มีรุ่นไหนบ้างในรอบนี้

• บทความรวม Jabra ในรอบนี้จัดมาให้แบบเน้นๆกัน 6 รุ่นครับ รูปร่างหน้าตา โทนเสียง จุดดี จุดด้อย รุ่นไหนต่างกันไหนบ้าง รอบนี้ทีมงาน 425Audio ก็จะมาไขความกระจ่างให้เองครับ
• ปล.แต่แอบใบ้นิดนึงว่าบทความนี้ยาวสุดๆไปเลยล่ะครับ…. เพราะทีมงานอยากจะทำให้ละเอียดๆ เพื่อนๆจะได้เลือกซื้อได้ถูกต้องตามที่ต้องการจริงๆครับ

หน้าตาเหมือนกันขนาดนี้ต่างกันตรงไหน

• รูปร่างหน้าตา เหมือนเดิ๊มมมมมมมมมมมมมมเหมือนเดิมทุกอย่าง มอนผ่านๆเอามาวางรวมกันแทบจะแยกไม่ออกเลยล่ะครับ(ฮา) แต่เข้าใจได้ครับ ทาง Jabra ดีไซน์โมเดลนี้มาอย่างดี ใส่สบาย เหมาะกับหูคนส่วนใหญ่จริงๆครับ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะรุ่นไหน Jabra ก็คงจะใช้โมเดลนี้ไปอีกซักพักเลยละครับ
• สรุป ใส่สบายตามสไตล์ Jabra ถ้าอยากได้หูฟังใส่สบาย กระชับ จัดไปอย่าช้า!!

ความสบายในการสวมใส่ยังคงเป็นเลิศ

• ตามที่ได้พูดด้านบนเลยครับ ทาง Jabra ได้มีการสแกนหูมากกว่า 62,000 แบบ เพื่อให้ได้รูปทรงหูฟังที่สามารถใส่ได้เหมาะกับหูของคนส่วนใหญ่ได้ สวมใส่สบายและกระชับมากๆครับ ซึ่งเจ้ารูปทรงนี้ใช้กับหูฟัง Jabra Elite ทุกรุ่นเลยล่ะครับ ทำให้ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กราคาเบาสุดอย่าง Jabra Elite 2 หรือจะตัว Top สุดอย่าง Jabra Elite 7 Pro เพื่อนๆก็จะได้ความสบายในการสวมใส่เท่ากันไม่ว่าจะรุ่นไหนราคาเท่าไหร่ก็ตาม ถ้าถามหาหูฟัง In-Ear ที่ใส่สบายแล้วละก็ Jabra Elite ต้องอยู่ในลิสต์เป็นอันดับต้นๆแน่นอนครับ ที่เหลือก็ตามงบประมาณ ฟีเจอร์ ความต้องการในการใช้งานที่เพื่อนๆอยากได้เลยล่ะครับ

App Jabra Sound+ ของดีๆที่อยากให้ทุกคนใช้

• เป็น App ที่ช่วยให้หูฟังเราทำงานได้เหมาะสมกับความต้องการของเรามากขึ้นครับ รวมถึงยังปรับ EQ เสียงตามที่เราต้องการได้ด้วย ซึ่ง Jabra Elite ไม่ว่าจะรุ่นไหนก็ตามสามารถใช้งาน App นี้ได้ทั้งหมดครับ
• อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น App Jabra Sound+ สามารถปรับ EQ เสียงได้ครับ อยากได้เบสเพิ่ม อยากลดเบส เพิ่มย่านนู้นย่านนี้ สามารถปรับได้อิสระตามที่เราต้องการเลยล่ะครับ หรือถ้าใครปรับไม่เป็น กลัวปรับแล้วเสียงมันจะงงๆ ทาง Jabra ก็มี Preset ที่ปรับไว้แล้วให้เพื่อนๆได้เลือกถึง 5 แบบเลยล่ะครับ
• ที่เจ๋งและอยากให้เพื่อนๆได้ลองใช้ก็คือการตั้งค่าหูฟังครับ ไม่ว่าจะตั้งค่าการกดสั่งการต่างๆ ปรับระดับ ANC และ HearThrough Mode ให้เหมาะสมกับที่เราต้องการ มีฟีเจอร์ Find My Jabra หากเราทำหูฟังหล่นแล้วหาไม่เจอ พอใช้งานปุ๊ปหูฟังจะส่งเสียงดังขึ้นมาครับ และที่ทีมงานชอบมากๆก็คือ มีเสียง Ambient ต่างๆเอาไว้เปิดฟังให้ผ่อนคลายด้วยครับ มีทั้งเสียงคลื่นทะเล เสียงฝนตก เสียงนกร้อง รวมถึงมีคู่มือการใช้งาน ลงทะเบียนการรับประกันต่างๆด้วยครับ
• ปล.App มีภาษาไทยด้วยนะ!!

สั่งการด้วยปุ่มกด ของดีที่ทุกคนอาจมองข้ามไป 

• ในหูฟัง Jabra Elite ทั้งหมดจะใช้การสั่งการด้วย “ปุ่มกด” ใช่ครับเป็นปุ่มกดลงไป ไม่ใช่ระบบสัมผัสแบบแบรนด์อื่นๆครับ ถ้าถามว่าทำไม? ทีมงานมองว่าการสั่งการด้วยปุ่มกดนั้นค่อนข้างจะ “เที่ยงตรงและแม่นยำ” กว่าระบบสัมผัสครับ อีกอย่างคือ “ไม่มีการลั่น” ไม่มีการลั่นคืออะไร? ก็คือเวลาเราใช้หูฟังที่ใช้ระบบสั่งการด้วยการสัมผัสเนี่ยแค่เราเอามือไปเฉียดเบาๆ เอามือไปขยับหูฟังเอย เอามือไปทัดผมที่หูเอยมันจะชอบลั่นใช่ไหมล่ะครับ ซึ่งพอเป็นการสั่งการด้วยปุ่มกดแบบนี้มั่นใจได้เลยครับว่าไม่มีลั่นแน่นอน ง่ายๆแต่เสถียร ง่ายๆแต่แม่นยำ แบบนี้สิแจ๋ว!!

ไปดูกันทีละรุ่นเลยละกัน!!

• ทีมงาน 425Audio จะพาเพื่อนๆไปรู้จักหูฟัง Jabra Elite ทั้ง 6 รุ่นแบบคร่าวๆ สรุปมาให้แบบสั้นๆได้ใจความ(จริงหรือ?) หวังว่าจะช่วยให้เพื่อนๆเลือกหูฟัง Jabra Elite ที่โดนใจตรงความต้องการของเพื่อนๆได้ครับ หรือถ้าใครขี้เกียจอ่านจริงๆ ทีมงานทำสรุปสั้นๆว่ารุ่นไหนเหมาะกับใครไว้ด้านท้ายๆบทความด้วยครับ

Jabra Elite 2 ราคาเบาๆ คุณภาพแน่นเกินราคา

• น้องเล็กสุดจากตระกูล Elite ครับ เป็นรุ่นที่ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ เน้นหยิบจับง่ายใช้งานง่ายๆไม่ต้องมีอะไรให้ซับซ้อน ฟังเพลงดูหนังสนุก ใส่สบาย คุยโทรศัพท์ดี ครบจบในตัวเดียว อาจจะมองว่าไม่มีทั้ง ANC และ HearThrough Mode ให้ใช้งาน แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการจะใช้ทั้ง 2 โหมดนี้อยู่แล้วก็ถือว่าตอบโจทย์ในการใช้ในชีวิตประจำวันครับ เรื่องโทนเสียงที่ดี เบสแน่น กระชับเก็บตัวไว เสียงร้องฟังเนียนสุดๆ ใส่ดูหนังยาวๆก็ไม่เจ็บหูครับ ถึงไมค์จะมีแค่ 2 ตัว แต่ต้องบอกว่าคุณภาพเสียงที่ได้จากไมค์ของ Jabra นั้นดีมากๆครับสำหรับหูฟังที่มีไมค์เพียง 2 ตัว งบไม่เยอะ เน้นใช้แค่ดูหนังฟังเพลง ใส่สบาย คุยโทรศัพท์ได้ ตอบโจทย์ครับ 

จุดเด่น

• ราคาสบายกระเป๋า
• เน้นใช้งานง่ายๆไม่ต้องคิดไรเยอะแค่ใช้
• ใส่ออกกำลังกายก็ได้
• คุยโทรศัพท์ดี

จุดพิจรณา

ไม่มี ANC และ HearThrough Mode

• และจำนวนไมค์มีแค่ 2 ตัว ถ้าต้องการเน้นการคุยโทรศัพท์จริงจังอาจยังไม่ตอบโจทย์นัก

Jabra Elite 3 หูฟังสุดคุ้มค่า ที่ฟีเจอร์และคุณภาพแน่นสุดๆ

• ทีมงานมองว่าถ้าอยากจะได้หูฟังคุ้มๆ เก่งรอบด้านในย่านราคานี้ Jabra Elite 3 จะเป็นตัวเลือกเบอร์ต้นๆเลยล่ะครับ ไมค์ 4 ตัวคุณโทรศัพท์ดีมากๆครับ สำหรับ Jabra Elite 3 เสียงพูดฟังเป็นธรรมชาติมากๆ ถือว่าเป็นหูฟังไมค์ดีเบอร์ต้นๆไปวัดกับตัวแพงกว่านี้ได้สบายๆครับ รวมถึงในรุ่นนี้มี HearThrough Mode มาให้ใช้งานแล้วครับ สามารถใส่ออกกำลังกายตามที่สาธารณะจะได้ไม่พลาดเสียงรอบข้าง หรือสำหรับคนที่ชอบใส่หูฟังค้างไว้ทั้งวันตอนทำงานก็จะได้ไม่พลาดเมื่อมีคนมาเรียกครับ สามารถคุยโต้ตอบโดยไม่ต้องถอดหูฟังครับ เรื่องโทนเสียงเหมือนกับ Jabra Elite 2 ครับ เบสแน่น กระชับเก็บตัวไว เสียงร้องเนียนๆ เป็นโทนเสียงฟังสนุกเช่นเดิม ดูหนังก็แจ่ม ถ้าใครที่ต้องการหูฟังที่เน้นใช้ในชีวิตประจำวัน คุยโทรศัพท์ดีเกินราคา ใส่สบาย ฟังเพลงสนุก มี HearThrough Mode ให้ใช้งาน Jabra Elite 3 เป็นคำตอบที่เยี่ยมเลยครับ คุ้มค่าเกินราคาครับ

จุดเด่น

• สุดคุ้มค่ากับฟีเจอร์และคุณภาพที่ได้
• การสวมใส่ที่สบายสุดๆ ใส่ออกกำลังกายได้
• มี HearThrough ให้ใช้งาน
• ไมค์ 4 ตัว ให้เสียงพูดที่เป็นธรรมชาติมากๆ
• มีสีให้เลือกมากที่สุดใน Jabra Elite

จุดพิจรณา

• ไม่มี ANC ให้ใช้งาน

Jabra Elite 4 Active เน้นออกกำลังกาย ไมค์คุยโทรศัพท์ก็เทพ!!

• เป็นหูฟังเน้นออกกำลังกายครับ ตัวหูฟังจะเคลือบวัสดุพิเศษ ShakeGrip เพื่อช่วยให้กันน้ำ กันเหงื่อ และสวมใส่แน่นกระชับขึ้น มั่นใจได้เวลาออกกำลังกายไม่มีหลุดครับ แต่นอกเหนือจากการออกกำลังกาย เรื่องไมค์คุยโทรศัพท์ต้องบอกเลยว่าดีมากๆ ก่อนหน้านี้ทีมงานให้ไมค์ Jabra Elite 4 Active ดีที่สุดในตระกูล Jabra Elite เลยครับ พึ่งจะโดนน้องใหม่ Jabra Elite 5 มาชิงตำแหน่งไป เสียงพูดเป็นธรรมชาติ ฟังมีน้ำมีนวล ใกล้เคียงกับการคุยแบบแนบหูเลยครับ โทนเสียงในรุ่นนี้จะเพิ่มความหนา ความนุ่มมากขึ้น ย่านกลางเด่นมากกว่า Elite 2-3 ทำให้เสียงร้องมีความหนาขึ้น นุ่มขึ้น โทนเสียงโดนรวมมีความอุ่นๆ และในรุ่นนี้มีทั้ง ANC และ HearThrough Mode มาให้ใช้งานทั้งคู่ครับ ถือว่าเป็นหูฟังที่ฟีเจอร์ครบสุดๆทั้ง ฟังเพลง สวมใส่ คุยโทรศัพท์ และการออกกำลังกายครับ

จุดเด่น

• เน้นออกกำลังกายเคลือบวัสดุพิเศษ ShakeGrip สวมใส่สบายกระชับไม่มีหลุด
• ฟีเจอร์ครบทั้ง ANC และ HearThrough
• ไมค์คุยโทรศัพท์ดีมากๆ

จุดพิจรณา

• ANC ที่ยังตัดเสียงรบกวนได้ยังไม่เนียนนัก

Jabra Elite 5 สเปคแน่นๆ ท้าชนตัว Top ได้หมด!!

• เป็นหูฟังน้องใหม่ที่ทาง Jabra ยัดสเปคมาให้แบบไม่มีกั๊ก ท้าชนรุ่นพี่อย่าง Elite 7 Pro ได้สบายๆครับ ไม่ว่าจะเป็นไมค์ 6 ตัว Multipoint Pairing เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน การชาร์จแบบไร้สาย แถมยังมี Hybrid ANC และ HearThrough Mode มาให้ด้วย เรียกว่าครบจบจริงๆครับ และตอนนี้ Jabra Elite 5 เป็นแชมป์ด้านคุยโทรศัพท์ในตระกูล Elite ทั้งหมดครับ ด้วยไมค์ 6 ตัว ที่ให้เสียงพูดได้เนียนกริ้บ ฟังเป็นธรรมชาติ รวมถึงตัดเสียงรบกวนได้เนียนกว่ารุ่นผ่านๆมาทั้งหมดครับ โทนเสียงที่ออกแนวบาลานซ์ ฟังสบาย ฟังโปร่งมากๆครับ ไม่ได้มาแนวเบสดุดันเน้นฟังสนุกแบบรุ่นก่อน ถ้าใครชอบโทนเสียงเน้นฟังสบายๆ เป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากๆครับ เป็นหูฟังที่ครบจบในการใช้ชีวิตประวันจริงๆครับ

จุดเด่น

• รุ่นใหม่ที่ยัดสเปคตัว Top มาให้
• Multipoint Pairing เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน
• ไมค์ 6 ตัวคุยโทรศัพท์ดีที่สุดในตระกูล Elite ตอนนี้
• รองรับการชาร์จไร้สาย Wireless Charge
• โทนเสียงบาลานซ์ฟังสบาย
• มี Hybrid ANC และHearThrough
• เป็นรุ่นที่คุ้มมากๆกับฟีเจอร์ที่ได้

จุดพิจรณา

• ราคาที่ค่อนข้างสูง

Jabra Elite 7 Active หูฟังเน้นออกกำลังกายตัว Top  

• หูฟังออกกำลังกายตัว Top ครับสำหรับ Elite 7 Active แน่นอนครับเมื่อเป็นรุ่นสำหรับออกกำลังกาย ตัวหูฟังจะมีการเคลือบวัสดุพิเศษ ShakeGrip เพื่อกันน้ำกันเหงื่อได้ดียิ่งขึ้น ใส่กระชับมากขึ้น มั่นใจไม่มีหลุดเมื่อใส่ตอนออกกำลังกายแน่นอนครับ ด้วยความเป็นตัว Top จึงมีฟีเจอร์คุณภาพเยี่ยมๆให้ใช้งานทั้ง Multipoint Pairing เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกันได้ รองรับการชาร์จแบบไร้สาย ANC และ HearThrough Mode คุณภาพเยี่ยมสมกับเป็นรุ่น Top ด้านคุยโทรศัพท์ก็ยังทำได้เยี่ยมเช่นเดิมครับ

จุดเด่น

• เคลือบวัสดุพิเศษ ShakeGrip เพื่อการออกกำลังกายโดยเฉพาะ
• สวมใส่สบายกระชับไม่มีหลุด
• มี ANC และ HearThrough
• มี Multipoint Pairing เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกันได้
• รองรับ Wireless Charge
• คุยโทรศัพท์เยี่ยมเสียงพูดฟังเป็นธรรมชาติ

จุดพิจรณา

• ราคาค่อนข้างสูง

Jabra Elite 7 Pro ตัว Top ฟีเจอร์ครบจบรอบด้าน

• พี่ใหญ่ตัว Top ของตระกูล Elite จัดเต็มเรื่องฟีเจอร์ ไมค์ 6 ตัวคุยโทรศัพท์ดีมากๆครับ ANC และ HearThrough Mode ที่ยอดเยี่ยม Multipoint Pairing เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน การชาร์จแบบไร้สาย โทนเสียงก็มาในแนวนุ่มนวล บาลานซ์ ฟังง่ายรายละเอียดดนตรีดี แต่แอบมีแรงประทะของเบสให้รู้สึกฟังสนุกอยู่ด้วยครับ ถือว่าเป็นหูฟังที่ครบจบในตัวเดียว ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี จะใช้ฟังเพลงดูหนัง จะใช้ทำงานก็ตอบโจทย์ได้ทั้งหมดครับ เหมาะสมกับการเป็น Top จริงๆครับ

จุดเด่น

• ตัว Top ฟีเจอร์ครบจัดเต็มสุดๆ
• ANC และ HearThrough คุณภาพเยี่ยม
• ไมค์ 6 ตัวเสียงพูดชัดเป็นธรรมชาติ
• มี Multipoint Pairing เชื่อมต่อพร้อมกัน 2 อุปกรณ์
• รองรับ Wireless Charge
• โทนเสียงดีฟังเพลงรายละเอียดชัด
• ครบจบในการใช้ชีวิตประจำวันสุดๆ

จุดพิจรณา

• ราคาที่ค่อนข้างสูง มี Jabra Elite 5 มาท้าชนเรื่องสเปค

โทนเสียงที่ใกล้เคียงกันเกือบทุกรุ่น จะต่างกันเพียงเล็กน้อยยิบย่อย

• ต้องบอกอย่างนี้ ทาง Jabra เขาจูนเสียงหูฟังตระกูล Elite ตั้งแต่รุ่น 2 ยัน 7 Pro มาในคาแรคเตอร์เดียวกันครับ นั่นก็คือ “เบสแน่น กระชับเก็บตัวไว เสียงร้องเนียนชัด เคลียร์” โทนเสียงสไตล์นี้เป็นโทนเสียงที่ฟังง่าย ฟังสนุกครับ ฟังเพลง Pop , K-Pop ,EDM , Hip-Hop , R&B ดีมากๆครับ เพลงที่เน้นจังหวะ มี Groove และโชว์เสียงร้องเป็นหลักฟังได้เพลินสุดๆครับ
• ซึ่งในแต่ละรุ่นยิบย่อยทั้งหลายจะมีหลายละเอียดต่างกันเพียงนิดเดียวเท่านั้นเองครับ และด้วยความที่ว่าทุกรุ่นสามารถปรับ EQ เสียงได้ใน App Jabra Sound+ อีก ยิ่งทำให้สามารถจูนเสียงได้แทบจะเหมือนกันได้เลยล่ะครับ แต่โอเคครับ ทีมงานจะมาบอกว่าแต่ละรุ่นต่างกันตรงไหนบ้าง ไปกันเล้ยยยยยยย
• Jabra Elite 2 และ 3 บอกตรงๆว่าเหมือนกันอย่างกับแกะครับ อาจจะต่างกันนิดเดียว แต่นิดเดียววววววววววจริงๆครับ สำหรับทีมงานมองว่า Elite 2 และ 3 เป็น 2 รุ่นที่ให้โทนเสียงฟังสนุกสะใจที่สุดครับ เบสและเสียงร้องเด่นสุดๆ ฟังมัน แรงประทะดีครับ ฟัง K-Pop ดุเดือดเลือดพล่านจริงๆครับ
• Jabra Elite 4 Active โทนเสียงมีความหนานุ่มขึ้นมา มีย่านกลางที่เยอะมากขึ้น เป็นรุ่นที่ฟังเสียงเครื่องดนตรีในย่านกลางค่อนข้างชัด รวมถึงเสียงร้องที่มีความหนาขึ้น อุ่นขึ้นครับ ทำให้การฟังเพลงที่เน้นเสียงร้องฟังได้สะใจยิ่งขึ้น ส่วนย่านเบสและแหลมยังให้มาเหมือนกับ Jabra Elite 2 และ 3 ครับ ก็ยังคงเป็นหูฟังเน้นฟังสนุกเช่นเดิมครับ
• Jabra Elite 5 บาลานซ์ นุ่มนวล โทนเสียงสุภาพ ค่อนข้างแปลกใจตอนที่ได้ฟังครั้งแรกครับ เพราะเป็นโทนเสียงที่สุภาพมากๆ ลดมวลเบสลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงได้ยินอยู่ไม่ได้หายไปเลย กลายเป็นว่าย่านกลางและแหลมพุ่งขึ้นมาได้ยินชัดขึ้นครับ เสียงร้องได้รายละเอียดชัดเจนมากขึ้น รวมถึงเสียงเครื่องดนตรีในย่านกลางชัดขึ้นครับ ย่านแหลมที่ใสกำลังดี ถ้าใครที่ชอบหูฟังโทนเสียงฟังสบายๆ บาลานซ์ ชอบฟังเพลงนุ่มๆสบายๆ แนว Acoustic Pop , Pop เบาๆ ตอบโจทย์สุดๆครับ หรือถ้าอยากได้โทนเสียงฟังสนุกแบบเดิมของ Jabra ก็เข้าไปเพิ่มเบสให้สุดใน App Jabra Sound+ ได้ครับ ฟังมันส์!!!เหมือนเดิมแน่นอน
• Jabra Elite 7 Active และ 7 Pro นุ่มๆ แต่แอบสนุก อาจจะเป็นเพราะ Target ของ 2 รุ่นนี้จะเป็นคนวัยทำงาน หรือมีอายุขึ้นไปหน่อย โทนเสียงเลยออกแนวนุ่มๆครับ ไม่ได้บู๊ดุดันแบบ Elite 2 3 4 Active เสียงร้องยังเคลียร์ เนียน ชัดเจนเช่นเดิม ย่านแหลมมีความใส คม และไปได้ไกลกว่า Elite 2 3 4 Active ครับ ใช้ฟังเพลงที่อัดด้วยเครื่องดนตรีจริงดีเลยครับ จับน้ำหนักเครื่องดนตรีต่างๆมาได้ดี แต่ถึงอย่างนั้นคาแรคเตอร์เบสแน่นๆก็ยังคงอยู่ให้ได้ยินครับ เผื่อใครอยากฟังสนุกๆก็ยังฟังได้เช่นเดิมแค่ลดความดุลงมาครับ สำหรับใครที่ชอบโทนเสียงนุ่มๆ ฟังสบายๆ แต่แอบมีแรงประทะตุ๊บตั๊บให้สนุกอยู่ Jabra Elite 7 Active และ Elite 7 Pro ตอบโจทย์ครับผม

ใครเหมาะกับรุ่นไหน

• สำหรับเพื่อนๆที่ขี้เกียจอ่านบทความยาวๆด้านบน(เศร้านะ...) ทีมงาน 425Audio ได้ทำสรุปสั้นๆมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันครับ

ใช้งานในชีวิตประจำวันตัวไหนคุ้มๆ?

• ถ้าเน้นประหยัด ไม่ต้องการฟีเจอร์เยอะ ใช้แค่ฟังเพลง ดูหนัง คุยโทรศัพท์บ้าง Jabra Elite 2 เลยครับ
• อยากได้คุ้มๆราคาสูงขึ้นมาอีกนิด คุยโทรศัพท์ดี มี HearThrough ให้ใช้งาน Jabra Elite 3 คุ้มมากๆครับ

ตัวไหนไมค์ดีสุดล่ะ?

• ณ ตอนนี้น้องใหม่มาแรงอย่าง Jabra Elite 5 เอาแชมป์ไปกินครับ เรื่องความเป็นธรรมชาติของเสียงพูดและการจัดการเสียงรบกวนรอบข้างขณะคุยโทรศัพท์ ทำได้ดีที่สุดเลยล่ะครับ ตามมาด้วย Jabra Elite 4 Active และ Jabra Elite 7 Pro แต่ถ้าถามว่าดีกว่ามากไหม ก็ตอบตรงๆว่าไม่ขนาดนั้นครับ Jabra Elite 5 จะทำได้ดีกว่าทั้ง 2 รุ่นอยู่ประมาณ 20-30% ครับ

เน้นออกกำลังกาย?

• จะมีด้วยกัน 2 รุ่นครับ Jabra Elite 4 Active และ Jabra Elite 7 Active ที่ทั้ง 2 รุ่นจะมีการเคลือบวัสดุพิเศษ ShakeGrip เพื่อช่วยให้กันน้ำกันเหงื่อได้ดีขึ้น รวมถึงสวมใส่ได้กระชับมากยิ่งขึ้นด้วยครับ
• เน้นออกกำลังกายแบบประหยัดงบ Jabra Elite 4 Active เลยครับ คุ้มๆมีทั้ง ANC และ HearThrough รวมถึงมีไมค์คุยโทรศัพท์ที่ดีมากๆอีกด้วยครับ
• ถ้าอยากไปตัว Top ฟีเจอร์แน่นๆ Jabra Elite 7 Active ANC และ HearThrough มาครบ มีทั้ง Multipoint Pairing เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน รองรับ Wireless Charge ฟีเจอร์ครบๆสมเป็นตัว Top  

ANC กับ HearThrough รุ่นไหนแจ่มสุด?

• 2 รุ่น Top ทั้ง Jabra Elite 7 Active และ Elite 7 Pro ทำได้ดีที่สุดเลยครับ โดยเฉพาะ HearThrough ที่ดูดเสียงมาเนียนมากๆ ธรรมชาติสุดๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องมิติใกล้ไกล ความดัง หรือโทนเสียงที่ดูดมา เรียกว่าใกล้เสียงจริงมากๆ ด้าน ANC ก็ทำได้เยี่ยมเช่นกัน ตัดเสียงรบกวนได้เนียนที่สุดเงียบที่สุดในบรรดา Jabra Elite ที่มี ANC เลยครับ ส่วนรุ่นที่ทำได้ดีรองลงมาจะเป็นน้องใหม่อย่าง Jabra Elite 5 ครับ ที่ ANC ตัดเสียงรบกวนทิ้งกันไม่มาก ส่วนด้าน HearThrough ยังแอบมีความแข็งๆเสียงออกดิจิตัลไปซักหน่อยครับ

ถ้าเป็นสายทำงาน ต้องต่อหลายๆเครื่องพร้อมกันล่ะ?

• ฟีเจอร์ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการทำงานของเราได้ดีมากๆครับ ไม่ต้องมานั่งเชื่อมต่อใหม่ทุกครั้งที่ต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่สอง เชื่อมต่อทิ้งไว้พร้อมสลับประชุมงาน คุยโทรศัพท์ได้ทั้ง 2 อุปกรณ์ได้ตลอดเวลาเลยครับสำหรับ Multipoint Pairing จะมีใน 3 รุ่นด้วยกันครับ Jabra Elite 5 , Jabra Elite 7 Active , Jabra Elite 7 Pro ครับ

สรุป ก็ยังคงให้คำนิยามเดิมกับ Jabra Elite ครับ “หูฟังที่เหมาะในการใช้ในชีวิตประวัน เก่งรอบด้าน” ส่วนรุ่นอะไรต่างๆ ก็ดูตามงบประมาณ ฟีเจอร์ที่ต้องการ งบเท่านี้ใช้แค่นี้พอไหม? ต้องการฟีเจอร์อันนี้อันนั้นรึเปล่า? และเรื่องจุดเด่นหลักๆของ Jabra ก็ยังคงอยู่ครบเช่นเดิม ใส่สบาย คุยโทรศัพท์ดี ฟังเพลงสนุก ทีมงานมองว่านี่คือจุดเด่นหลักๆของตระกูล Jabra Elite เลยล่ะครับ ซึ่งเราก็ต้องมารอดูในเจนใหม่ๆในอนาคตว่าจะมีการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ของหูฟังใหม่อีกรึเปล่า

ตอนนี้ 425Degree มี Flagship Store แล้วน้าาาาา

• สามารถไปลองวัดลองเทียบกันได้ด้วยตัวเองแล้วนะครับ ไม่ว่าจะลองโทนเสียงที่ชอบ ตัวไหนที่ ANC , HearThrough , ไมค์คุยโทรศัพท์ ดีโดนใจเรา ก็สามารถไปเทสได้ทุกรุ่นเลยล่ะครับที่ Flagship Store ที่ Central World ครับ

ตารางเปรียบเทียบสเปค Jabra Elite แต่ละรุ่น