Zikko PowerBag Pro (Powerbank 10000 mAh+PD30W)

425Degree Recommend

ขอแนะนำ Zikko PowerBag Pro (Powerbank 10000 mAh+PD30W) แบตสำรองสุดล้ำฟังก์ชั่นจัดหนักทั้งชาร์จเร็ว PD สูงสุดถึง 30W ชาร์จเร็วได้ตั้งแต่ iPhone ไปจนถึง Macbook แถมยังใช้เป็น Hub ถ่ายโอนข้อมูลหรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอื่นๆได้ด้วย บอกเลยว่าฟังก์ชั่นคุ้มและครบขนาดนี้ ลงทุนครั้งเดียวคุ้มแน่นอนครับ

• จากที่ 425 ได้ลองใช้งานจริง ที่ชอบมากคือเรื่องความพิถีพิถันในการออกแบบครับ ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมี่ยมที่สุด รวมถึงการเก็บรายละเอียดส่วนประกอบด้วยเครื่องจักร CNC คุณภาพสูงซึ่งแทบไม่เคยเห็นในแบตสำรองแบรนด์ไหนมาก่อน แถมรุ่นนี้ยังการันตีด้วยรางวัลด้านดีไซน์ระดับโลกมาแล้วด้วย รับรองเลยว่าเรื่องความเนี๊ยบไม่ทำให้ผิดหวังครับ
• ส่วนฟังก์ชั่นการชาร์จ รุ่นนี้ Output รวมสูงถึง 42W ส่วนช่อง USB-C ยังรองรับชาร์จเร็ว PD (30W) ด้วย จะชาร์จเครื่องเดียวหรือชาร์จพร้อมกัน 2 เครื่อง ก็ยังชาร์จเร็วได้แบบไม่ลดกำลังไฟเลยครับ
• รุ่นนี้บอกเลยว่าเหมาะมากสำหรับสาวก Apple เพราะทางแบรนด์ Zikko ตั้งใจออกแบบ PowerBag Pro รุ่นนี้ให้สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ Apple หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPod, iPad, Macbook รวมไปถึง Airpods และ Apple Watch ด้วย

คลิปจากทางแบรนด์ Zikko

Highlight

• รองรับการชาร์จเร็วแบบ PD ได้สูงสุด 30W ชาร์จเร็วได้ทั้ง iPhone Xs/Xs Max, iPhone XR, iPhone X, iPhone 8/8 Plus, iPad Pro 11/12.9 นิ้ว (2018), Macbook Air 13 นิ้ว, MacBook 12 นิ้ว
• ช่อง USB ใช้เป็น Hub ถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์และใช้ต่ออุปกรณ์เสริมอื่นๆได้ สะดวกกว่าไม่ต้องใช้สายแปลงหรืออะแดปเตอร์ต่อพ่วงอื่นๆให้ยุ่งยาก
• ดีไซน์สวย งานละเอียดทุกส่วนประกอบ การันตีด้วยรางวัลด้านการออกแบบอุปกรณ์ยอดเยี่ยมจากเวทีระดับโลกอย่าง iF Design Award (ปี 2018) จากประเทศเยอรมนี

Product Detail รายละเอียดสินค้า

• แบรนด์ : Zikko จาก Hongkong
• ชื่อรุ่น : PowerBag Pro (Powerbank 10000 mAh+PD30W) (PB10000)
• วัสดุ : Titanium-Aluminium alloy
• สี : Black(ดำ)
• ขนาด : กว้าง 7.24.ซม. ยาว 13.46 ซม. หนา 1.9 ซม.
• น้ำหนัก : 255 กรัม
• มาพร้อมความจุ 10000 mAh เหมาะกับใช้งาน 1-2 วัน ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน
• ชาร์จพร้อมกันได้ถึง 2 เครื่อง โดยที่ช่อง USB-C ยังสามารถจ่ายไฟแบบชาร์จเร็ว PD ได้ปกติ
• ช่อง USB-C รองรับการชาร์จเร็วแบบ PD จ่ายไฟสูงสุดที่ 30W ชาร์จเร็วได้ทั้ง iPhone, iPad Pro รวมไปถึง Macbook 12/13 นิ้ว
• ช่อง USB2.0 รองรับการจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 2.4A ขึ้นอยู่กับการรองรับของแต่ละอุปกรณ์ด้วย
• รองรับการชาร์จเร็ว PD ในการชาร์จเข้าแบตสำรองด้วย ช่วยประหยัดเวลาในการชาร์จไปหลายเท่าตัว
• ผลิตด้วยวัสดุ Titanium-Aluminium alloy ที่ผ่านกระบวนการ Anodic oxidation เคลือบผิววัสดุด้วยกระแสไฟฟ้า ทำให้ตัววัสดุมีความแข็งแรงขึ้นจากเดิม และเคลือบทับอีกชั้นด้วยสารป้องกัน UV
• ใช้เครื่องจักร CNC คูณภาพสูงในการเก็บรายละเอียดส่วนขอบ รวมถึงปุ่ม Power และออกแบบให้มี Texture คล้ายๆแผ่น CD เพิ่มความสวยงามให้กับอุปกรณ์
• ช่อง USB สามารถใช้ถ่ายโอนข้อมูลจาก USB Flash Drive/USB Card Reader ไปยัง Macbook, Laptop, Smartphone/Tablet ได้ นอกจากนี้ยังใช้เป็น HUB เพิ่มช่อง USB สำหรับเชื่อมต่อกับ เมาส์, คีย์บอร์ดได้อีกด้วย
• เข้าสู่โหมดการเชื่อมต่อได้ง่าย เพียงแค่กดปุ่ม Power ค้างไว้ 3 วินาที ไฟสถานะสีขาวจะกระพริบเรียงไปทีละดวง
• หากต้องการกลับสู่โหมดชาร์จ ให้กดปุ่ม Power ค้างไว้ 3 วินาที
• ไฟสถานะเป็นสีขาว 4 ดวง สามารถเช็คปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือได้ง่ายๆด้วยการกดปุ่ม Power 1 ครั้ง
• เมื่อเสียบชาร์จเข้าแบตสำรองจนเต็มหรืออยู่ในโหมด standby ไฟสถานะจะดับลงอัตโนมัติภายใน 10 วินาที แต่การชาร์จจากแบตสำรองไปยังอุปกรณ์จนเต็ม ไฟจะติดค้างอยู่จนกว่าจะถอดสายชาร์จออกครับ
• ในชุดจะแถมสาย Lightninig (ยาว 13 ซม.) มาให้ด้วย สามารถใช้เป็นสายชาร์จเข้าตัวแบตสำรองและชาร์จออกให้กับอุปกรณ์ได้
• สายชาร์จมาพร้อมมาตรฐาน MFI การันตีเลยว่าใช้ชาร์จ iPhone/iPad/iPod ได้อย่างสบายใจหายห่วง ไม่ขึ้นแจ้งเตือนอุปกรณ์ไม่รองรับแน่นอน แม้จะอัพเดท iOS ใหม่ๆในอนาคตก็ตาม
• มาพร้อมระบบความปลอดภัยช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทั้งการรักษาประจุแบต การป้องกันความร้อนเกิน การป้องกันการระเบิด และการป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
• ฐานด้านล่างมียางรองกันลื่นมาให้ 4 จุด ช่วยให้อุปกรณ์ไม่เลื่อนไปมาขณะใช้งาน
• ด้านหลังของแบตสำรองจะสกรีนเป็นข้อมูลเชิงเทคนิคมาให้เพื่อการใช้งานที่ถูกต้อง
• ตัวแบตสำรองเป็นสีดำผิวสัมผัสแบบเรียบด้านจึงอาจเกิดรอยนิ้วมือและคราบมันให้เห็นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีผลต่อการใช้งานและเช็ดออกได้ง่าย
• ***สำหรับการชาร์จเร็วแบบ PD ใน iPhone, iPad Pro (รุ่นที่รองรับ PD) จะต้องใช้งานร่วมกับสาย USB-C to Lightning ด้วย ส่วน iPad Pro 2018, Macbook 12 นิ้ว, Macbook Air 13 นิ้ว ต้องใช้งานร่วมกับสาย Type-C to Type-C ครับ
• ***เนื่องจากสินค้าชิ้นนี้เป็นอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยี PD หากชาร์จกับอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี QC3.0 สามารถชาร์จได้เช่นกันแต่จะจ่ายไฟไม่เต็มกำลังหรือไม่ขึ้นคำว่า Fast Charge ที่หน้าจอซึ่งหากลูกค้าใช้ Smartphone ที่รองรับ QC3.0 ควรหาแบตสำรองที่มีเทคโนโลยี QC3.0 จะชาร์จได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่าครับ

Gallery รูปถ่ายจากสินค้าจริง

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• Zikko PowerBag Pro (Powerbank 10000 mAh+PD30W) x 1
• สายชาร์จ Lightning (ความยาว 13 ซม.) x 1
• คู่มือการใช้งาน x 1 

ข้อมูลเชิงเทคนิค

• Battery: Lithium polymer
• Total Wattage : 3.7V 37Wh
• Capacity : 10000 mAh
• USB-C Input (PD): 5V/3A, 9V/2A, 12V/2A, 15V/2A (Max 30W)
• Lightning Input : 5V/2A
• USB2.0 Output : 5V/2.4A (Max 12W)
• Charging distance : -20℃- 45℃
• Working temperature : 0℃~ 40℃
• Full Charge : ใช้หัวชาร์จ PD 30W : 1.5-2 ชม., ใช้หัวชาร์จ 2.4A(12W) : 3.5-4 ชม., .ใช้หัวชาร์จ 1A(5W) : 8 ชม.
• Power Indicator : LED 4 ดวง (สีขาว)

อุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน

การชาร์จด้วยช่อง USB

• อุปกรณ์ทุกรุ่นที่รองรับการจ่ายไฟผ่านช่อง USB

การชาร์จด้วยช่อง USB-C

• iPhone Xs/Xs Max, XR, X, 8, 8 Plus สามารถชาร์จได้โดยใช้สาย USB-C to Lightning (ไม่มีแถมมาในกล่อง)
• iPad Pro 2018
• Macbook Air 13 นิ้ว, MacBook 12 นิ้ว
• Samsung Galaxy S10/S10+/S10e
• Samsung Galaxy Note 9
• Samsung Galaxy S9/S9 Plus
• Samsung Galaxy Note 8
• Samsung Galaxy S8/S8 Plus
• Samsung Galaxy C9 Pro
• Samsung Galaxy A5 (2017)
• Samsung Galaxy C7 Pro
• Samsung Galaxy C9 Pro
• Huawei Mate 20/Mate 20 Pro/Mate 20 X
• Huawei P30/P30 Pro
• Huawei P10/P20 Pro
• Huawei Mate 10/ Mate 10 Pro
• Huawei P10/P10 Plus
• Huawei Mate9/Mate9 Pro
• Huawei P9/P9 Plus
• Huawei Honor 8
• Huawei Nova/Nova Plus
• Huawei Nexus 6P
• ASUS ZenFone 3
• ASUS ZenFone 3 Deluxe
• ASUS ZenFone 3 Ultra
• Google Pixel Google Pixel Xl
• HTC 10
• Sony Xperia XZ Premium
• Sony Xperia X Compact
• Xiaomi Mi 5
• Vivo Xplay5 Elite
• Oppo F3
• Motorola Moto Z
• Motorola Moto M
• LG Nexus 5X
• LG G5
• LG V20
• หรืออุปกรณ์ที่มีพอร์ตชาร์จแบบ USB-C ครับ

การทดลองวัดค่าการจ่ายไฟ

ทดลองชาร์จไฟเข้า

• ทดสอบการชาร์จไฟเข้าด้วย Adaper PD (30W) ผ่านช่อง USB-C ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 14.54V/1.66A หรือ 24.18W ซึ่งเป็นการชาร์จตามมาตรฐาน PD ตามสเปคที่ระบุมาเลยครับ

ทดลองชาร์จไฟออก

• ทดสอบการชาร์จไฟให้กับ iPhone Xs Max ผ่านช่อง USB-C ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 8.72V/1.97A หรือ 17.23W ซึ่งเป็นการชาร์จตามมาตรฐาน PD เลยครับ

• ทดสอบการชาร์จไฟให้กับ iPad Pro 11 (2018) ผ่านช่อง USB-C ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 14.72V/1.83A หรือ 27.04W ซึ่งเป็นการชาร์จตามมาตรฐาน PD เช่นเดียวกันครับ

• ***นอกจากนี้แอดมินยังได้ลองชาร์จพร้อมกันทั้ง 2 ช่อง เมื่อชาร์จพร้อมกัน ช่อง USB-C ก็ยังสามารถจ่ายไฟแบบชาร์จเร็ว PD ได้ครับ รวมถึงช่อง USB-A ก็ชาร์จออกที่กำลังไฟประมาณ 5V/2A เช่นกัน ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆตรงที่ว่า แบตสำรองเจ้าอื่นที่มีช่องชาร์จเร็ว และมีช่องชาร์จปกติมาให้อีกหลายๆช่อง เมื่อชาร์จมากกว่า 1 เครื่องขึ้นไป ฟังก์ชั่นการชาร์จเร็วเหล่านี้ก็จะไม่ทำงาน แต่สำหรับรุ่นนี้ แม้จะเสียบชาร์จ 2 เครื่อง สเปคการจ่ายไฟของแต่ละช่องก็ยังทำงานได้ปกติครับ

สรุปเรื่องการจ่ายไฟ

• หากเสียบชาร์จ iPhone/Smartphone (รุ่นที่รองรับการชาร์จเร็ว PD) ผ่านช่อง USB-C 1 เครื่อง สามารถชาร์จได้ จะเป็นการชาร์จเร็ว PD
• หากเสียบชาร์จ iPhone/Smartphone (รุ่นที่รองรับการชาร์จเร็ว PD) 1 เครื่อง (ผ่านช่อง USB-C) และชาร์จ iPhone/Smartphone อีก 1 เครื่อง (ผ่านช่อง USB) สามารถชาร์จได้ ฟังก์ชั่นชาร์จเร็ว PD ยังทำงานครับ
• กล้องทั่วไป หรืออุปกรณ์อื่นๆ ให้ดูตามปริมาณไฟที่ใช้นะครับ (ดูได้ที่คู่มืออุปกรณ์) ถ้าเป็น 1A ให้คิดเหมือน Smartphone ถ้าเป็น 2A ให้คิดเป็น Tablet ครับ

การใช้งานโดย 425degree

• *การทดสอบโดยการชาร์จทิ้งไว้เฉยๆ การใช้งานจริงจะขึ้นอยู่กับการเล่นโทรศัพท์ระหว่างชาร์จ แสงหน้าจอ Notification ด้วยซึ่งอาจทำให้รอบน้อยกว่าที่แจ้งในที่นี่ได้ครับ *(เช่น 10000 mAh ตัวแบตจะมีไฟส่วนหนึ่งที่สูญเสียไปที่ตัวอุปกรณ์ระหว่างที่ชาร์จประมาณ 30% และจะมีอีกส่วนหนึ่งที่สูญเสียไฟไปในการแปลงไฟเข้าสู่เครื่องโทรศัพท์ ดังนั้นเวลาชาร์จจริงจะไม่มีแบตสำรองตัวไหนชาร์จได้เต็ม 10000 mAh เต็มตาม Spec ครับ)

• iPhone Xs Max (3,174 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• iPhone Xs (2,658 mAh) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPhone XR (2,942 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• iPhone X (2716 mAh) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPhone 8 Plus (2675 mAh ) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPhone 8 (1821 mAh) = ประมาณเกือบๆ 4 รอบ
• iPhone 7 Plus (2900 mAh) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPhone 7 (1960 mAh) = ประมาณ 3 รอบครึ่ง
• iPhone 6 Plus/6s Plus ( 2915 mAh ) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPhone 6/6s (1810 mAh) = ประมาณ 3 รอบครึ่ง
• Samsung Galaxy S10+ (4100 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Samsung Galaxy S10 (3400 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Samsung Galaxy S10e (3100 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy Note 9 (4000 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Galaxy Note 8 (3300 mAh) = ประมาณเ 2 รอบ
• Galaxy S8 (3000 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy S8 Plus (3500 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy S7 (3000 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy S7 Edge (3600 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Galaxy S6 (2550 mAh) = ประมาณ 2 รอครึ่ง
• Galaxy S6 Edge (2600 mAh) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPad mini 4 (5124 mAh) = ประมาณ 1 รอบ
• iPad Air 2 (7340 mAh) = ประมาณเกือบๆ 1 รอบ
• iPad Pro (10307 mAh) = ประมาณครึ่งรอบ
• Huawei Mate 20X (5000 mAH) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Huawei Mate 20 Pro (4200 mAH) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Huawei Mate 20 (4000 mAH) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Huawei P20 Pro (4000 mAH) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Huawei P20 (3400 mAH) = ประมาณ 2 รอบ

เงื่อนไขการรับประกัน

• ทางร้าน 425Degree รับประกันสินค้า 1 ปีสำหรับตัวสินค้าหลัก ในความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและความเสียหายที่ว่านั้นไม่รวมถึงการกระทำของผู้ใช้งานหรือการใช้งานที่ผิดวิธี โดยลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ
• สำหรับสายชาร์จที่แถมมาในกล่องจะรับประกัน 7 วันครับ
• ***สำหรับการชาร์จเข้าแบตสำรอง แนะนำว่าควรใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟได้ตรงตามสเปคที่ระบุมาเท่านั้นนะครับ หากใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟน้อยกว่าที่สเปคระบุ จะทำให้ชาร์จเข้าได้ช้าและส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หากลูกค้าใช้หัวชาร์จที่ไม่ตรงสเปค แล้วอุปกรณ์เกิดความเสียหาย กรณีนี้จะไม่รวมอยู่ในการรับประกันนะครับ

การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

• ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE, FCC RoHS certifications
• CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
• FCC : อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์/คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นก่อนที่จะนำไปขายในสหรัฐฯจะต้องได้รับการรับรองจาก FCC (เป็นองค์กรของรัฐบาลสหรัฐฯ) เพื่อให้ตรงกับข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นตัวนำและการกระจายคลื่นวิทยุ
• RoHS : เป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม กำหนดให้ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องมีสารที่เป็นอันตรายไม่เกินไปกว่าที่กำหนด (ตะกั่ว/ปรอท/แคดเมียม/เฮกซะวาเลนท์/โพลีโบรมิเนต/โพลีโบรมิเนต)
• และยังรับรองว่าเป็นสินค้าที่สามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้ครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีครับ
• มีระบบตัดวงจรไฟอัตโนมัติหากเกิดความร้อนเกินกว่ากำหนด ช่วยควบคุมปริมาณการจ่ายไฟและไม่ทำให้เกิดการกระชากไฟ ปลอดภัยสำหรับชาร์จอุปกรณ์

การทำความสะอาดและดูแลรักษา

• ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์ครับ
• หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
• ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์
• ขณะเสียบใช้งานหรือถอดออก ควรจับที่ตัวบอดี้ เพื่อป้องกันสายไฟหักหรือขาดครับ
• หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้ (และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ)