ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่าในยุคสมัยนี้ เราต่างต้องใช้ชีวิตท่ามกลางมลพิษหลากหลายรูปแบบ เห็นได้ชัดๆในบ้านเราเลยคงหนีไม่พ้นฝุ่น PM 2.5, ควันรถ เชื้อโรคที่เกาะอยู่ตามบันไดหรือปุ่มลิฟท์ในที่สาธารณะ
แต่มลพิษที่เราต้องพบเจอแน่ๆเมื่อเราก้าวขาออกนอกบ้านอาจไม่ได้มาในรูปแบบของฝุ่นละอองเพียงอย่างเดียว หากแต่มลพิษ สามารถมาในรูปแบบของเสียงได้ หรือที่เราเรียกว่า “เสียงรบกวน” ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพหู หรืออาจส่งผลไปถึงสุขภาพจิตและสมาธิได้เลยทีเดียว..
นอกจากหน้ากากอนามัยที่คอยปกป้องระบบทางเดินหายใจจากฝุ่นละอองของเราแล้ว การมี “หูฟังตัดเสียงรบกวน” หรือหูฟังที่มีระบบ active noise cancelling เอาไว้ใช้งานในชีวิตประจำวัน อาจเป็นประโยชน์ในการปกป้องเสียงรบกวนที่เราไม่ต้องการได้ยินได้ดีกว่าที่เราคิด และวันนี้ทีมงาน 425Audio จะมาอธิบายระบบตัดเสียงรบกวนในหูฟังไร้สาย active noise cancelling แบบเข้าใจง่ายๆว่ามันดียังไง และทำไมคุณควรใช้มันครับ
หูฟังตัดเสียงรบกวน คืออะไร ?
หูฟังตัดเสียงรบกวนหรือหูฟัง noise cancelling คือ หูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบดิจิตอลอยู่ภายใน ทำหน้าที่ตัดเสียงรบกวนต่างๆที่อยู่รอบๆตัวผู้สวมใส่เช่น เสียงรถยนต์, เสียงคนคุยกัน, หรือเสียงบรรยากาศในห้างสรรพสินค้า ช่วยให้ผู้สวมใส่แทบจะไม่ได้ยินเสียงรบกวนรอบๆตัวขณะใส่หูฟังฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกม ซึ่งความเงียบขณะใส่หูฟังนั้น จะเงียบมากกว่าหูฟังที่ไม่มีระบบตัดเสียงรบกวนมากมายหลายเท่า !
หูฟังตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ทำงานยังไง ?
หูฟังตัดเสียงรบกวนนั้นจะมีไมโครโฟนอยู่ภายในหลากหลายตัว การทำงานของระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling นั้นจะมีขั้นตอนการทำงาน ดังนี้ครับ
หูฟังจะทำการดูดคลื่นเสียงรบกวนรอบๆตัวของผู้สวมใส่ผ่านไมโครโฟนบนหูฟังเข้ามาในหูฟังในรูปแบบของคลื่นเสียงดิจิตอล
เมื่อหูฟังดูดเสียงรบกวนรอบๆตัวเข้ามาในหูฟังแล้ว หูฟังจะทำการคัดลอก (duplicate) คลื่นเสียงรบกวนเหล่านั้น และทำการกลับหัวกลับหางคลื่น (กลับเฟส) ก่อนจะนำคลื่นเสียงที่กลับเฟสแล้วไปทับกับคลื่นเสียงรบกวนที่ดูดเข้ามาตอนแรก
เมื่อนำคลื่นเสียงแบบกลับหัวกลับหาง ไปทับกับคลื่นเสียงรบกวนรอบๆตัวที่หูฟังดูดเข้ามาแล้ว มันจะเกิดการหักล้างของคลื่นเสียง (phase cancellaion) หรือกลายเป็น “คลื่นสัญญาณเสียงที่ไม่มีเสียงใดๆ” จากนั้น หูฟังจะส่งคลื่นเสียงเงียบที่ไม่มีเสียงใดๆเข้าสู่แก้วหูของเราตลอดเวลาขณะเราเปิดโหมด ส่งผลให้เราได้ยินเสียงรบกวนรอบตัวเบาลงอย่างมาก หรือจนถึงระดับที่แทบจะไม่ได้ยินเสียงรบกวนรอบตัวเลย
ประโยชน์ของหูฟังตัดเสียงรบกวน..
หูฟังตัดเสียงรบกวนนั้นมีประโยชน์มากมายหลายข้อเช่น..
- “ช่วยกันเสียงรบกวนรอบๆตัวที่ดังเกินไป” - ซึ่งการฟังเสียงรบกวนรอบๆตัวที่ดังเกินไปติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ อาจเป็นอันตรายสะสมต่อแก้วหูของเราในระยะยาวได้
- “ช่วยให้คุณภาพเสียงเพลงดียิ่งขึ้น” - ได้ยินเสียงเบสได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากเสียงรบกวนภายนอกนั้นส่งผลต่อคุณภาพเสียงเพลงในหูฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงย่านตํ่าเบสที่เมื่อมีเสียงรบกวนเข้ามาแทรกมากๆ อาจทำให้เสียงเบสฟังดูไม่ชัดเจน ฟังจับโฟกัสได้ยาก การมีระบบตัดเสียงรบกวนจะทำให้เราได้ยินเสียงเบสที่ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมไปถึงรายละเอียดเสียงดนตรีเล็กๆน้อยๆต่างๆก็ฟังดูชัดเจนยิ่งขึ้นอีกด้วย
- “ช่วยให้เราฟังเพลงในระดับ volume ที่พอดี” - ไม่ต้องเร่งระดับเสียงแข่งกับเสียงรบกวนรอบตัว ดีต่อสุขภาพหูมากกว่า และฟังเพลงได้นานกว่า ไม่ล้าหูไว
- “ช่วยเพิ่มสมาธิขณะทำงานได้มากกว่า” - ขณะเรานั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์หรือ laptop ในออฟฟิศ ร้านกาแฟ หรือในที่สาธารณะที่มีเสียงรบกวนรอบตัวมากมาย อาจทำให้เราไม่มีสมาธิในการทำงาน ว่อกแว่กได้ง่าย หูฟังตัดเสียงรบกวนจะช่วยตัดเสียงรบกวนรอบๆตัวเหล่านั้น ช่วยให้เราใส่หูฟังแล้วเงียบขึ้น มีสมาธิจดจ่อกับงานตรงหน้าได้มากขึ้น เพิ่ม productivity ได้มากกว่า
- “ช่วยให้สุขภาพทางอารมณ์มีความสงบนิ่งยิ่งขึ้น” - หลังเหน็ดเหนื่อยจากการงานมาทั้งวัน ขณะเดินทางกลับบ้านก็ยังต้องพบเจอเสียงรบกวนรอบตัวที่ชวนให้เบื่อหน่ายและอ่อนล้ายิ่งกว่าเดิม หูฟังตัดเสียงรบกวนจะช่วยตัดเสียงรบกวนเหล่านั้นให้เหลือแต่ความเงียบสงบและเสียงเพลงที่เราชอบในหูฟัง ช่วยให้ท่านรู้สึกสงบและผ่อนคลายยิ่งขึ้น สบายใจยิ่งขึ้น
หูฟังตัดเสียงรบกวนเป็นอันตรายต่อแก้วหูไหม ?
จากการค้นคว้าข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญนั้น หูฟังตัดเสียงรบกวนนั้นไม่เป็นอันตรายต่อแก้วหูหรือความสามารถในการได้ยินของเรา ในทางตรงกันข้าม หูฟังตัดเสียงรบกวนนั้นดีต่อสุขภาพและช่วยถนอมความสามารถในการได้ยินของเราได้มากกว่าหูฟังที่ไม่มีระบบตัดเสียงรบกวน เพราะไม่ว่าเราจะใส่หูฟังฟังเพลงที่ไหน เจอที่ที่มีเสียงรบกวนดังๆ เราก็สามารถฟังเพลงในระดับความดัง volume ที่พอเหมาะ ไม่ต้องเร่งระดับเสียง volume ให้ดังแข่งกับเสียงรบกวนรอบๆตัวเหมือนหูฟังที่ไม่มีระบบตัดเสียงรบกวนครับ
จุดสังเกตของหูฟังตัดเสียงรบกวน
ถึงจะมีข้อดีมากมาย แต่หูฟังตัดเสียงรบกวนนั้นก็มีจุดสังเกตุอยู่บ้างพอสมควร ยกตัวอย่างเช่น..
- ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่หูฟังเยอะ : ขณะเปิดใช้งาน หูฟังจะกินพลังงานแบตเตอรี่จากหูฟังมากขึ้น เพราะระบบตัดเสียงรบกวนจำเป็นต้องใช้พลังงานในการประมวลผลและจัดการเสียงรบกวนนั่นเองครับ
- ส่งผลต่อคุณภาพเสียง : มีการพิสูจน์ออกมาแล้วครับว่าระบบตัดเสียงรบกวนนั้นสามารถส่งผลต่อคุณภาพเสียงของหูฟังได้เล็กน้อย หากนำหูฟังไปวัดเป็นกราฟเสียง SPL ในโปรแกรมวัดคลื่นเสียง เราจะเห็นชัดเลยว่า กราฟเสียงที่วัดตอน “เปิด” โหมดตัดเสียงรบกวนและกราฟเสียงที่วัดตอน “ปิด” โหมดตัดเสียงรบกวนนั้นมีความแตกต่างกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในการใช้ฟังเทียบกับหูจริงๆแล้ว ค่อนข้างจะได้ยินความต่างของเสียงได้ยากมาก เพราะมันต่างกันแค่นิดเดียวจนเราแทบจะไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของเสียงนั่นเองครับ
- หูฟังตัดเสียงรบกวนบางรุ่นอาจทำให้วิงเวียนศีษระเล็กน้อย : หูฟังตัดเสียงรบกวนบางรุ่นนั้นมีการส่งสัญญาณคลื่นเสียงที่เข้มข้นมาก อาจทำให้ผู้ใช้งานบางท่านเกิดการวิงเวียนศีษระได้เล็กน้อย แต่ก็มีหูฟังตัดเสียงรบกวนดีๆหลายรุ่น ที่ได้ทั้งความเงียบ และใส่ใช้งานนานๆไม่วิงเวียนศีษระเลยครับ
- หูฟังตัดเสียงรบกวนมักมีราคาสูง : จริงๆแล้วในยุคนี้ เราสามารถหาหูฟังตัดเสียงรบกวนที่มีราคาถูกมาใช้ได้อย่างง่ายดายต่างจากยุคก่อน แต่หูฟังตัดเสียงรบกวนที่มีราคาถูกส่วนใหญ่นั้น มีโหมดตัดเสียงรบกวนที่ไม่ได้คุณภาพมากนัก อาจจะต้องดูเป็นตัวๆไป แต่หูฟังตัดเสียงรบกวนที่มีคุณภาพดี ใส่แล้วเงียบจริงๆ มักจะมีราคาสูง ถึงจะสามารถใช้งานได้ดี และใช้งานได้จริงครับ
แนะนำหูฟังตัดเสียงรบกวนดีๆโดยทีมงาน 425Audio
หูฟังตัดเสียงรบกวนไร้สายทรง In-ear (ทรงสอดหู)
QCY T13 ANC True Wireless
เรียกว่าเป็นหูฟัง gen ใหม่จากทาง QCY มาในชื่อ QCY T13 ANC True Wireless นับว่าเป็นหูฟังไร้สาย true wireless ทรง in-ear ที่มีระบบตัดเสียงรบกวนที่เงียบเกินราคามากๆ เงียบชนพวกหูฟังราคาหลักพันบางตัวได้เลยครับ
SoundPEATS Air3 Pro
เป็นหูฟังไร้สายทรง in-ear ที่แปลงร่างจากทรง earbud มาเป็นหูฟังไร้สายทรง in-ear แล้วใส่ระบบตัดเสียงรบกวนลงไป ระบบตัดเสียงรบกวนตัวนี้เรียกว่าทำได้ดีสมราคาค่าตัวของมันมากๆครับ
Edifier NeoBuds Pro หรือ Edifier NeoBuds S
เป็นหนึ่งในหูฟังไร้สาย true wireless ทรง in-ear ที่ทางทีมงาน 425Audio ยกให้มันเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนที่เทียบเท่าพวกแบรนด์ดังๆราคาเกือบหมื่นอย่าง Sony หรือ Bose ในราคาปัจจุบันเพียงไม่เกิน 3,000 บาทเท่านั้น ใครงบน้อยแต่อยากได้หูฟังตัดเสียงรบกวนที่เงียบไม่แพ้พวกหูฟังตัดเสียงรบกวนแบรนด์เบอร์ต้นๆของตลาด ตัวนี้คุ้มครบ จบในตัวเดียวเลยครับ
FIIL CC Pro 2
หูฟังตัดเสียงรบกวนระดับโบว์แดงจากทาง FIIL ระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้างตัวนี้ทำได้สมราคา อีกทั้งยังมีดีไซน์แบบ open-design ที่มีหน้าตาหล่อเท่เหล่ท่อไม่เบา แต่ต้องด้วยความที่กล่องชาร์จของมันเป็นดีไซน์แบบเปิด อาจจะต้องระวังฝุ่นเข้าไปสะสมนิดนึงครับ
Sony WF-1000XM4
หูฟังตัดเสียงรบกวนตัวเทพตัวตึงของวงการหูฟังตัดเสียงรบกวน Sony WF-1000XM5 เป็นที่รู้จักและขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องของความเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด เคลมโดยหลายสำนักรีวิว ใครอยากไปสุดทางเรื่องระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ตัวนี้คือที่สุดแล้วครับ
Bose QuietComfort Earbuds II
เรียกว่าเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนรอบข้างที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ Sony WF-1000XM5 เลยทีเดียว ต้องบอกเลยว่าในรุ่น 2 นี้ ระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ตัดได้เงียบกว่ารุ่นก่อนมาก เรียกว่าสูสีกับ Sony WF-1000XM5 เลยทีเดียวครับ
หูฟังตัดเสียงรบกวนไร้สายทรง Full-size (ทรงครอบหู)
Edifier W820NB
เป็นหูฟังตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ทรงครอบหูในราคาพันกลางๆ ที่ทีมงาน 425AUDIO คิดว่ามันตัดได้เงียบดีมากในราคาระดับนี้ เหมาะมากที่จะเป็นตัวเริ่มต้นสำหรับผู้ที่อยากลองใช้หูฟังตัดเสียงรบกวนแบบครอบหูครับ
Edifier WH950NB
เมื่อก่อนหากนึกถึงหูฟังไร้สายทรงครอบหูที่มีระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด นักเล่นหูฟังที่ชั่วโมงบินสูงๆเค้าจะคิดถึง Sony WH-1000XM5 เป็นตัวแรกๆ แต่ด้วยราคาที่สูง (เกือบหมื่นกลางๆ) ทำให้มันหยิบจับมาครอบครองยาก แต่เมื่อการมาของหูฟังตัดเสียงรบกวนรุ่นใหม่จาก Edifier ที่มาในรุ่น Edifier WH950NB ทำให้ทีมงาน 425AUDIO มีความคิดที่เปลี่ยนไป เพราะระบบตัดเสียงรบกวนของเจ้าตัวนี้ ตัดและให้ระดับความเงียบได้น้องๆ Sony WH-1000XM5 หรือ Apple Airpods Max ในราคาไม่เกิน 7,000 บาท นับว่า Edifier WH950NB เป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนทรงครอบหูอีกหนึ่งตัวเลือก สำหรับผู้ที่อยากได้ระบบตัดเสียงรบกวนที่เงียบใกล้เคียงกับ Sony, Bose หรือ Airpods ในราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าหลายเท่าครับ
Sony WH-1000XM5
หาก Sony WF-1000XM4 คือราชาหูฟังตัดเสียงรบกวนในฝั่งของหูฟัง true wireless เจ้า Sony WH-1000XM5 ก็เป็นราชาหูฟังตัดเสียงรบกวนทรงครอบหู Full-size ที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งหากใครชอบใส่หูฟังทรงครอบหู Full-size แล้วอยากได้ระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ที่เงียบแบบเบอร์สุด Sony WH-1000XM5 คือคำตอบครับ
Bose QuietComfort 45
เป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนทรงครอบหูที่เช่นเคย เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ Sony WH-1000XM5 ระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ให้ระดับความเงียบที่สูสีกันมากๆ แต่จะต่างกันตรงที่ใครชอบคาแรคเตอร์เสียงสไตล์ไหน ก็เลือกตัวนั้นได้เลย การันตีเลยว่าเรื่องระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ทั้ง 2 ตัวคือเกือบสุดกราฟแล้วครับ
กลุ่มหูฟังตัดเสียงรบกวนทรงสอดหู (in-ear)
กลุ่มหูฟังตัดเสียงรบกวนทรงครอบหู (Over-Ear)
สรุป
นับว่าหูฟังตัดเสียงรบกวน active noise cancelling นั้นเป็นอีกหนึ่ง gadget ที่ช่วยเพิ่ม quality of life หรือคุณภาพในการใช้ชีวิตที่เร่งรีบนั้นมีความสะดวกสบาย และให้ความบันเทิงรวมไปถึงสมาธิในการจดจ่อกับการงานได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังส่งผลดีไปยังสุขภาพของหูอีกด้วย ถึงจะมีข้อดีมากมายนั้น ก็ต้องย่อมมีจุดสังเกตที่เราควรทราบก่อนเริ่มใช้นั่นคือการกินพลังงานที่มากกว่าหูฟังธรรมดา หรือส่งผลต่อคุณภาพเสียงในการฟังเพลงบ้างเล็กน้อย แต่สำหรับทีมงาน 425AUDIO แล้ว จุดสังเกตนั้นค่อนข้างส่งผลน้อยมากจนสามารถมองข้ามจุดสังเกตเหล่านั้นไปได้สบายๆ แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามหูฟังตัดเสียงรบกวน active noise cancelling นั้น ก็เป็นอีกหนึ่ง gadget ที่จะช่วยให้ชีวิตของท่านมีความสงบมากขึ้น ดื่มดํ่ากับเสียงเพลงได้อย่างผ่อนคลายมากขึ้นในทุกๆที่ โดยที่ไม่ต้องกังวลใจเรื่อง “เสียงรบกวน” ไม่ว่าเราจะใส่หูฟังฟังเพลงที่ไหนก็ตามครับ