Jabra 9 รุ่น เลือกตัวไหนดี?

Jabra 9 รุ่น เลือกตัวไหนดี?
21 ธันวาคม 2023 771 ผู้เข้าชม
Jabra 9 รุ่น เลือกตัวไหนดี?

Jabra 9 รุ่น!! เลือกรุ่นไหนดี?

  • Jabra Elite มีตั้ง 9 รุ่นเลยเหรอ !? แล้วแต่ละรุ่นต่างกันยังไง? รุ่นไหนเหมาะกับใคร?  อย่าว่าแต่เพื่อนๆเลยครับ ทางทีมงาน 425Audio เองก็ยังสงสัย รุ่นมันเยอะเหลือเกิ๊นนนนนนนนน 9 รุ่นซอยยิบซอยย่อยเต็มไปหมด เอาล่ะ….ไม่ต้องสงสัยกันอีกต่อ!! วันนี้ทีมงาน 425Audio จะมามอบคำตอบให้เองครับ เดี๋ยวทีมงานจะทำให้สั้นที่สุดเข้าใจง่ายที่สุด เพื่อนๆจะได้เลือกซื้อกันง่ายขึ้น เอาล่ะ…ไปเริ่มกันนเลย!!
  • เรื่องโทนเสียง “ฟังสนุกเบสแน่น เสียงร้องหวานฉ่ำ” ต้องบอกว่าทาง Jabra จูนเสียงมาได้ค่อนข้างใกล้เคียงกันหมดแทบทุกรุ่นครับ จะเป็นสไตล์ที่ค่อนข้างชัดเจนเน้นฟังสนุก เบสแน่นๆ แรงปะทะสะใจ เป็นเบสที่เก็บตัวค่อนข้างไว เสียงร้องที่หวานเจี๊ยบ โดดเด่น ฟังชัด ฟังเนียนได้ทั้งนักร้องชายและหญิงเลยครับ แถมยังสามารถปรับ EQ ได้ใน App Jabra Sound+ ทุกรุ่นครับ จะมีเพียงบางรุ่นเท่านั้นที่โทนเสียงจะแตกต่างอย่างชัด แล้วมีรุ่นไหนบ้างล่ะที่โทนเสียงแตกต่าง? ทีมงาน 425Audio จะอธิบายเพิ่มเติมในเนื้อหาของรุ่นนั้นๆให้ได้อ่านกันครับ…..
  • 3 จุดเด่นหลักๆของหูฟัง Jabra ถ้าพูดถึงหูฟัง TWS ของ Jabra แล้วก็จุดเด่นที่เป็นตัวชูโรงหลักๆด้วยกันก็จะมี 
  • “การสวมใส่ที่สบาย” จากการสแกนหูของคนมามากกว่า 62,000 หู ทำให้รูปทรงของหูฟัง Jabra นั้นเหมาะกับแทบทุกสรีระหูเลยล่ะครับ ดังนั้นเจ้า Jabra Elite ทุกรุ่นนั้นจะมีรูปทรงที่เหมือนกัน(ยกเว้น Elite 10 )ตั้งแต่รุ่นถูกสุดยันรุ่นเกือบจะแพงสุดนั่นเองครับ เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าต่อให้เพื่อนๆจะซื้อหูฟังรุ่นเริ่มต้นราคาเบาๆก็ยังสวมใส่สบายได้ไม่แพ้รุ่นที่แพงกว่านั่นเองครับ
  • “คุยโทรศัพท์เสียงพูดชัดแจ๋วเป็นธรรมชาติ” เป็นหูฟัง In-ear แบบไม่มีก้านที่ไมค์ดีที่สุดก็ว่าได้ครับ เรื่องการจับเสียงพูดเป็นธรรมชาติ เสียงพูดใกล้เคียงกับการคุยแบบแนบหูโทรศัพท์ ทาง Jabra เขาเชี่ยวชาญจริงๆครับ แม้ในรุ่นเล็กอย่าง Jabra Elite 2 ที่มีไมค์ 2 ตัวก็ยังทำได้ดี ยิ่งรุ่นสูงๆที่มีไมค์ 6 ตัวยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยล่ะครับ ของเขาดีจริง
  • “เก่งรอบด้านเน้นใช้งานในชีวิตประจำวัน” เป็นจุดเด่นที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยมจริงๆครับ ถ้าจะให้ทีมงานบอกว่าหูฟัง Jabra Elite โดดเด่นหรือเก่งด้านไหนแล้วล่ะก็ ก็ต้องตอบว่า “เก่งรอบด้าน” เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ฟังเพลงตอนไป-กลับทำงาน ดูหนัง ดู Youtube เน้นใส่สบายใส่ยาวๆได้เวลานั่งทำงานก็ใส่หูฟังไปด้วยตลอดวัน ไมค์คุยโทรศัพท์ที่ดี จะใช้คุยประชุมงานต่างๆหรือจะใช้เมาท์มอยกะเพื่อนๆก็แจ่ม ANC และ HearThrough ที่ใช้งานได้จริง มี Multipoint Pairing เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกันเหมาะกับเหล่าพนักงานออฟฟิศที่ต้องพกอุปกรณ์ทำงานเยอะๆ หรือจะเน้นออกกำลังกายก็มีรุ่น Active ให้เลือกใช้กันได้อีก ฟีเจอร์ก็ครบ รุ่นก็เยอะขนาดนี้ จะบอกว่าไม่เก่งรอบด้านก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วล่ะครับ
  • อ้อ!!! เกือบลืมอีกจุดนึงที่หลายๆคนชอบรวมถึงทีมงาน 425Audio ก็ชอบเช่นกันครับ คือเรื่องปุ่มกดสั่งการแบบดั้งเดิม ใช้การกดสั่งการไม่ใช่ระบบสัมผัส ทำให้การสั่งการไม่มีลั่นแน่นอน รวมถึงความแม่นยำก็แม่นยำสุดๆไม่ต้องกลัวว่าจะกดช้าไปหรือไวไปนั่นเองครับ

Jabra Elite 2 

  • รุ่นเริ่มต้นที่เน้นใช้งานง่ายๆ ฟีเจอร์ไม่ต้องเยอะ เน้นใส่ฟังเพลง ดูหนัง คุยโทรศัพท์ทั้วๆไป แน่นอนต่อให้เป็นรุ่นเริ่มต้นก็ยังได้รูปทรงเดียวกับรุ่นสูงๆอยู่ ทำให้การสวมใส่สุดสบายใส่ยาวๆได้ทั้งวัน สำหรับใครที่อยากเริ่มใช้หูฟัง Jabra ก็เป็นตัวเลือกที่ดี หรือใครที่หาหูฟังราคาไม่แพงแต่คุณภาพแน่นๆ ฟังเพลงดี ใส่สบาย ใช้คุยโทรศัพท์ได้ดี ก็ตอบโจทย์ได้เช่นกันครับ
  • จุดเด่น
  1. ราคา
  2. ใส่สบาย ไมค์คุยโทรศัพท์โอเค ฟังเพลงสนุกเบสแน่น
  3. ใช้งานง่ายฟีเจอร์ไม่เยอะ บางคนอาจจะไม่ต้องการฟีเจอร์อะไรเยอะแยะ
  • ข้อพิจารณา
  1. ไมค์ 2 ตัว น้อยที่สุดในตระกูล Jabra Elite
  2. ไม่มีฟีเจอร์ใดๆให้ใช้งาน

Jabra Elite 3 

  • ขยับสเปคขึ้นมาจาก Elite 2 ไม่ว่าจะเป็น HearThrough Mode โหมดเปิดรับฟังเสียงรอบข้าง เอาไว้เปิดใช้ตอนเดินตามริมถนนหรือตามซอยต่างๆเพื่อการได้ยินเสียงรถที่วิ่งผ่าน หรือเอาไว้ใช้ในออฟฟิศเวลามีคนเรียกเราจะได้ได้ยินเสียงเรียกนั่นเอง รวมถึงไมค์ที่เพิ่มขึ้นเป็น 4 ตัว ทำให้การคุยโทรศัพท์ของเราดีขึ้น เสียงพูดมีน้ำมีนวลมีความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นครับ
  • จุดเด่น
  1. ฟังเพลงสนุกเบสแน่น
  2. คุยโทรศัพท์ดีขึ้นจาก Elite 2 พอสมควร
  3. มี HearThrough ให้ใช้งาน
  4. มีสีให้เลือกเยอะ
  • ข้อพิจารณา
  1. ไม่มี ANC ให้ใช้งาน
  2. ออกมานานแล้วเทียบกับ Elite 4 แล้วฟีเจอร์น้อยกว่าชัดเจนในราคาที่ห่างกันไม่มาก

Jabra Elite 4 Active 

  • หูฟังเน้นออกกำลังกายรุ่นเริ่มต้น มีการเคลือบ ShakeGrip เพื่อให้กันเหงื่อได้ดีขึ้น ช่วยให้การสวมใส่กระชับมากขึ้นเมื่อเจอกับเหงื่อหรือการขยับตัวที่มากขึ้นจากการออกกำลังกาย รวมถึงมี ANC โหมดตัดเสียงรบกวนที่เพิ่มขึ้นมาให้ใช้งานอีกด้วยครับ
  • จุดเด่น
  1. ฟีเจอร์ค่อนข้างครบทั้ง ANC และ HearThrough Mode
  2. ShakeGrip ช่วยให้กันเหงื่อดีขึ้น ใส่ได้แน่นหนายิ่งขึ้น
  3. คุยโทรศัพท์เสียงพูดชัดเป็นธรรมชาติ
  • ข้อพิจารณา
  1. ANC ตัดเสียงรบกวนสู้รุ่นอื่นใน Jabra ยังไม่ได้

Jabra Elite 4

  • สุดจะคุ้มแล้วล่ะครับสำหรับ Jabra Elite 4 เป็นรุ่นกลางที่ให้ฟีเจอร์มาครบเกิ๊นนนน ครบจนงงว่าให้มาขนาดนี้ Jabra เขาจะไม่ขายรุ่นแพงกว่านี้เหรอ? ไมค์ 4 ตัวคุยโทรศัพท์เสียงพูดชัดแจ๋ว มี ANC และ HearThrough Mode มี Multipoint เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน ถ้าใครที่กำลังมองหาหูฟังที่ฟีเจอร์ครบๆ ใช้งานได้รอบด้าน ราคากลางๆจับต้องง่าย พลาด Jabra Elite 4 ไม่ได้จริงๆแล้วล่ะครับ 
  • จุดเด่น
  1. ฟังเพลงสนุกเบสแน่น
  2. ไมค์ 4 ตัวคุยโทรศัพท์ชัด
  3. คุ้มสุดในเรทราคานี้ ฟีเจอร์ครบจบในตัวเดียวในราคาจับต้องง่าย
  4. มีสีให้เลือกเยอะ
  • ข้อพิจารณา
  1. เพิ่มงบอีกนิด รอโปรอีกหน่อย ขยับไปรุ่นสูงกว่านี้ได้ จะได้ไมค์เพิ่มเป็น 6 ตัวและ ANC ที่เงียบขึ้น

Jabra Elite 5 

  • ฟีเจอร์ครบ คุณภาพแน่น ท้าชนรุ่น Top ได้สบายๆสำหรับ Jabra Elite 5 ไม่ว่าจะเป็นไมค์ 6 ตัวจับเสียงพูดได้ดีสุดๆ เสียงเป็นธรรมชาติมากๆครับ ANC และ HearThrough Mode คุณภาพเยี่ยม ตัดเสียงรบกวนไม่แพ้รุ่น Top เลยล่ะครับ Multipoint Pairing เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์ก็มีมาให้ได้ใช้งาน รวมถึงโทนเสียงที่มีความนุ่มนวลกว่ารุ่นอื่นๆ มีความบาลานซ์ รายละเอียดดนตรีชัดขึ้น
  • จุดเด่น
  1. โทนเสียงบาลานซ์ฟังสบายรายละเอียดดนตรีชัด
  2. ไมค์ 6 ตัวคุยโทรศัพท์ดีมาก เสียงพูดเป็นธรรมชาติ ชนตัว Top ไหว
  3. ฟีเจอร์ครบ สเปคจัดเต็ม รอโปรได้ราคาดีๆคุ้มมากๆ
  • จุดพิจารณา
  1. เบสน้อยที่สุดในตระกูล Jabra Elite(เพิ่มได้ใน App Jabra Sound+

Jabra Elite 7 Active 

  • รุ่นกลางสำหรับหูฟังเน้นออกกำลังกาย ที่เพิ่มฟีเจอร์และสเปคที่แจ๋วขึ้นจาก Elite 4 Active ไม่ว่าจำนวนไมค์ที่เพิ่มขึ้นเป็น 6 ตัว มี Multipoint Pairing เชื่อมได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์ ANC ที่เงียบขึ้น HearThrough ที่มีความเป็นชาติมากๆครับ และยังรองรับ Wireless Charge การชาร์จแบบไร้สายอีกด้วยครับ ด้านโทนเสียงจะมีความนุ่มนวลยิ่งขึ้น รายละเอียดของเครื่องดนตรีต่างๆมีความชัดขึ้น ฟังสบายขึ้นกว่ารุ่น Elite 4 Active ครับ
  • จุดเด่น
  1. โทนเสียงนุ่มนวลแต่ยังฟังสนุก รายละเอียดดนตรีชัดขึ้น ฟังสบาย
  2. ฟีเจอร์และสเปคจัดเต็ม 
  3. ไมค์ 6 ตัวคุยโทรศัพท์เยี่ยม
  4. ANC และ HearThrough คุณภาพเยี่ยม
  5. เคลือบ ShakeGrip กันเหงื่อและสวมใส่ได้แน่นหนาขึ้น
  • ข้อพิจารณา
  1. ราคาที่ค่อนข้างสูง (แนะนำให้รอโปร)

Jabra Elite 7 Pro 

  • อดีตรุ่น Top (เช่นเดียวกับ Elite 7 Active) ที่หากถามว่ายังน่าสนใจอยู่ไหม ก็ต้องตอบว่าน่าสนใจครับ เพราะด้านฟีเจอร์และสเปคยังคงโหดอยู่ ไม่ว่าจะเป็นไมค์ 6 ตัวคุยโทรศัพท์แจ่ม ANC ที่ตัดเสียงรบกวนได้ดี HearThrough Mode ที่มีความเป็นธรรมชาติ Multipoint Pairing เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์ รองรับ Wireless Charge และเช่นเดียวกับ Elite 7 Active ครับที่โทนเสียงจะมีความสุขุมนุ่มลึกมากขึ้น รายละเอียดดนตรีชัดขึ้น ฟังสบายสุดๆ
  • จุดเด่น
  1. โทนเสียงนุ่มนวลแต่ยังฟังสนุก รายละเอียดดนตรีชัด ฟังสบาย
  2. ANC และ HearThrough Mode คุณภาพเยี่ยม
  3. ไมค์ 6 ตัวคุยโทรศัพท์เยี่ยม
  4. ฟีเจอร์และสเปคจัดเต็ม
  • ข้อพิจารณา
  1. ราคาค่อนข้างสูง (แนะนำให้รอโปร)
  2. เป็นรุ่นที่ออกมานานแล้ว ตอนนี้มีรุ่น Top ตัวใหม่ออกมาแทนคือ Jabra Elite 10

Jabra Elite 8 Active 

  • หูฟังเน้นออกกำลังกายตัว Top รุ่นล่าสุดจากทาง Jabra ที่มากับประโยคที่ว่า “หูฟังที่แข็งแกร่งที่สุด” ไม่ว่าจะกันตกหรือกันน้ำได้ถึง 30 นาที ใช้วัสดุเกรดกองทัพ สเปคและฟีเจอร์ก็จัดเต็มสุดๆ ไมค์ 6 ตัว ANC และ HearThrough Mode มี Multipoint เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์ และใครที่ชอบเบสเยอะๆแล้วล่ะก็ Jabra Elite 8 Active มีเบสที่หนักและลูกหนาที่สุดในตระกูล Jabra Elite ตอนนี้เลยล่ะครับ รวมถึงรองรับ Spatial Sound by Dolby Atmos อีกด้วยครับ
  • จุดเด่น
  1. อึด ถึก ทน ที่สุดในหูฟัง Jabra (หรือทั้งโลก?)
  2. เคลือบ ShakeGrip กันเหงื่อและสวมใส่ได้แน่นหนายิ่งขึ้น
  3. เบสหนักสะใจที่สุดในตระกูล Jabra Elite 
  4. ไมค์ 6 ตัวคุยโทรศัพท์เยี่ยม
  5. ฟีเจอร์และสเปคแน่นสะใจ
  6. รองรับ Spatial Sound by Dolby Atmos
  • ข้อพิจารณา
  1. ราคาที่สูง

Jabra Elite 10 

  • ปรับดีไซน์ใหม่ใส่สบายยิ่งกว่าเดิม จุกหูฟังก็เป็นแบบเฉียงทำให้การสวมใส่สบายหูขึ้นไปอีก ไมค์ 6 ตัวที่จับเสียงพูดได้ดีมาก คุยโทรศัพท์ดีที่สุดในตระกูล Jabra Elite แล้วล่ะครับ ANC ก็ตัดเสียงรบกวนได้เงียบที่สุดของ Jabra อีกเช่นกัน HearThrough Mode คุณภาพเยี่ยมมีความใกล้เคียงกับเสียงจริงมากๆครับ โทนเสียงมีความโปร่งใสฟังสบาย รายละเอียดนตรีชัด เบสนุ่มกำลังดี Multipoint Pairing เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์ได้พร้อมกันก็มีมาให้ครับ และ 2 ตัว Top ใหม่ทั้ง Jabra Elite 8 Active กับ Elite 10 ก็รองรับ Spatial Sound by Dolby Atmos อีกด้วยครับ
  • จุดเด่น
  1. ดีไซน์ใหม่สวมใส่สบายยิ่งกว่าเดิม
  2. โทนเสียงมีความโปร่งฟังสบาย รายละเอียดดนตรีชัด
  3. ANC ตัดเสียงรบกวนได้เงียบที่สุดในตระกูล Jabra Elite 
  4. ฟีเจอร์และสเปคจัดเต็มแบบสุดๆ
  5. คุยโทรศัพท์โหดที่สุดใน Jabra Elite
  6. รองรับ Spatial Sound by Dolby Atmos
  • ข้อพิจารณา
  1. ราคาที่สูง

สรุปให้อีกทีละกันเผื่อใครตาลาย

  • Jabra Elite ก็ยังคงเป็นหูฟัง TWS ทรง In-ear ที่ “เก่งรอบด้าน” ฟีเจอร์ครบเน้นใช้งานในชีวิตประจำวัน ใส่สบาย ไมค์ชัด ฟังเพลงสนุก มี ANC HearThrough Mode มี Multipoint Pairing เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์ อาจจะไม่โดดเด่นสุดโต่งไปด้านใดด้านหนึ่ง แต่สามารถทำได้ทุกอย่างในคุณภาพที่ยอดเยี่ยม มีรุ่นยิบย่อยให้เลือกทุกเรนจ์ราคา สามารถตอบโจทย์ของทุกคนได้นั่นเองครับ 
  • จากบทความด้านบนนี้เพื่อนๆอาจะรู้สึกว่า “เฮ้ยยยยย!! ทำไมมันเยอะจัง ยาวเกิ๊นนนนนไม่อ่านละ” แล้วก็เลื่อนลงมาข้างล่างเลย ทีมงาน 425Audio ก็ได้ทำการดักท่านไว้ตรงนี้สำหรับคนไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆตามันลาย ทีมงานจะสรุปสั้นๆว่ารุ่นไหนคุ้มสุด รุ่นไหนตอบโจทย์ยังไงเหมาะกับใครแบบคัดมาให้บางรุ่นนั่นเองครับ
  • “งบน้อย เน้นใช้งานทั่วไปไม่ต้องการฟีเจอร์อะไรมาก” ไป Jabra Elite 2 ครับ ใส่สบาย คุยโทรศัพท์ได้ ฟังเพลงสนุกเบสแน่นสะใจในราคาเบาๆ(ยิ่งมีโปรยิ่งถูกลงไปอีก…)
  • “งบกลางอยากได้ตัวคุ้มฟีเจอร์แบบครบๆ” ไป Jabra Elite 4 ฟีเจอร์แน่นเกิ๊นนนนน คุ้มจริงครับ ไมค์ 4 ตัว มี ANC และ HearThrough Mode แถมยังมี Multipoint Pairing เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์ได้พร้อมกัน ฟังเพลงก็มันสะใจตามสไตล์ Jabra 
  • “เพิ่มอีกงบอีกนิดหน่อยจาก Elite 4 ได้ไมค์เพิ่มเป็น 6 ตัว!!” ถ้าเน้นคุยโทรศัพท์ด้วย แนะนำเพิ่มงบอีกนิสสสสสสส มาที่ Jabra Elite 5 เลยครับ ฟีเจอร์เหมือนกับ Elite 4 แต่เพิ่มไมค์มาให้เป็น 6 ตัว รวมถึง ANC ที่ตัดเสียงได้เงียบขึ้น และยังมีโทนเสียงที่นุ่มนวล บาลานซ์ รายละเอียดดนตรีชัด ฟังสบายกว่ารุ่นอื่นๆในตระกูล Jabra Elite ครับ
  • “ออกกำลังกายรุ่นเริ่มต้น” ไป Jabra Elite 4 Active ฟีเจอร์มีมาให้ครบๆทั้ง ANC กับ HearThrogh Mode ไมค์ 4 ตัวคุยโทรศัพท์ชัด เคลือบ ShakeGrip เพื่อการป้องกันเหงื่อได้ดียิ่งขึ้น ทำให้การสวมใส่มีความแน่นหนามากขึ้นเมื่อเจอกับเหงื่อและการขยับตัวมากๆขณะออกกำลังกาย 
  • “ออกกำลังกายแบบตัว Top” ต้องไปที่ Jabra Elite 8 Active เลยครับ กับสมยานาม “หูฟังที่แข็งแกร่งที่สุด” กันตกกระแทก กันการจมน้ำได้ 30 นาที เชื่อมต่อกับ Smart Watch ได้โดยตรง เคลือบ ShakeGrip เพื่อการกันเหงื่อได้ดียิ่งขึ้น ไมค์ 6 ตัวคุยโทรศัพท์แบบสุดโหด ANC และ HearThrough Mode คุณภาพเยี่ยม แถมรุ่นนี้ยังมีเบสที่หนักที่สุดในตระกูล Jabra Elite อีกด้วยครับ ใครงบถึงต้องมาตัวนี้เลย
  • “ต้องสุดในรุ่น ต้องระดับตัวแม่ตัวมัมเท่านั้น!!” Jabra Elite 10 เลยครับ กับการดีไซน์หูฟังใหม่ให้ใส่สบายกว่าที่เคยมีมา ANC ที่เงียบที่สุดของ Jabra HearThrough Mode ที่มีความเป็นธรรมชาติมากๆใกล้เคียงกับเสียงจริงสุดๆ ไมค์ 6 ตัวที่คุยโทรศัพท์ได้โหดที่สุดของแบรนด์แล้วตอนนี้ โทนเสียงที่ออกไปทางเน้นฟังสบาย รายละเอียดดนตรีคมชัดทุกเครื่อง แถมยังรองรับ Spatial Sound by Dolby Atmos อีกด้วยครับ ไม่รู้จะสุดไปไหนแล้วล่ะครับสำหรับ Jabra Elite 10