รวมฟีเจอร์เคส iPad Air 5 เลือกยังไงให้ตรงไลฟ์สไตล์ | 425 มีคำตอบ

รวมฟีเจอร์เคส iPad Air 5 เลือกยังไงให้ตรงไลฟ์สไตล์ | 425 มีคำตอบ
27 เมษายน 2022 10081 ผู้เข้าชม
รวมฟีเจอร์เคส iPad Air 5 เลือกยังไงให้ตรงไลฟ์สไตล์ | 425 มีคำตอบ

               เคส iPad ในปัจจุบัน ถูกออกแบบให้มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะใช้เพื่อการทำงาน หรือใช้ทำกิจกรรมในยามว่างทั้งเล่นเกม ดูหนัง ดูซีรีส์ แต่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าเคสฟีเจอร์แบบไหนที่จะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง 

               ทีมงาน 425° ได้จัดหมวดหมู่เคส แบ่งประเภทตามฟีเจอร์ สำหรับเคส iPad Air 5 โดยเฉพาะ พร้อมแนะนำว่าในแต่ละฟีเจอร์เหมาะกับการใช้งานแบบไหน เพื่อให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ที่คุณเป็น ไม่ว่าจะเป็นเคสกันกระแทก เคสตั้งได้แบบมีฝาพับ หรือจะเป็นเคสที่ใช้งานร่วมกับ Magic Keyboard ใครที่กำลังตามหาเคส iPad Air 5 แบบที่เหมาะกับตัวเอง และรุ่นไหนจะตอบโจทย์กับการใช้งานระยะยาว มากที่สุด ไปดูกันเลยดีกว่า!!

 


 

               สำหรับใครที่ใช้งานหนักหรือชอบทำตกบ่อย อยากหาเคสกันกระแทกดี ๆ สามารถใช้งานได้ยาว ๆ ต้องยกให้กลุ่มนี้เลยครับ ด้วยการออกแบบเพื่อกันกระแทกโดยเฉพาะ มีการใช้วัสดุที่แข็งแรงทนทาน เสริมความหนาให้มุมทั้ง 4 มุม ช่วยป้องกันการกระแทกบริเวณมุมเครื่องได้อย่างดี เหมาะกับใครที่อยากได้เคสอึด ถึก ทน ใช้งานได้อย่างมั่นใจ หนักแค่ไหนก็เอาอยู่

 

 

“เน้นถึก ทน กันกระแทกดีเยี่ยม”

               ใครที่ต้องการเคสที่เน้นเรื่องของการกันกระแทก ต้องบอกเลยว่ากลุ่มนี้มั่นใจได้แน่นอน เพราะแต่ละแบรนด์ได้ผ่านการทดสอบการกันกระแทก และผ่านการทดสอบ Drop Test โดย 425° ซึ่งทีมงานก็ได้คัดรุ่นเด่นแบรนด์ดังมาให้แล้ว 

               ZUGU CASE The Alpha เคส iPad รุ่นยอดนิยมที่ขายดีจนติดอันดับ โดยตัวเคสมาพร้อมมาตรฐานกันกระแทกที่ความสูงถึง 1.5 เมตร ด้วยการเลือกใช้วัสดุเคสที่แข็งแรงทนทาน ลดแรงกระแทกได้ดีเมื่อตกหล่น ปกป้อง iPad เครื่องโปรดของคุณได้ทุกสถานการณ์

               STM DUX Plus Case ที่ออกเเบบมาเพื่อกันกระเเทกโดยเฉพาะ บริเวณขอบเคสทำจากยาง TPU ช่วยซับแรงกระแทก และ​​เสริมมุมเคสทั้ง 4 ด้านให้มีความหนา ช่วยกันกระเเทกในกรณีที่มุมตัวเครื่องตกได้ โดยมีผ่านมาตรฐานการกันกระเเทก MIL-SPEC 810G. ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานมาจาก Apple โดยตรง และยังผ่านการ Drop Test จากทาง 425° มาแล้วกับมือ เพิ่มความมั่นใจได้ในทุกการใช้งาน

               Otterbox Symmetry รุ่นนี้มาพร้อมมาตรฐานการกันกระแทกสุดโหดอย่าง OtterBox Certified Drop Protection ซึ่งเป็นการทดสอบทั้งการกันกระแทก กันเหงื่อ แสง UV รวมถึงทดสอบการใช้งานกล้อง การแสกนนิ้วมือ ปุ่มกด ไมโครโฟน ลำโพง รวมทั้งหมด 24 รายการ ทั้งในห้องแล็บและการใช้งานจริง มากกว่า 238 ชั่วโมง ซึ่งเหนือชั้นกว่ามาตรฐานของ Military Standard หรือมาตรฐานกันกระแทกทั่วไป

               UAG MetroPolis SE เคสสไตล์สปอร์ต เป็นรุ่นที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการตกกระแทก Military Standard จากทางแบรนด์ที่ 1.2 เมตร ถึง 26 ครั้ง ทั้งยังมีการออกแบบให้บริเวณมุมทั้ง 4 มุม มีความหนาและแข็งแกร่งเป็นพิเศษ เพื่อการป้องกันตัวเครื่องอย่างมั่นใจเมื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน

               สำหรับใครที่ใช้งานหนักหรือชอบทำตกบ่อย อยากหาเคสกันกระแทกดี ๆ สามารถใช้งานได้ยาว ๆ ต้องยกให้กลุ่มนี้เลยครับ ด้วยการออกแบบเพื่อกันกระแทกโดยเฉพาะ มีการใช้วัสดุที่แข็งแรงทนทาน เสริมความหนาให้มุมทั้ง 4 มุม ช่วยป้องกันการกระแทกบริเวณมุมเครื่องได้อย่างดี เหมาะกับใครที่อยากได้เคสอึด ถึก ทน ใช้งานได้อย่างมั่นใจ หนักแค่ไหนก็เอาอยู่

             


 

 

“เน้นพับตั้ง องศาไหนก็เอาอยู่”

               หากจะพูดถึงเคสที่สาวก iPad ให้ความนิยมมากที่สุด คงจะหนีไม่พ้นเคสแนวพับตั้ง ซึ่งเคสส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับฝาพับ ที่สามารถใช้เป็นขาตั้งให้กับเครื่อง iPad ได้ ไม่ว่าจะตั้งในแนวตั้ง แนวนอน หรือแบบปรับระดับได้ ทาง 425° ได้คัดแบรนด์เด่น ๆ มาให้ชมกันทั้งหมด 3 รุ่น

               ZUGU CASE The Alpha ด้วยการออกแบบฝาพับให้สามารถปรับระดับได้ถึง 8 ระดับ ทำให้ ZUGU เป็นเคสยอดนิยมและเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้ใช้ iPad เพราะไม่ว่าจะใช้งานแบบไหนก็เลือกปรับองศาได้ตามต้องการ จะนั่งประชุมงานหรือนอนดูซีรีส์ก็สามารถหามุมที่ดีที่สุดในการใช้งานได้ เพิ่มเติมความพิเศษด้วยฐานล็อกขาตั้งแบบแม่เหล็ก ช่วยให้ล็อกได้แน่นหนา ป้องกันขาตั้งหลุดระหว่างใช้งาน แถมยังใช้ติดกับตู้เย็นในขณะทำอาหาร เพื่อทางเลือกในการใช้งานให้มากขึ้น ฟังก์ชั่นครบขนาดนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ ZUGU จะขึ้นแท่นเป็นเคสยอดฮิตของผู้ใช้ iPad

 

               MOFT Float 2in1 Stand and Case หนึ่งในเคสฝาพับที่คนพูดถึงมากที่สุด เพราะนอกจากจะป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีแล้ว ยังสามารถใช้เป็นขาตั้งให้กับ iPad ได้อีกด้วย ซึ่งจุดเด่นที่สำคัญของรุ่นนี้คือการปรับรูปแบบการใช้งานได้ถึง 3 แบบ ไม่ว่าจะเป็นแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวนอนแบบยกสูง ต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ที่ไม่สามารถยกจอให้สูงขึ้นได้ เพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะใช้งานร่วมกับ Keyboard แบบพกพา ใช้งานในแนวนอนเพื่อวาดภาพ หรือจะอ่านบทความในแนวตั้ง ซึ่งฟีเจอร์ที่สามารถยก iPad ให้สูงขึ้นได้ สามารถตอบโจทย์การใช้งาน iPad ร่วมกับคีย์บอร์ดได้อย่างลงตัว เหมาะกับใครที่มองหาเคส iPad ดี ๆ ที่พร้อมรับมือการทำงานและการใช้งานที่หลากหลายไปพร้อมกัน

 

               Tomtoc Tablet Case หากใครที่อยากกำลังมองหาเคสที่เหมาะกับการใช้งานในแนวตั้ง “Tomtoc Table Case” สามารถตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยการออกแบบฝาพับที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น เพื่อให้ได้องศาการใช้งานที่เหมาะกับการผู้ใช้มากที่สุด สำหรับการพับในแนวนอนถือว่าใช้งานได้หลากหลายพอสมควร ด้วยลูกเล่นของฝาพับที่ใช้วัสดุที่มีความหนืด ทำให้สามารถวางตัวเครื่องที่ตำแหน่งใดก็ได้ เพิ่มการปรับระดับของหน้าจอได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะใช้ดูหนัง เล่น Tiktok หรือ Instagram ก็สะดวกสบายมาก ๆ

 


 

 

“เคสใสโชว์ตัวเครื่อง”

               เอาใจคนที่อยากใส่เคสให้กับ iPad เครื่องโปรด แต่ก็อยากจะโชว์สีเครื่องไปด้วย 425° ขอแนะนำเป็นกลุ่มเคสใส ที่นอกจากจะช่วยกันรอยขีดข่วนได้แล้ว ยังคงความสวยงามของตัวเครื่องไว้เป็นอย่างดี ด้วยสารเคลือบ Scratch Resistant ที่ช่วยชะลอการเกิดรอย ทำให้ใสได้ยาวนาน เพิ่มความพรีเมี่ยมให้กับ iPad Air 5 ได้อย่างลงตัว โดยรุ่นที่ 425° นำมาแนะนำนั่นก็คือ 

               RingkeFusion Case สุดยอดเคสใสราคาประหยัด เหมาะกับผู้ใช้งานที่ชอบเคสราคาสบายกระเป๋า ตัวเคสโดดเด่นด้วยดีไซน์ด้านหลังแบบตัว X ที่มาพร้อมกับความใสระดับ HD นอกจากความใสแบบรอบด้านแล้ว ยังมีมาตรฐานการกันกระแทกระดับ Military Standard ปกป้องตัวเครื่องได้อย่างมั่นใจ ได้ทั้งการปกป้องและโชว์ความสวยไปพร้อม ๆ กัน

               ESRProject Zero Soft Shell Back อีกหนึ่งเคสใสดีไซน์บางเบาจากแบรนด์ ESR ที่ออกแบบให้มีน้ำหนักเบา ถือใช้งานได้คล่องตัว และวัสดุที่ทำจากยาง TPU ให้สัมผัสที่นุ่มมือ ด้านหลังของเคสเป็นแบบด้าน (Matte Clear) สำหรับกันรอยขึดข่วนให้กับตัวเครื่อง และโชว์สีของตัวเครื่องได้ในตัว

               SpigenUltra Hybrid Pro เป็นเคสใสสไตล์ฝาพับที่โดดเด่นในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นฝาพับที่ช่วยปกป้องตัวเครื่องได้ 360 องศา และการกันกระแทกระดับ MIL-STD ด้วยดีไซน์แบบหุ้มตัวเครื่องรอบด้านทั้งส่วนบน และส่วนล่าง รวมถึงมีขอบหน้าจอที่สูงและหนา สามารถช่วยป้องกันการกระแทกได้ดี อีกทั้งยังมีการเสริมบริเวณมุมทั้ง 4 มุม พร้อมเทคโนโลยี AirCushion ช่วยดูดซับกระจายแรงกระแทกเมื่อตกหล่น เเละปกป้องตัวเครื่องในกรณีเครื่องตกบริเวณมุมได้เป็นอย่างดี

 


 

 

“สะดวกสบาย ด้วยเคสไร้ฝาพับ”

               สำหรับใครที่อยากได้การใช้งานที่เน้นสะดวกรวดเร็ว จับถือถนัดมือ ขอแนะนำเป็นกลุ่มเคสแบบไม่มีฝาพับ เหมาะกับคนที่มักจะถือใช้งานอยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องคอยเปิดฝา ปิดฝา ให้รำคาญใจ หรือสายเกมเมอร์ที่ใช้ iPad ในการเล่นเกมก็จับถือได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งเคสแบบไม่มีฝาพับนั้นมีให้เลือกหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น 

               Ringke Fusion Case คสดีไซน์แบบบางที่มีความพรีเมี่ยม เรียบหรู แถมยังจับถือได้สบายมือ ทำให้ตัวเครื่องดูไม่ใหญ่ขึ้นเมื่อสวมใส่เคสขณะถือใช้งาน รวมถึงส่วนโค้งเว้าที่รับกับขอบมุมได้อย่างสวยงาม ที่สำคัญรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับช่องใส่ปากกา Apple Pencil ที่ให้ช่องมายาวกว่าปกติ เพื่อให้สามารถเลือกได้ว่าจะแปะตัวปากกาชาร์จกับตัว iPad ไว้ตลอดเวลา หรือจะเลือกเก็บในแบบที่ไม่ต้องชาร์จก็ได้เช่นกัน

               i-Blason Ares Clear เคสใสดีไซน์สวย ออกเเบบมาให้มีความบาง มีส่วนโค้งเว้ารับกับขอบตัวเครื่อง โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับแผ่นหลังแบบใส ตัดกับโครงเคสพลาสติกเเข็งด้านหน้า ปกป้องตัวเครื่องได้เเบบ 360 องศา มีมาตรฐานกันกระแทกที่ไว้ใจได้ และถึงแม้ตัวเคสจะมีหลายชั้น แต่ทางแบรนด์ดีไซน์มาในขนาดที่ไม่หนามาก ทำให้เวลาถือจับถนัดมือ ไม่รู้สึกว่าตัวเครื่องหนาจนเกินไป

               XunDD Beetle Holder ตัวเคสจะมีเฉพาะด้านหลัง เหมาะสำหรับการใช้งานที่ไม่ต้องการฝาพับด้านหน้า แต่ยังมีขาตั้งบริเวณด้านหลังติดมาให้ โดยตัวเคสมีความบาง เบา ใช้งานได้สะดวก ไม่มีฝาพับด้านหน้าจอเหมาะสำหรับถือใช้งาน หรือการเล่นเกม แต่ยังใช้ขาตั้งสำหรับดูหนังหรือซีรีส์ได้ โดยสามารถตั้งใช้งานได้ถึง 2 ระดับคือ ระดับตั้ง 65 องศา เเละระดับแนวนอน 30 องศา นอกจากนี้มีการทำช่องอากาศภายในตัวเคส เสริมบริเวณมุมทั้ง 4 มุม เพื่อช่วยลดแรงกระแทกเมื่อตกหล่น และขอบด้านข้างสามารถติด Apple Pencil 2 ได้ รองรับ Wireless Charge ไปในตัว

               หากใครที่กังวลเรื่องรอยขีดข่วนบริเวณหน้าจอ สามารถหาฟิล์มกระจกนิรภัยมาติดเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจในการใช้งาน

 


 

 

“เน้นแกร่ง ไม่งอง่าย”

               หนึ่งในสิ่งที่คนใช้ iPad มักกังวลกันนั่นคือปัญหาเครื่องงอ ที่เกิดจากการนั่งทับ นอนทับ หรือใส่กระเป๋าแล้วเผลอนั่งพิง เพื่อเป็นการป้องกัน เคสกันงอจึงเป็นตัวช่วยที่หลาย ๆ คนให้ความสำคัญ 

               ZUGU CASE The Alpha ที่ใช้วัสดุแผ่นหลังที่มีความแข็งกว่าเคสทั่วไป ช่วยคงรูปทรงให้กับตัวเครื่องไว้อย่างดี ซึ่งการกันงอของ ZUGU เป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหากับ iPad ซึ่ง ZUGU ถือว่าป้องกันได้ดีกว่าเคสทั่ว ๆ ไปแต่ก็ไม่สามารถป้องกันได้ 100% หากมีการกดทับอย่างรุนแรง

               STM DUX Plus Case หลายคนยกให้เป็นเคสกันงอ iPad รุ่นที่ดีที่สุด ด้วยวัสดุด้านหลังที่เป็นพลาสติกเเข็งเเบบใสเห็นด้านหลังตัวเครื่องสวยงาม อีกทั้งฝาพับก็มีการใช้วัสดุคุณภาพดี ด้านในก็มีการบุโครงพลาสติกแข็งเอาไว้ ทำให้เวลาใช้งานฝาพับจะไม่เกิดอาการย้วย ช่วยเสริมความแข็งแรงได้เป็นอย่างดี

               Monocozzi Lucid Folio Protection รุ่นนี้เหมาะกับคนที่ชอบเคสสัมผัสบาง ๆ ที่โชว์หลังเครื่องได้ในตัว เพราะรุ่นนี้เป็นแบบ Ultra Slim ใส่กับเครื่องแล้วไม่เพิ่มความมากเกินไป พร้อมพลาสติกแข็งด้านหลังที่ทั้งแข็งแรง และมองเห็นสีเครื่องด้านในได้อย่างคมชัด

               Moshi Versa Cover หากจะพูดถึงแบรนด์ที่มีความประณีต และพิถีพิถันในการเลือกวัสดุคงต้องยกให้กับแบรนด์ Moshi ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู ออกแบบให้มีความ Minimal ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งตัวเคสมาในรูปแบบเคสฝาพับที่มีความหนา 2 ชั้น ช่วยลดโอกาสที่เครื่อง iPad จะงอได้มาก บอกเลยว่าได้ทั้งการป้องกันและความงดงามของการออกแบบไปในตัว

 


 

 

“น้ำหนักเบา พกพาสะดวก”

               โดยปกติแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่มักพกพา iPad แทน Laptop ในการออกไปทำงานนอกบ้าน ดังนั้นการเลือกเคสให้มีน้ำหนักเบา จะช่วยให้การถือใช้งานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเคสที่ 425° แนะนำคือ

               Spigen Ultra Hybrid Pro เคสเป็นแบบฝาพับ ดีไซน์ด้านหลังแบบใส สามารถโชว์สีของตัวเครื่องได้อย่างสวยงาม ผลิตด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพจากแบรนด์ Spigen ให้ความพรีเมี่ยม สวยงามขณะถือใช้งาน อีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบา ทำให้สามารถพกพาไปใช้งานได้ทุกที่ 

               Mutural Clear Folio เคสสุดคุ้มจากแบรนด์ที่หลายคนชื่นชอบ มาพร้อมดีไซน์ที่เน้นความบางเบาสวมใส่ใช้งานแล้วไม่เทอะทะ ตัวเคสปรับดีไซน์ให้มีความบางลงทั้งส่วนของแผ่นพลาสติกใสด้านหลังและส่วนขอบ ช่วยให้คงความสวยงามของตัวเครื่อง iPad ไว้แบบเต็ม ๆ

               ESRProject Zero Soft Shell Back ที่นอกจากจะมีน้ำหนักเบาแล้ว ยังมีการออกแบบที่เรียบง่าย สามารถเข้าได้กับทุกสไตล์การแต่งตัว ถือเป็นเคสอีกหนึ่งกลุ่มที่เหมาะกับการพกไปทำงานมาก ๆ บอกเลยว่าใครที่กำลังหาเคสใสที่มีคุณภาพ ราคาประหยัดพร้อมโชว์สีสันด้านหลังอยู่ตลอดเวลา ต้องรุ่นนี้เลย

 


 

 

“เคสใช้งานร่วมกับ Keyboard”

               มาถึงฟีเจอร์ที่สาวก iPad ให้ความสนใจกันมาก นั่นคือเคสที่สามารถใช้งานร่วมกับ Magic Keyboard และ Smart Keyboard Folio ได้ โดยตัวเคสจะมีความบาง ออกแบบมาให้แปะติดกับ Keyboard โดยเฉพาะ ใครที่เป็นเจ้าของ Magic Keyboard อยู่ แล้วอยากได้เคสไปใช้งาน ทีมงานขอแนะนำ 

               Pitaka MagEZ Case เคส ipad ระดับพรีเมี่ยม วัสดุจาก Aramid Fiber 100% มีความแข็งกว่าเคสทั่วไป แต่ให้ความบางได้มากกว่า ออกแบบมาให้รองรับการใช้งานกับ Apple Magic Keyboard หรือ Smart Keyboard Folio โดยเฉพาะ มีเทคโนโลยี Smart Connector ทำให้ใช้งานได้ 100%

               Switcheasy Cover Buddy ที่ถือว่าตอบโจทย์ในเรื่องนี้ ด้วยดีไซน์แบบ Ultra-Thin บางเบา ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ Smart Keyboard Folio และ Magic Keyboard โดยเฉพาะ มีเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ Power Pass through ทำให้ใช้งานกับ Smart Keyboard Folio และ Magic Keyboard ได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกฟังก์ชั่น

 

               สำหรับใครที่มองหาเคสให้กับ iPad Air 5 แนะนำว่าให้เลือกเคสให้เหมาะสมกับการใช้งาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้เดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งเคสที่ 425° นำมาให้ชมกันนี้ จะช่วยให้สามารถตัดสินใจเลือกซื้อเคสที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ได้อย่างแน่นอน