- สวัสดีเพื่อนๆ 425Degree, 425Audio ทุกท่านครับ หายไปนานกับ การรวบรวมหรืออัพเดทหูฟังใหม่ๆมาพอสมควร วันนี้ถึงคิวของ “เจ้าเก่า เจ้าเดิม” อย่าง SoundPEATS เช่นเคยครับ
- ในรอบนี้ 425Audio รวบรวมที่เป็นหูฟังไร้สายใหม่ๆ ช่วงปี 2023 มาให้ชมกันถึง 12 รุ่นครับ ต้องยอมรับเลยว่าในปีนี้ SoundPEATS โหดมากๆ ออกใหม่เพียบ! อัพเดทแทบไม่ทัน ไม่ว่าจะหูฟังตัดเสียงรบกวน หูฟังออกกำลังกาย หรือจะเป็นหูฟังไมค์ดี และที่สำคัญคือ มีครบทั้งทรง In-Ear, Earbuds, Open-Ear, Wireless เอาเป็นว่าแต่ละรุ่นจะเหมาะกับกิจกรรมไหน เหมาะกับใคร ไปชมกันเลย
"12 หูฟังไร้สาย SoundPEATS รุ่นใหม่ ปี 2023"
1. SoundPEATS Air 4 True Wireless (aptX Lossless : Snapdragon Sound)
(Earbuds รุ่นเรือธง เบสดี มี ANC ใช้งานดี All-Around)
- SoundPEATS Air 4 True Wireless ตัวนี้ถือว่าเป็นรุ่นซีรีย์ยอดฮิตของหูฟังแบรนด์ SoundPEATS อยู่แล้วครับ หากใครเป็นเหล่าสาวกของแบรนด์จะทราบกันดี ซีรีย์ยังคงเป็นหูฟังสไตล์ Earbuds แบบเดิม ลักษณะหูฟังทรงมีก้านที่กะรัดรัด คงความสะดวกสบายในการใช้งาน ใครชื่นชอบใส่หูฟังเบาๆ เน้นสบายเป็นหลักยังไงรุ่นนี้ก็ยังตอบโจทย์ได้ดีครับ
- จุดเด่นในซีรีย์นี้ Air 4 มีการเพิ่มระบบฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน ANC หรือ Active Noise Cancelling มาให้ด้วย ซึ่งถ้าเทียบกันในตลาดกับหูฟังคลาสนี้ ถือว่ามีตัวเลือกไม่ได้มากนัก เห็นชัดๆดูเหมือนจะเป็นเจ้า Edifier W320TN ครับ
- ต่อมาคือเรื่องคุณภาพเสียงครับ หากเป็นสาวกในซีรีย์ยอดฮิตนี้คงรู้กันดีครับว่าเป็น Earbuds ที่ให้เสียงเบสได้โดดเด่นที่สุดในคลาส รุ่นนี้รองรับ aptX Lossless หรือ Snapdragon Sound ด้วยชิพล่าสุด Qualcomm QCC3071 ซึ่งสำหรับรุ่นนี้ 425Audio ก็ยังคงว้าวในการตอบสนองของเสียงเบสหรือเสียงย่านต่ำที่มีความแข็งแรงเหมือนเดิม ในส่วนของเสียงย่านกลางและสูงจะออกมาในโทนที่อุ่น-หนาแต่ยังชัดเจนครับ
- ฟีเจอร์ที่โดดเด่นรองลงมานั้นเป็นเรื่องสเปคไมค์คุยโทรศัพท์ครับ สำหรับ SoundPEATS Air 4 นี้มาพร้อมไมค์ที่ใช้คุยโทรศัพท์ได้ชัดเจน ตัดเสียงรบกวน Ambient รอบข้างขณะคุยโทรศัพท์ดีมากๆอีกรุ่นนึง ด้วยสเปคไมค์สนทนา 6 ตัวด้วยกันครับ
- สเปคโดยรวมของเจ้า SoundPEATS Air 4 True Wireless ยังคงมาเต็ม ครบเครื่องดังเดิมครับ ไม่ว่าจะเป็นการรองรับเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.3 รองรับการต่อ 2 อุปกรณ์ (Multipoint) อีกทั้งยังรองรับ Game Mode ช่วยลดดีเลย์
จุดเด่น
- มี ANC ตัดเสียงรบกวน
- Earbuds เสียงเบสดี (รองรับ aptX Lossless : Snapdragon Sound)
- ไมค์ดี
- ต่อ 2 อุปกรณ์ได้ (Multipoint)
จุดด้อย
- ANC ไม่ดีเท่าพวกหูฟัง In-Ear
- วัสดุไม่พรีเมี่ยมเหมือนหูฟังราคาสูง
2. SoundPEATS Air 4 Lite True Wireless (Hi-Res Audio : LDAC)
(Earbuds เบสดี โทนใสกว่าหน่อย ไมค์ดี ไม่มี ANC)
- SoundPEATS Air 4 Lite เป็น Earbuds รุ่นที่รองลงมาจาก Air 4 อีกระดับ โดยสเปคหลักๆถูกตัด ANC ตัดเสียงรบกวนออกไป และมีดีไซน์ภายนอกที่แตกต่างครับ ในรุ่นนี้ใช้วัสดุผิวดำ-เงา ส่วน SoundPEATS Air 4 จะให้ความเท่ ความดุดันมากกว่าด้วยวัสดุสีดำด้าน
- ในส่วนของเรื่องสเปคเสียง SoundPEATS Air 4 Lite True Wireless รองรับ Hi-Res Audio (LDAC) ครับ เท่าที่ทีมงานลองเล่นจะรู้สึกถึงคุณภาพเสียงย่านแหลมหรือสูงที่มีความเป็นประกายของเสียงชัดเจนกว่า SoundPEATS Air 4 แต่ย่านเสียงต่ำหรือเบสของรุ่นนี้จะให้เสียงที่กระชับ เก็บตัวไว เสียงเบสแห้งกว่าเล็กน้อยครับ
- จุดเด่นต่อมายังคงเป็นเรื่องการใช้คุยโทรศัพท์ครับ รุ่นนี้มาพร้อมไมค์สนทนาข้างละ 3 ตัว พร้อม AI ตัดเสียงรบกวนที่ใช้งานได้จริง ตัวไมค์สามารถลดเสียง Ambient รอบข้างขณะคุยได้ดีให้ฟิลลิ่งที่คุ้มราคาดีครับ หากใครต้องใช้หูฟังคุยงาน คุยกับเพื่อนแบบเนี๊ยบๆหน่อย ตัวนี้ตอบโจทย์ได้สบายๆเลยครับ
- ด้านสเปคการเชื่อมต่อเป็น Bluetooth 5.3 ที่รองรับการต่อสองอุปกรณ์ Multipoint มีการรองรับ Game Mode สามารถปรับแต่ง EQ เสียงหูฟังผ่านแอพฯ SoundPEATS ได้ไม่ต่างจาก SoundPEATS Air 4 ครับ
สเปคแบตเตอรี่ของรุ่นนี้ให้การใช้งานต่อเนื่องที่สูงกว่าเล็กน้อย โดยหูฟังสามารถใช้ต่อเนื่องได้สูงสุด 7 ชม. รวมกล่องชาร์จแบตเตอรี่สูงสุด 30 ชม. ครับ - หากเพื่อนๆไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องเป็นหูฟัง Earbuds ที่ต้องมีระบบตัดเสียงรบกวน ANC ทีมงาน 425Audio คิดว่ารุ่นนี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานครับ
จุดเด่น
- Earbuds เสียงเบสดี
- เสียงย่านสูงหรือแหลม โทนใสกว่า Air 4 (รองรับ LDAC)
- ไมค์ดี
- ต่อ 2 อุปกรณ์ได้ (Multipoint)
จุดด้อย
- ไม่มี ANC ตัดเสียงรบกวน
- วัสดุไม่พรีเมี่ยมเหมือนหูฟังราคาสูง
3. SoundPEATS Air3 Deluxe HS True Wireless
(Earbuds โทนเสียงใสๆ ไมค์ดี มีสีน่ารักๆให้เลือก)
-
สำหรับ SoundPEATS Air3 Deluxe HS นี้ก็เป็นหูฟังไร้สายทรง Earbuds ที่ได้รับการต่อยอดหรือพัฒนามาจาก SoundPEATS Air 3 นั่นเองครับ หลักๆแล้วยังคงเน้นการใช้งานสบายๆ ใส่ไม่อึดอัด แต่คุณภาพเสียงยังชัดเจนครับ
-
สำหรับรุ่นนี้ยังคงมีสเปคเสียงที่จัดเต็ม ไม่แพ้รุ่นใหม่ๆ โดยรองรับ LDAC ตอบสนองคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res ครับ เท่าที่เราลองต้องบอกว่า โทนเสียงจะเป็นแนวคมชัด แต่ฟังได้เรื่อยๆ เนื้อเบสมีให้จับต้องได้ไม่ยาก แต่เสียงเบสจะไม่ทิ้งตัวนานและไม่ได้ลงลึกเท่าพวกหูฟังแบบ In-Ear ครับ ใครที่ชอบฟังโทนเสียงสไตล์ฟังเรื่อยๆ แต่รายละเอียดชัดเจน รุ่นนี้ตอบโจทย์ครับ
-
จุดเด่นของรุ่นนี้คือดีไซน์ที่น่ารักครับ รุ่นนี้มาพร้อมสีสันให้เลือกถึง 3 สีครับ สีดำ สีชมพู สีม่วง ทำให้ตัวหูฟังสามารถรองรับการใช้งานได้ทั้งผู้ชาย ผู้หญิงครับ
-
สเปคและฟีเจอร์การใช้งานทั่วไปนั้นต้องยอมรับว่าไม่ได้ทันสมัยเท่าพวกตระกูล SoundPEATS Air 4, Air 4 Lite แต่โดยรวมแล้วใช้งานประจำวันทั่วไปได้สบายๆครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไมค์สนทนาแบบคู่ ไมค์ยังใช้คุยรู้เรื่อง มาตรฐานกันน้ำระดับ IPX4 ใส่ออกกำลังกายได้ กันละอองฝนได้ รองรับ Game Mode ความหน่วงต่ำ 60 ms เล่นเกม,ดูหนังไม่หน่วง รองรับแอพฯของ SoundPEATS ใช้ปรับ EQ ปรับตั้งค่าต่างๆได้ เซนเซอร์ In-Ear Detection หยุดเพลงอัตโนมัติเมื่อหูฟังออกจากหู แบตหูฟังต่อเนื่องประมาณ 5 ชม. รวมกล่องชาร์จสูงสุด 20 ชม.
-
โดยรวมแล้วถ้าชอบหูฟัง Earbuds และไม่ได้ซีเรียสเรื่องความใหม่ล่าสุด SoundPEATS Air3 Deluxe HS True Wireless ตอบโจทย์ได้คุ้มค่าแน่นอนครับ
จุดเด่น
- ใส่สบาย
- โทนเสียงฟังสบาย ฟังได้เรื่อยๆ (รองรับ LDAC)
- ไมค์คุยรู้เรื่อง
- มีสีน่ารักๆให้เลือก
จุดด้อย
- ไม่มี ANC ตัดเสียงรบกวน
- วัสดุไม่พรีเมี่ยม
- เชื่อมต่อได้ทีละ 1 อุปกรณ์
- ไม่ได้เป็นซีรีย์รุ่นใหม่ล่าสุด
4. SoundPEATS Capsule 3 Pro True Wireless
(เน้นเสียง ไมค์ดี ใช้งาน All-Around ทรง In-Ear)
- SoundPEATS Capsule 3 Pro เป็นหูฟังไร้สาย True Wireless อีก 1 รุ่นที่สามารถยกระดับคุณภาพเสียงให้กับแบรนด์ SoundPEATS ได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ สำหรับ 425Audio นั้นต้องยอมรับว่าในรุ่นนี้มีกระแสน้อยมากๆ แต่อยากแนะนำให้เพื่อนๆชาว 425Audio ได้ลองกันจริงๆ ถ้าใครเป็นสายชอบฟังรายละเอียดเสียงเยอะๆ เบสลูกหนา ลูกใหญ่ อิมแพคลึก แรงปะทะดี ย่านเสียงกลางและสูงมีความสมดุล (Balance) ไปพร้อมๆกัน ทีมงานแอดมินคิดว่ารุ่นนี้ทำได้ดีมากๆครับ
- ในเรื่องสเปคเสียงรุ่นนี้มีการรองรับการใช้งาน รองรับ Codec : LDAC ใครมีอุปกรณ์ที่รองรับ ก็จะช่วยให้คุณภาพเสียงย่านสูงมีความละเอียดยิ่งขึ้นอีกครับ
- นอกจากนี้ SoundPEATS Capsule 3 Pro ยังมาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก (Active Noise Cancelling) และโหมดรับเสียงภายนอก (Transparency Mode) ที่ช่วยลดเสียงรบกวนขณะใช้งานได้จริงๆ หากเพื่อนๆมองหาหูฟังตัดเสียงที่ราคาไม่แรงมาก ตัวนี้ตอบโจทย์ครับ
- อีก 1 จุดเด่นคือเรื่องแบตฯ ต้องยอมรับว่าในสมัยนี้เรื่องแบตฯมีผลต่อการใช้งานชีวิตประจำวันมาก เราสามารถใช้ฟังเพลง ใช้ประชุมงานต่อเนื่องได้สบายๆด้วยแบตฯหูฟังที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 8 ชม. รวมสูงสุด 52 ชม. เมื่อชาร์จกับกล่องชาร์จ นี่ถือว่าเป็นหูฟังแบตฯเยอะๆอีกตัวนึงในตลาดเลยครับ
- สำหรับเพื่อนๆที่เน้นการคุยงาน Meeting Online ผ่านหูฟัง ตัวนี้มาพร้อมไมโครโฟนภายใน 6 ตัว เท่าที่เราลองใช้งานจริง ต้องยอมรับว่าตัวไมค์ใช้คุยงานในห้องทำงาน ในสถานที่แบบ Indoor เสียงรบกวนไม่เยอะมากได้สบายๆครับ
- หากคุณกำลังต้องการหูฟังไร้สาย True Wireless ที่ให้รายละเอียดเสียงโหด มิติเสียงโหดเกินราคา SoundPEATS Capsule 3 Pro เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าแน่นอนครับ
จุดเด่น
- ทรง In-Ear ใส่สบาย
- มิติเสียง โทนเสียง รายละเอียดโหด ฟังได้เพลินๆ (รองรับ LDAC)
- ไมค์คุยรู้เรื่อง
- มี ANC & Ambient Mode ที่ใช้งานได้จริง
- แบตฯอึด
จุดด้อย
- เชื่อมต่อได้ทีละ 1 อุปกรณ์
- ไม่ได้เป็นซีรีย์รุ่นใหม่ล่าสุด
5. SoundPEATS Opera 05 True Wireless
(ย่านเสียงสูงจัดจ้าน รายละเอียดชัดแบบไม่ต้องเพ่ง)
- หูฟังซีรีย์ใหม่ของ SoundPEATS (Opera Series) สำหรับซีรีย์นี้เท่าที่ทาง 425Audio ได้ลองแล้วต้องยอมรับว่าเป็นหูฟังไร้สายสไตล์เน้นเสียงย่านสูงเป็นหลัก รายละเอียดเสียงมีความใส จับต้องได้ง่ายมาก ใครชอบสไตล์คมๆ จัดจ้านตัวนี้ตอบโจทย์แน่นอน
- สเปคด้านไดร์เวอร์เสียงมีความโดดเด่นที่ไดร์เวอร์แบบผสมครับ ข้างละ 3 ตัว (Dynamic Driver + Dual Balanced Armature Driver) ผสมกับการรองรับ Hi-Res Audio แบบ LDAC ถ้าเพื่อนๆมีอุปกรณ์ที่ถ่ายทอดได้จะได้ประสบการณ์เสียงที่เพิ่มเติมขึ้นไปอีกระดับครับ
- สำหรับ SoundPEATS Opera 05 True Wireless ยังมาพร้อมกับระบบ ANC ตัดเสียงรบกวน ช่วยลดเสียงได้ถึง 30 dB. และยังมีไมค์รับเสียงรอบข้าง Transparency Mode ช่วยให้ใช้งานประจำวันได้ครบเครื่องสมราคาครับ
- ดีไซน์หูฟังรุ่นนี้ต้องยอมรับว่าเป็นดีไซน์ที่เน้นสีดำตัดสีทองเป็นหลัก ให้ความหรูหราและทันสมัยได้ดีระดับนึง อีกทั้งยังมีการพัฒนาในเรื่องของคุณภาพวัสดุที่ดี ให้ฟิลลิ่งหรืออารมณ์ในการใช้งานที่พรีเมี่ยมได้ดีครับ
- สเปคการเชื่อมต่อของ SoundPEATS Opera 05 เป็น Bluetooth 5.3 ที่รองรับกับแอพของ SoundPEATS เพิ่มเติม สามารถปรับ EQ เสียงได้ ปรับโหมดหูฟังได้ในแอพฯ รวมถึงดูข้อมูลต่างๆของหูฟังได้สะดวกครับ
- ในส่วนของการใช้งานประจำวัน ทีมงาน 425Audio ถือว่าครบเครื่องสมราคาครับ ตัวหูฟังสามารถกันเหงื่อได้ สำหรับคนที่เหงื่อเยอะแบบแอดฯเอง ด้วยมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX4 อีกทั้งยังรองรับแบตฯมาได้อึดมากๆ โดยหูฟังใช้งานได้ 9 ชม. รวมกล่องชาร์จสูงสุด 33 ชม.
- ใครที่ต้องการหูฟังที่ทันสมัยขึ้น เน้นการใช้งานด้านเสียงเป็นหลักในสไตล์หูฟังคล้าย SoundPEATS H1 ใช้ฟังเพลง ใช้ดูหนัง เล่นเกม ออกกำลังกายเบาๆ ตัวนี้ตอบโจทย์ได้ครับ
จุดเด่น
- มิติเสียงกว้าง เสียงย่านแหลมดีมาก (รองรับ LDAC)
- มี ANC & Ambient Mode ที่ใช้งานได้จริง
- แบตฯอึด
จุดด้อย
- บอดี้หูฟังค่อนข้างใหญ่ คนหูเล็กควรลองก่อน
- เชื่อมต่อได้ทีละ 1 อุปกรณ์
- ผิวหูฟังลื่น หยิบหูฟังจากกล่องยาก
6. SoundPEATS Opera 03 True Wireless
(เสียงจัดจ้าน ฟังสนุก สเปครองจาก Opera 05)
- สำหรับรุ่นนี้ก็เรียกง่ายๆว่าเป็นรุ่นที่สเปคเสียงรองลงมาจาก Opera 05 นั่นเองครับ ในส่วนที่แตกต่างชัดเจนนั้นเป็นเรื่องสเปคเสียงข้างละ 2 ไดร์เวอร์ (1BA+1DD) ที่รายละเอียดเสียงย่านสูงหรือแหลม (High) จะดร็อปลงมาจาก Opera 05 เล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วยังจัดจ้านและชัดเจนและมีการรองรับ Hi-Res Audio | LDAC อยู่ครับ
- เรื่องดีไซน์ก็แตกต่างที่เฉดสีของวัสดุเพียงเล็กน้อย แต่ยังคงเป็นดีไซน์ที่แฝงความหรูหราพรีเมี่ยมด้วยเฉดสีดำ-ทองแบบโรสโกลด์ครับ
- ในส่วนของฟีเจอร์และสเปคด้านอื่นๆ แทบจะไม่ต่างจากรุ่น Flag Ship อย่าง Opera 05 ครับ ด้านการเชื่อมต่อยังคงผ่าน Bluetooth 5.3 รองรับแอพฯ SoundPEATS สำหรับปรับตั้งค่าหูฟังด้านต่างๆ ยังมีระบบตัดเสียงรบกวน ANC และระบบรับเสียงรอบข้าง Transparency Mode ที่ทีมงานลองใช้งานแล้ว ไม่ต่างกับรุ่น Opera 05 ครับ
- สำหรับรุ่น Opera 03 นี้ยังคงสวมใส่ใช้งานในเมืองไทยที่อากาศร้อนๆได้อุ่นใจ ด้วยมาตรฐานกันน้ำและเหงื่อระดับ IPX4 โดยแบตฯหูฟังใช้งานได้ 9 ชม. รวมกล่องชาร์จสูงสุด 33 ชม. ครับ
จุดเด่น
- ย่านเสียงมีความ Balance คมชัดสูง (รองรับ LDAC)
- มี ANC & Ambient Mode ที่ใช้งานได้จริง
- แบตฯอึด
จุดด้อย
- บอดี้หูฟังค่อนข้างใหญ่ คนหูเล็กควรลองก่อน
- เชื่อมต่อได้ทีละ 1 อุปกรณ์
- ผิวหูฟังลื่น หยิบหูฟังจากกล่องยาก
7. SoundPEATS Engine 4 True Wireless
(เสียงเกินราคา แบตฯอึดสุดในรุ่น วัสดุแน่น)
- SoundPEATS Engine 4 True Wireless อีก 1 รุ่นในช่วงปี 2023 ที่เป็นตัวที่น่าจับตามองกับกลุ่มผู้ใช้งานในตลาด ด้วยค่าตัวหูฟังที่ต่ำกว่า 3,000.- แต่มาพร้อมสเปคเสียงโหดๆ รองรับ LDAC ฟัง Hi-Res Audio ได้ด้วยไดร์เวอร์ไดนามิคคู่ขนาด 6มม. & 10มม. เท่าที่ทาง 425Audio ได้ลองฟังนั้นต้องยอมรับว่า คุณภาพเสียงให้มาสุดมากๆ โทนเสียงโดยรวมให้ความสนุก ความละเอียดของเสียงได้ดีเกินราคาครับ ถ้าเทียบกับตัวแบรนด์อื่นๆเช่น Edifier ก็สามารถไปเทียบพวกรุ่น Edifier NB2 Pro, Edifier Neobuds Pro ได้สบายๆ
- จุดเด่นของรุ่นนี้ SoundPEATS Engine 4 คือแบตเตอรี่ครับ สเปคแบตฯมาสูงสุดที่ 12.5 ชม. ต่อการใช้งานจริง ถือว่าเยอะมาก และรวมกล่องชาร์จสูงสุด 43 ชม. หากเทียบในเรนจ์ราคานี้ SoundPEATS Engine 4 ถือว่าเป็นเบอร์ต้นๆแน่นอนครับ
- ด้านการใช้งานอื่นๆของ SoundPEATS Engine 4 นั้นถือว่าเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 ที่รองรับ Multipoint Connection ต่อสองอุปกรณ์ได้ รองรับ Game Mode (Low Latency ต่ำ 70ms) รองรับแอพฯ SoundPEATS ปรับแต่ง Custom EQ เสียงได้ ระบบสัมผัสควบคุมมัลติมีเดีย รวมถึงคุณสมบัติกันเหงื่อที่ระดับ IPX4 สวมใส่ออกกำลังกายได้ครับ
- หากเทียบกับหูฟังรุ่นอื่นๆในคลาสนี้ ทางทีมงาน 425Audio ต้องยอมรับว่า SoundPEATS Engine 4 ขาดเพียงแค่ระบบตัดเสียงรบกวน ANC & Ambient Mode ไปเท่านั้นครับ ดังนั้นใครที่ไม่ได้ซีเรียสมากนักกับสองระบบนี้ เจ้า SoundPEATS Engine 4 เป็นทางเลือกของหูฟังเสียงดีๆอีกตัวแน่นอนครับ
จุดเด่น
- โทนเสียงเคลียร์ สะอาด ละเอียด (รองรับ LDAC)
- แบตฯอึด
- เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์
- วัสดุดี
จุดด้อย
- ไม่มี ANC & Ambient Mode
- ผิวหูฟังลื่น หยิบหูฟังจากกล่องยาก
8. SoundPEATS Mini HS True Wireless
(เน้นคุณภาพเสียง กับราคาต่ำกว่าพัน)
- สำหรับ SoundPEATS Mini HS รุ่นนี้ เป็น True Wireless ราคาต่ำกว่าพันบาทที่น่าใช้งานมากๆสำหรับใครที่อยากได้หูฟังคุณภาพเสียงดีๆ รองรับ Hi-Res Audio แบบ LDAC ครับ
- สำหรับโทนเสียงรุ่นนี้จะออกไปในทางน้ำเสียงที่ฟังสนุกครับ พวกรายละเอียดย่านกลางและย่านสูง (Mid, High) มีความเข้มข้น มีความแข็งแรงของเสียงที่ดีมากๆครับ โดยเนื้อเสียงย่านเบสจะออกไปทางนุ่มนวล เน้นกระชับ แต่โดยรวมแล้วยังจับต้องมวลเสียงได้เป็นลูกครับ เพื่อนๆที่ชื่นชอบแนวเสียงพุ่งๆ สะอาด เสียงเคลียร์ๆ SoundPEATS Mini HS ตอบโจทย์ครับ
- ด้านฟีเจอร์การใช้งานของหูฟัง ถือว่าครบเครื่องกับราคาต่ำกว่าพันบาทครับ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี AI Noise Canceling Algorithm ตัดเสียงรบกวนขณะสนทนาในไมค์ เชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 เชื่อมต่อได้พร้อมกันสองอุปกรณ์ (Multipoint Connection) รองรับ Game Mode (Latency ต่ำสุด 60ms) รองรับ SoundPEATS App Control ปรับ EQ เสียงได้ หูฟังแบตเตอรี่สูงสุด 8 ชม. รวมกล่องชาร์จสูงสุด 36 ชม.
- หากเพื่อนๆชอบหูฟังที่ให้ความกะทัดรัด ไม่ว่าจะพกพาสะดวก ขนาดเล็ก สวมใส่สบาย พร้อมดีไซน์ให้เลือกหลายสี SoundPEATS Mini HS สามารถตอบโจทย์แบบนั้นได้สบายๆครับ
- รุ่นนี้มีสีให้เลือก 3 สีครับ (ดำ,ฟ้า,ครีม)
จุดเด่น
- ราคาต่ำกว่าพันบาท
- โทนเสียงเคลียร์ สะอาด ฟังสนุก (รองรับ LDAC)
- แบตฯอึด
- เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์
จุดด้อย
- ไม่มี ANC & Ambient Mode
- วัสดุบางนิดหน่อย แต่สมราคา
- ไมค์คุยโทรศัพท์ตัดเสียงรบกวนไม่ได้มากเท่าไร
9. SoundPEATS Runfree Open-Ear Sport Headphones
(ออกกำลังกาย Open-Ear งบ Budget ที่พร้อมชนแบรนด์ใหญ่)
- หูฟังออกกำลังกายไร้สาย Sport Headphones ที่เป็นรุ่นระดับเรือธงของ SoundPEATS แต่มาพร้อมกับราคาที่ไม่เกิน 2,000.- สามารถใช้งานได้ฟิลลิ่งชนกับพวกแบรนด์ดังอย่าง Shokz ได้สบายๆ และเมื่อเทียบกับหูฟังเทคโนโลยีแบบ Bone Conduction ของ Shokz แล้ว SoundPEATS Runfree รุ่นนี้ยังมีเทคโนโลยีเสียงแบบ Air Conduction ไดร์เวอร์ขนาด 16.2 มม. พร้อมเทคโนโลยี Bass Boost ที่สามารถให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าได้อีกด้วย
- จุดเด่นของดีไซน์แบบ Open-Ear นั้นเป็นการใช้งานที่สามารถได้ยินเสียงรอบข้างขณะใช้งานไปด้วย ช่วยให้เราใช้งานได้อย่างปลอดภัยในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเอาไปวิ่งในสวนสาธารณะ ใช้ตอนเดินทาง ตอนขับขี่หรือตอนขี่จักรยาน
- จุดเด่นของ SoundPEATS Runfree ที่โดดเด่นกว่ารุ่น SoundPEATS Runfree Lite คือเรื่องของ Neckband หรือวัสดุที่คล้องคอที่สัมผัสกับผิวหนัง จะผลิตจากวัสดุอัลลอยที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นต่อการสวมใส่ได้มากกว่า ช่วยให้น้ำหนักเบา สวมใส่สบายและวัสดุหูฟังเป็นเกรด Food-Grade อ่อนโยนต่อผิวหนังครับ
- การเชื่อมต่อใช้งานนั้นทำได้อย่างไม่มีปัญหาครับ เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.3 และพิเศษด้วยการรองรับการเชื่อมต่อพร้อมกัน 2 อุปกรณ์ (Multipoint) สเปคแบตเตอรี่สูงสุดที่ 14 ชม. ต่อการชาร์จครับ
- หากเพื่อนๆกำลังต้องการหูฟังออกกำลังกายที่ราคาไม่แรงเกินเหตุ คุณภาพเสียงไม่ขี้เหร่ ไมค์ชัดเจน ใส่สบายใส่กระชับไม่หลุดง่าย ใช้งานได้ครบครันในชีวิตประจำวัน ตัวนี้ตอบโจทย์แน่นอนครับ
จุดเด่น
- เสียงดี เสียงแน่นกว่าเทคโนโลยีแบบ Bone Conduction
- เสียงเบสมาเป็นลูก ไม่กระพรือ
- วัสดุหูฟังไม่ต่างกับหูฟังราคาสูง
- เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์
จุดด้อย
- ใช้งานร่วมกับ Mask, แว่น ไม่สะดวก
- คุณภาพเสียงไม่เต็มอิ่มเท่าพวกหูฟัง In-Ear
10. SoundPEATS Runfree Lite Open-Ear Sport Headphones
(ออกกำลังกาย Open-Ear ราคาต่ำกว่าพัน)
- SoundPEATS Runfree Lite เป็นหูฟังออกกำลังกายไร้สายรุ่นเริ่มต้นสำหรับซีรีย์ RunFree ครับ
- จุดเด่นของรุ่นนี้คือเป็นเทคโนโลยี Air Conduction ไดร์เวอร์ขับเสียงขนาด 16.2 มม. ที่ช่วยในเรื่องของคุณภาพเสียงที่ชัดเจน เสียงดัง เรียกแรงในการใช้ออกกำลังกายได้ดีกว่าพวกหูฟัง Bone Conduction ของแบรนด์ราคาสูงอย่าง Shokz เช่นกัน โดยเท่าที่ 425Audio ทดสอบแล้วรู้สึกว่าการรับรู้ของเสียงในย่านต่ำหรือ Bass จะทำได้ชัดเจนมากกว่าครับ
- ดีไซน์หูฟังเป็นแบบ Open-Ear เบาเพียง 28 กรัม สวมใส่สบายมากครับ และยังได้ยินเสียงภายนอกขณะใช้งาน Outdoor ครับ
- เมื่อเทียบกับรุ่นท็อปของคลาสอย่างตัว RunFree ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดนั้นเป็นเรื่องวัสดุของเจ้า SoundPEATS Runfree Lite ครับที่ส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกแข็งเกรดรองลงมาจากตัวท็อปครับ
- ในส่วนสเปคต่างๆยังคงให้ความสะดวกในการใช้งานดีครับ เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.3 รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกัน 2 อุปกรณ์ (Multipoint) แบตสูงสุด 17 ชม. รองรับช่องชาร์จ USB Type-C กันเหงื่อระดับ IPX4
เรียกได้ว่าสเปครวมๆของเจ้า SoundPEATS Runfree Lite นั้นถือว่าเป็นหูฟังออกกำลังกายหลักร้อยที่ให้สเปคมาล้นราคาเลยทีเดียว
จุดเด่น
- คุณภาพเสียงชัดเจนกว่า เทคโนโลยี Bone Conduction
- เสียงเบสมาเป็นลูก ไม่กระพรือ
- เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์
จุดด้อย
- ใช้งานร่วมกับ Mask หรือแว่นไม่สะดวก
- วัสดุไม่พรีเมี่ยมเท่ารุ่น RunFree
- คุณภาพเสียงไม่เต็มอิ่มเท่าพวกหูฟัง In-Ear
11. SoundPEATS GoFree Open-Ear True Wireless
(Open-Ear True Wireless ออกกำลังกาย ราคาต่ำพัน)
- รุ่นนี้เป็นหูฟัง True Wireless แบบใหม่ครับ ของหูฟัง SoundPEATS โดยดีไซน์เป็น Open-Ear ที่โดดเด่นกับการใช้งานแบบโปร่งๆ เน้นความสบายและได้ยินเสียงรอบข้างขณะใช้งานเป็นหลัก เหมาะกับเพื่อนๆที่มีกิจกรรม Activity นอกสถานที่หรือ Outdoor เป็นหลักครับ
- สำหรับรุ่นนี้ราคาค่อนข้างจับต้องง่ายครับ เมื่อเทียบกับหูฟังแบรนด์อื่นๆ ที่ส่วนใหญ่จะเปิดตัวมาราคาค่อนข้างกระโดดไปไกล แต่รุ่นนี้ SoundPEATS GoFree ค่าตัวอยู่ที่ไม่เกิน 2,000 บาทเท่านั้นครับ
- สำหรับ SoundPEATS GoFree เองมาพร้อมกับเทคโนโลยีคุณภาพเสียง ระดับ Hi-Res Audio ด้วย (LDAC) ผสมกับไดร์เวอร์ไดนามิคขนาด 16.2 มม. ถือว่าใหญ่พอสมควร ช่วยให้ผู้ที่มีอุปกรณ์ที่สามารถรองรับได้นั้นมีคุณภาพเสียงที่เต็มอิ่มเต็มประสิทธิภาพขึ้นครับ
- การเชื่อมต่อเป็น Bluetooth 5.3 ครับ และยังรองรับ Multipoint Connection หรือการต่ออุปกรณ์พร้อมกันสองเครื่องได้ มีการรองรับ Game Mode และรองรับแอพฯ SoundPEATS สำหรับปรับแต่งเสียงหูฟังได้อีกด้วย
- ส่วนของสเปคด้านต่างๆ หูฟังจะมาพร้อมไมค์สนทนาคู่ + ENC ลดเสียงรบกวน ที่ใช้คุยในสถานที่เงียบๆได้ดี แต่ต้องยอมรับว่าไม่ได้โดดเด่นกับการคุยในสถานที่เสียงรบกวนเยอะเหมือนหูฟังไมค์ดีตัวอื่นๆ ตัวหูฟังสามารถกันละอองน้ำและเหงื่อระดับ IPX4 สามารถสวมใส่วิ่งออกกำลังกายได้ครับ
- แบตเตอรี่ของเจ้า SoundPEATS GoFree รุ่นนี้ถือว่าดุพอสมควรครับ ตัวหูฟังรองรับการใช้งานสูงสุด 10 ชม. รวมกล่องชาร์จสูงสุด 45 ชม. ทางทีมงานถือว่าสเปคแบตฯโหดพอสมควรครับ
จุดเด่น
- ราคาจับต้องง่าย
- คุณภาพเสียงชัดเจนกว่า เทคโนโลยี Bone Conduction
- เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์
จุดด้อย
- กล่องขนาดใหญ่
- ใช้งานร่วมกับ Mask หรือแว่นไม่สะดวก
12. SoundPEATS Wings 2 True Wireless
(หูฟังออกกำลังกายแบบ Earbuds เกี่ยวหู)
- หูฟังไร้สายดีไซน์ Ear Hooks หรือก้านเกี่ยวคล้องหูที่สามารถเกี่ยวหูได้กระชับ รุ่นนี้จะเหมาะกับคนที่กำลังมองหาหูฟังสำหรับใส่ออกกำลังกายโดยเน้นว่าจะต้องใส่สบายไปด้วยและมั่นใจว่าหูฟังจะไม่หลุดด้วย เพราะว่าตัวหูฟังเป็นทรง Earbuds หูฟังน้ำหนักข้างละประมาณ 7.7 กรัม สามารถเกี่ยวใบหูได้อย่างสบายครับ
- คุณภาพเสียงของ SoundPEATS Wings 2 นั้นต้องยอมรับว่าไม่ได้โดดเด่นที่การให้เสียงแบบแน่นๆ อิ่มๆ แต่ตัวนี้จะเด่นที่การให้เสียงแบบโปร่งๆ ฟังได้เรื่อยๆ ฟังสบายมากกว่าครับ โดยไดร์เวอร์ขับเสียงเป็นชนิดไดนามิคไซส์ 13 มม.
- ในส่วนของการเชื่อมต่อ เป็น Bluetooth 5.3 และรองรับโหมด Low Latency ที่ช่วยในการตอบสนองภาพและเสียงต่ำสุด 70 ms ช่วยให้เราใช้งาน Netflix, Youtube ได้อย่างแม่นยำ แทบไม่รู้สึกดีเลย์นั่นเองครับ แถมรุ่นนี้ยังสามารถปรับแต่งเสียงได้ในแอพฯ SoundPEATS (Customized EQ) ได้ด้วยครับ
- สเปคหูฟังอื่นๆนั้นถือว่ายังคงอยู่ในระดับมาตรฐานครับ ไม่ว่าจะการรองรับการควบคุมแบบสัมผัส แบตหูฟังใช้ต่อเนื่องสูงสุด 8 ชม. รวมกล่องชาร์จสูงสุด 30 ชม. พร้อมช่องชาร์จ USB Type-C และคุณสมบัติกันละอองน้ำ IPX4
- สำหรับหูฟัง True Wireless ในราคาไม่เกิน 1,000 บาท แต่ให้ความคุ้มค่าการใช้งานได้ขนาดนี้ ทีมงาน 425Audio ถือว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าอีกรุ่นครับ
จุดเด่น
- ราคาไม่เกิน 1,000.-
- โทนเสียงโปร่ง-ฟังสบายมาก
- เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์
จุดด้อย
- กล่องขนาดใหญ่
- เสียงออกแนวโปร่ง ไม่แน่น
- ใช้งานร่วมกับ Mask หรือแว่นไม่สะดวก