาพร้อมหัวต่อจาก Micro-USB เป็น Type-C ได้ มีความยาว 30 ซม. แอดมินว่าเป็นความยาวที่กำลังดีเหมาะสำหรับใช้กับแบตสำรองไม่ยาวจนเกินไป และสายยังรองรับการจ่ายไฟแบบ Quick Charge ด้วยครับ หากอยากเปลี่ยนไปชาร์จแบบ Type-C ก็เพียงแค่นำหัวต่อที่ติดกับปลายสายมาสวมทับเข้าที่หัว Micro USB เท่านี้ก็จะได้สาย USB to Type-C แล้วครับ

    • Type-C to Type-C เป็นสายที่มีความยาว 50 ซม. รองรับ Quick Charge ด้วยครับ ซึ่งสายตัวนี้รองรับการจ่ายไฟทั้งแบบ Quickcharge และ PD ครับ

  • ส่วนการชาร์จไฟเข้าแบตสำรองนั้น สามารถใช้ช่อง Type-C ได้เท่านั้นครับ (ช่อง Type-C รองรับทั้งไฟเข้าและออกเลยครับ) ซึ่งการชาร์จไฟเข้าแบตสำรองสามารถชาร์จแบบ Quick Charge 3.0 หรือแบบ PD ก็รองรับเช่นกันครับ โดยรองรับกระแสไฟสูงสุดที่ 5V/3A, 9V/3A, 12V/3A, 15V/3A, 20V/2.25A และถ้าใช้ Adapter ที่จ่ายไฟต่างกัน เวลาในการชาร์จก็จะต่างกัน ดังนี้ครับ
    • Adapter ที่จ่ายไฟ 45W จะใช้เวลาชาร์จประมาณ 3 ชั่วโมง
    • Adapter ที่จ่ายไฟ 18W จะใช้เวลาชาร์จประมาณ 5 ชั่วโมง
    • แต่ถ้าใช้ Adapter ที่จ่ายไฟ 5V/2A หรือ 10W จะใช้เวลาในการชาร์จ 9-10 ชั่วโมง
    • หรือใช้ Adapter ที่จ่ายไฟ 5V/1A หรือ 5W จะใช้เวลาในการชาร์จ 12-15 ชั่วโมง

  • ช่องชาร์จเสียบและถอดได้ง่ายครับ ไม่ฝืดหรือหลวมจนเกินไป และช่องแต่ละช่องให้มาค่อนข้างห่างกันทำให้สามารถเสียบใช้งานพร้อมๆกันได้ครับ และหัวชาร์จที่มีขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานก็สามารถใช้งานได้เช่นกันครับ

  • รุ่นนี้มาพร้อมปุ่มกดเช็คปริมาณแบต โดยจะแสดงสถานะเป็นไฟ LED สีขาวจำนวน 4 ดวง ซึ่ง 1 ดวงก็หมายถึงปริมาณแบตประมาณ 25 เปอเซนต์ครับ
  • รุ่นนี้พิเศษตรงที่มีโหมดสำหรับการเป็น USB HUB วิธีใช้งานคือให้เรากดคลิกที่ปุ่มเชคไฟ 2 ครั้งติดกัน (ดับเบิ้ลคลิก) ไฟสีฟ้าจะติดขึ้น ซึ่งจะเข้าสู่โหมดการเป็น USB HUB ครับ 
  • การเป็น USB HUB หมายถึง เมื่อเรานำแบตสำรองตัวนี้ไปต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุค จะทำให้เราเหมือนเพิ่มช่อง USB ขึ้นมา 2 ช่องครับ เราสามารถเสียบมือถือหรือคีร์บอร์ด หรือเม้าส์ ก็ยังได้ครับ ซึ่งสามารถ Syn ข้อมูลผ่านตรงนี้ได้เลยครับ
  • หากเราไม่คลิกที่ปุ่มเชคไฟ 2 ครั้งติดกัน หรือไม่มีขึ้นไฟสถานะสีฟ้า จะไม่สามารถใช้งานโหมด USB HUB ได้ครับ
  • ***เมื่อเสียบสาย Type-c to Type-c ระหว่างโน๊ตบุค กับแบตสำรอง จะเป็นการชาร์จไฟจากแบตสำรองเข้าโน๊ตบุคเท่านั้นครับ ไม่สามารถจ่ายไฟจากโน๊ตบุคเพื่อเข้าแบตสำรองได้นะครับ
  • ***เมื่อต้องการชาร์จไฟเข้าแบตสำรอง ต้องใช้อแดปเตอร์ในการชาร์จไฟเข้าเท่านั้นครับ

  • และการกดปุ่มเชคสถานะไฟติดกัน 2 ครั้ง ยังเป็นการเปิดโหมดที่จ่ายไฟแบบ Safety Mode ซึ่งทำให้ปลอดภัยกับอุปกรณ์ที่ควรใช้กระแสไฟน้อยๆในการชาร์จเช่น หูฟังบลูธูทครับ ซึ่งมีประโยชน์มากๆเลยครับและไม่เคยเจอว่ามีแบตสำรองเจ้าไหนใส่ฟังก์ชั่นนี้มาเลยครับ

  • เวลาเสียบชาร์จไฟออกให้อุปกรณ์ ไฟสถานะจะกระพริบเพื่อบอกปริมาณแบตคงเหลือครับ

  • ขณะชาร์จไฟเข้า ไฟสถานะจะขึ้นทีละจุดจนกว่าแบตจะเต็ม ซึ่งเมื่อชาร์จไฟเข้าจนเต็ม ระบบข้างในจะมีการตัดไฟอัตโนมัติครับ แต่ไฟ LED ที่แบตจะยังคงติดอยู่จนกว่าจะมีการถอดปลั๊กออกครับ

  • ตัวนี้มีระบบชาร์จอัตโนมัติครับ คือเมื่อเราเสียบสายชาร์จเข้ากับตัว Smartphone ก็จะทำการชาร์จทันที ไม่ต้องกดปุ่มใดๆให้วุ่นวายครับ

  • แบตสำรองรุ่นนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ทั้งป้องกันความร้อนเกิน, ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งปลอดภัยหายห่วงเลยครับ

ข้อมูลทั่วไป

  • เเบรนด์ ZMI เครือเดียวกับ Xiaomi
  • Cell Battery เป็นแบบ Lithium – Polymer Battery ช่วยป้องกันความร้อน แบตบวม และการระเบิดได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือว่าปลอดภัยมากครับ
  • ดีไซน์โค้งมน ตัวอุปกรณ์ทำอลูมิเนียมอัลลอยด์ คุณภาพสูงสามารถระบายความร้อนได้ดี และ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
  • ผิววัสดุมีการเคลือบสารกันรอยเพื่อลดรอยขนแมวครับ

  • งานประกอบดูเรียบร้อยไม่มีตำหนิ ถึงแม้จะเป็นแบรนด์น้องใหม่แต่ก็ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม

  • และยังมาพร้อมความจุ 15600 mAh โดยมีช่องจ่ายไฟแบบ USB 2 ช่อง และ Type-C อีก 1 ช่อง

  • ช่อง Type-C สามารถจ่ายไฟออก-ชาร์จไฟเข้าได้ในช่องเดียวกัน 
  • สามารถใช้สาย Type-C to Type-C ในการ Sync ข้อมูลได้ครับ
  • เมื่อเสียบสาย Type-C to Type-C เข้ากับแบตสำรองและโน๊ตบุคหรือ Macbook จะเป็นการจ่ายไฟจากแบตสำรองเข้าโน๊ตบุคหรือ Macbook เท่านั้นครับ ไม่สามารถชาร์จไฟเข้าแบตสำรองผ่านโน๊ตบุคได้นะครับ

  • แบตสำรองรุ่นนี้รองรับการจ่ายไฟเข้าแบตสำรองด้วยระบบ PD จึงทำให้ประหยัดเวลาขึ้นเยอะเลยครับ แอดมินเลยอยากแนะนำให้หาอแดปเตอร์ที่รองรับ PD มาใช้คู่กันครับ

  • ตัวนี้มีระบบชาร์จอัตโนมัติครับ คือเมื่อเราเสียบสายชาร์จเข้ากับตัว Smartphone ก็จะทำการชาร์จทันที

  • ด้านหลังของแบตสำรองจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายไฟครับ ลงรายละเอียดไว้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว

  • สามารถต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานเป็น HUB เพิ่มช่อง USB ให้แก่คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุคได้อีก 2 ช่องครับ จะใช้เสียบ USB, คีร์บอร์ด หรือเม้าส์ไร้สายก็สะดวกหมดครับ

  • แถมสายชาร์จ Micro USB พร้อมหัวแปลง Type-C ซึ่งรองรับ Quick Charge และสายชาร์จ Type-C to Type-C ซึ่งรองรับการจ่ายไฟทั้งแบบ Quick Charge และ PD ครับ

  • สำหรับใครที่มองหาแบตสำรองสเป็คดี ความจุเยอะ จ่ายไฟแรง มีทั้ง QC3.0 และ PD ในตัวเดียวกัน แอดมินแนะนำว่า ZMI QB815 15000mAh Powerbank QC3.0+PD2.0+USB-HUB คืออีกรุ่นหนึ่งที่ยอดเยี่ยมมากครับ

การทำความสะอาดและดูแลรักษาเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

  • ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์ครับ
  • หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
  • ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์
  • ขณะเสียบใช้งานหรือถอดออก ควรจับที่ตัวบอดี้ เพื่อป้องกันสายไฟหักหรือขาดครับ
  • หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้ (และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ)
ข้อมูลเพิ่มเติม
SKUAP071-A1-A
แบรนด์ZMI
0
เรทติ้ง:
0% of 100
Write Your Own Review
เฉพาะสมาชิกเท่านั้นที่สามารถเขียนรีวิวได้ กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก
คำถามลูกค้า
ไม่มีคำถาม
โปรดทราบ, เฉพาะผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบเท่านั้นที่สามารถส่งคำถามได้