2 มิถุนายน 2022 646 ผู้เข้าชม
คอนเซ็ปต์ที่ต่างกันแบบสุดขั้ว !!
"ขั้วตรงข้ามที่เจ๋งกันคนละแบบ"
- ถือว่าเป็นการออกแบบและวางคอนเซ็ปต์ที่เจ๋งมากๆทั้งคู่เลยครับ สำหรับหูฟังทั้ง 2 รุ่นนี้จาก Sony ครับ อย่าง WF1000XM4 (หลังจากนี้จะขอเรียกย่อๆว่า XM4 ) ที่โดดเด่นสุดๆกับ ANC การซีลกันเสียงภายนอก การสวมใส่ พลังเสียง ที่มุ่งเน้นให้ผู้ใช้ได้สัมผัสการฟังเพลง ดูหนัง แบบเต็มสูบไม่ถูกรบกวนจากโลกภายนอก ในขณะที่ WF L900 LinkBuds (ขอเรียกย่อๆว่า LinkBuds นะครับ) ถูกออกแบบให้มีรูเพื่อฟังเสียงรอบข้างจากเสียงธรรมชาติจริงๆ เพื่อที่เราสามารถฟังเพลง ฟังประชุม สนทนาต่างๆพร้อมกับได้ยินเสียงรอบข้างจริงๆไปด้วยในขณะใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป ไม่ว่าจะเดินไปข้างนอก ทำกับข้าว หรือทำกิจวัตรทั่วๆไปขณะใส่หูฟังโดยยังได้ยินเสียงภายนอกชัดเจนโดยที่ไม่ต้องมาถอดหูฟังบ่อยๆหรือกดหยุดเพลง
ถ้าจะพูดด้วยประโยคสั้นๆของทั้ง 2 รุ่นก็คงจะเป็น XM4 “ตัดโลกภายนอก..เพื่อดื่มด่ำในโลกส่วนตัวอย่างแท้จริง” ส่วน LinkBudsจะเป็น “เชื่อมโลกภายนอกและโลกส่วนตัวเข้าด้วยกัน” เป็นอะไรที่ตรงข้ามกันจริงๆครับ
เอาล่ะครับเกริ่นกันมาพอสมควรแล้ว หลังจากนี้ทีมงาน 425Audio จะมาบอกจุดเด่น จุดด้อย จุดที่ชอบไม่ชอบของแต่ละรุ่นให้ได้อ่านกัน รวมถึงรุ่นไหนที่เหมาะกับใคร เอาล่ะ!!...ไปกันเล้ยยยย!!
จุดชูโรงของทั้ง 2 คืออะไร ?
- ไปกันที่เจ้า Sony XM4 กันก่อน กับ ANC ที่ตัดเสียงรบกวนได้ “ดีที่สุด” ณ ตอนนี้ ANC ที่ตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้เงียบกริบ เนียบกริ๊บ เหมือนวาร์ปได้ยังไงยังงั้นเลยล่ะครับ ด้าน Ambient Mode ก็ไม่น้อยหน้า เสียงที่ดูดมาให้เราได้ยินก็เป็นธรรมชาติ ใกล้เคียงเสียงจริงเลยครับ
คุณภาพเสียงที่เจ๋งสุดๆสมกับเป็น Sony จูนเสียงมาได้ยอดเยี่ยม ฟังรอดทุกแนว ไม่ว่าจะฟัง Pop เบาๆ Jazz สุดอภิรมย์ ยันไปถึงชาว Rock กระเดื่องคู่สุดบ้าคลั่ง ก็สามารถไฟได้สนุกมากๆ รายละเอียดดนตรีเยี่ยม เวทีเสียงกว้าง จะเพลงที่อัดจากเครื่องดนตรีจริงๆ เสียงน้ำหนักต่างๆก็ครบ หรือจะเครื่องดนตรี Electronic เน้นจังหวะ เบสตึ๊บๆ ก็ฟังสนุกสะใจ
เจ้า XM4 เป็นหูฟังที่ตัวผู้เขียนใช้งานบ่อยที่สุดเพราะว่าเป็นหูฟังที่ให้รายละเอียดดนตรีครบและฟังได้รอดทุกแนวนั่นเองครับ - ตามมาด้วย LinkBuds กับคอนเซ็ปต์หูฟัง “เชื่อมโลกภายนอกกับโลกส่วนตัวเข้าด้วยกัน” ทำให้การออกแบบหูฟังให้มี “ รู ” เป็นอะไรที่บ้าคลั่งจริงๆครับสำหรับดีไซน์สุดล้ำตรงจุดนี้ ทำให้เราได้ยินเสียงรอบข้างจาก “เสียงจริง” ไม่ต้องพึ่ง Ambient Mode ใดๆทั้งสิ้น ทำให้เราได้ยินเสียงรอบข้างชัดเจน เวลามีคนเรียก หรือจะคุยกับใครก็ไม่จำเป็นจะต้องถอดหูฟังออกครับ สะดวกสบายมากๆ
ความสบายในการสวมใส่ที่สบายสุดๆ เหมือนกับว่าไม่ได้ใส่หูฟังอยู่ จุดนี้ก็ต้องชมว่าทำได้เยี่ยมมากครับ ใส่สบายมากๆจริงๆ บางครั้งทีมงานใส่เจ้า LinkBuds ไว้ก็ลืมว่าใส่หูฟังอยู่เหมือนกันครับ เพราะรูปทรงที่ไม่เหมือนหูฟังอื่นๆและน้ำหนักที่เบามากๆ การสวมใส่เจ้า LinkBuds ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ในการใส่หูฟังจริงๆครับ
ไมค์ที่ยอดเยี่ยม!! ตามปกติเราจะรู้ๆกันอยู่ว่าเรื่องไมค์เป็นจุดอ่อนของ Sony มาแทบตลอด แต่ไม่ใช่กับ LinkBuds ครับ ถือว่าไมค์เป็นจุดชูโรงของหูฟังตัวนี้เลยล่ะครับ จับเสียงพูดดีมากๆ เสียงพูดเป็นธรรมชาติ แถมยังตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีสุดๆ เหมาะสำหรับใช้คุยโทรศัพท์ในสถานที่ที่ไม่ค่อยอำนวยอย่างริมถนน ป้ายรถเมล์ บนรถสาธารณะ ในคาเฟ่ที่เปิดเพลงดังๆหรือคนเยอะๆ บอกเลยว่าเอาอยู่จริงๆครับ
ใช้งานจริงแล้วเป็นอย่างไรบ้างนะ
เริ่มที่ Sony WF1000XM4
-
จุดที่ชอบ
- โทนเสียงที่ฟังยังไงก็แจ่ม แน่นอนครับ “คุณภาพเสียง” ที่จัดเต็มแบบสะใจไม่ว่าจะใช้ฟังเพลงหรือดูหนัง คือมันเต็มอิ่มมากๆ ใช้ฟังเพลงแนวไหนก็ดีไปหมดจริงๆครับ ยอมเรื่องการจูนเสียงของ Sony จริงๆครับ เป็นการจูนโทนเสียงที่สีสันจัดจ้าน ชุ่มฉ่ำทุกย่าน และพอดิบพอดีไปเสียหมดจริงๆครับ จะฟัง Pop ใสๆ ยันโคตร Rock ว๊าคกระจายก็ฟังเพลินได้หมดจริงๆครับ
- ANC ที่เงียบเหมือนวาร์ป ขึ้นชื่อว่าเป็นหูฟังที่มี ANC ที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ ตัดเสียงรบกวนรอบข้างแบบโหดจริงๆ อันนี้ยอมเลยครับ เปิด ANC ปุ๊ปเหมือนวาร์ปได้ ตัดเสียงรอบข้างได้เว่อวังอลังการของจริง เวลาไปนั่งร้านกาแฟแล้วเสียงร้านดันดัง คนเยอะ หรือคาเฟ่เปิดเพลงดัง เปิด ANC ปุ๊ป !! เสียงรอบข้างหายไปปั๊ป นั่งฟังเพลงโปรดของเราพร้อมจิบกาแฟเพลินๆได้ต่อ สุดฟินจริงๆครับ สำหรับ ANC ของ XM4
- การสวมใส่ที่แน่นหนา ไม่มีความรู้สึกว่าจะหลุด ถือว่าออกแบบมาให้หูฟังสามารถสวมใส่ได้กระชับและแน่นหนามากๆครับ พอใส่แล้วไม่รู้สึกเลยว่าหูฟังจะหลุดออกมาได้ จุดนี้ก็เป็นจุดที่ชอบอีก 1 จุด ที่ Sony ทำมาได้ดี และด้วยการดีไซน์หูฟังออกมาแบบนี้ด้วยจึงทำให้ ANC ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากๆครับ
-
จุดที่ไม่ชอบ
- กลายเป็นว่าการสวมใส่ก็ดันเป็นจุดที่ไม่ชอบด้วยซะงั้น !! ใช่ครับเรื่องความแน่นหนาและซีลเสียงคือจุดที่ชอบ แต่ในข้อดีข้อนั้นกลับมีข้อเสียคือ “น้ำหนักหูฟังและการใส่นานๆ” ด้วยน้ำหนักหูฟังที่ค่อนข้างหนักและใหญ่พอสมควร เมื่อสวมใส่ไปนานๆ ระดับ 1 ชั่วโมง - 2 ชั่วโมง จะเริ่มรู้สึกตึงๆ หน่วงๆที่หูแล้วล่ะครับ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปทรงของช่องหูแต่ละคนด้วยครับ) และบางครั้งเหลี่ยมมุมของหูฟังก็มีไปชนช่องหูเราทำให้ใส่นานเกินอาการเจ็บได้เหมือนกันครับ หากใส่ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ถือว่าชิลๆครับ หากจะใส่นานกว่านั้น แนะนำว่าถอดออกมาพักบ้างซักนิดจะช่วยได้มากครับ
- ไมค์คุยโทรศัพท์ที่ไม่น่าประทับใจนัก เป็นมาอย่างยาวนานกับไมค์ของ Sony ที่คุณภาพค่อนข้างไม่น่าประทับใจ คุยในที่ที่เสียงรบกวนไม่ดังมากทำได้พอใช้ได้ครับ แต่หากเป็นสถานที่ที่เสียงรบกวนดังๆ คือคุยแทบไม่รู้เรื่องเลยครับ หากเพื่อนๆมีความจำเป็นจะต้องใช้ไมค์ในการคุยโทรศัพท์จริงๆจังๆ จุดเสียจุดนี้ของ XM4 ถือว่าเป็นจุดที่ต้องเก็บเอาไปคิดครับ
ต่อที่ Sony WF L900 LinkBuds
-
จุดที่ชอบ
- ใส่สบายเหมือนไม่ได้ใส่หูฟังอยู่ ด้วยการออกแบบสุดล้ำอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทำให้การสวมใส่หูฟัง LinkBuds ใส่ได้สบายมากๆๆ เหมือนไม่ได้ใส่จริงๆครับ น้ำหนักก็เบาสุดๆ และไม่มีตัวหูฟังเข้าไปจิ้มอยู่ในรูหูเรา ทำให้เราไม่รู้สึกเจ็บหรือหน่วงที่หูเวลาใส่นานๆครับ มีหลายครั้งที่ทีมงานใส่เจ้า LinkBuds แล้วลืมว่าใส่อยู่ ใส่เดินออกไปเข้าห้องน้ำ อยู่ดีๆเพลงก็ดับ ถึงกับสะดุ้งเลยครับ “อ้อ เราใส่หูฟังอยู่นี่หว่า”
- ไมค์ที่ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ ว่าในที่สุด Sony ก็สามารถทำให้ไมค์คุยโทรศัพท์ในหูฟังของตัวเองยอดเยี่ยมได้ ไม่ใช่แค่ในระดับดีนะครับ ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมเลยครับ ทั้งเสียงพูดที่ฟังเป็นธรรมชาติมากๆ จับน้ำหนักเสียงได้ดี และยังตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีมากๆด้วยครับ ทีมงานลองเอาคุยที่ริมถนนที่มีรถวิ่งผ่านเยอะๆ ตัดเสียงรบกวนต่างๆได้เนียน แทบเงียบสนิทเลยครับ ต่อให้มีเสียงรบกวนขึ้นมา พอเราเริ่มพูดไมค์จะจับเสียงพูดและดันเสียงพูดเราไปด้านหน้า ฟังได้ชัดเจนมากๆครับ เสียงรบกวนถึงถอยไปเป็น Noise ด้านหลังทันที ถือว่ายอมเรื่องไมค์ของเจ้า LinkBuds จริงๆครับ น่าประทับใจมากๆ
ปล.ช่วยนำเทคโนโลยีไมค์แจ๋วๆแบบนี้ไปใส่ให้รุ่นอื่นๆในอนาคตทีคร้าบบบบบบบบบบบบบบ - ดีไซน์สุดล้ำ Open-ring หูฟังมีรู !!! เห็นครั้งแรกถึงกับงงว่า เอางี้จริงดิ? แต่ก็กลายเป็นจุดที่น่าประทับใจอีกจุดครับ ไม่ต้องมาเปิดโหมด Ambient ใดๆทั้งสิ้น ฟังเสียงกันผ่านรูนี่แหละ!! ธรรมชาติจริง!! เพราะฟังจากเสียงจริง !!
เมื่อเราได้ยินเสียงรอบข้างจากเสียงจริงแบบนี้ตลอดเวลา ทำให้เราไม่พลาดเสียงสำคัญๆต่างๆ ไม่ว่าจะเสียงคนที่บ้าน พ่อ แม่ ลูก หมา แมว หรือจะรถกับข้าว รถไอติมอะไรก็แล้วแต่ นั่ง WFH อยู่ ทำงานอยู่บ้านนั่งคุยงานอยู่ในโปรแกรมไปด้วย ก็จะได้ไม่พลาดเสียงรอบตัวไปด้วย
หรือจะใช้ที่ออฟฟิศก็ดีไม่หยอกครับ เรานั่งเปิดเพลงคลอๆไป เปิดรายการที่เราชอบดู ฟังคนพูดไปด้วยทำงานไปด้วย เผื่อมีเพื่อนร่วมงานเม้าท์มอยอยู่รอบข้างเราจะได้ไม่พลาดการเม้าท์มอยสุดมัน หรือหากมีคนเรียกให้เราทำงานหรือต้องการใช้งานด่วนก็จะได้ไม่พลาดบทสนทนาสำคัญๆด้วยครับ
เป็นการดีไซน์สุดล้ำที่ใช้ได้จริง มีประสิทธิภาพสุดๆจริงๆครับ เพราะตัวทีมงานเองก็ใช้ใส่ประชุม คุยงาน ประชุมกับเพื่อนร่วมงานไว้ในโปรแกรม แล้วก็เปิดเพลงคลอเบาๆจากลำโพง แถมยังได้ยินเสียงคนรอบข้างเวลามีคนเรียกด้วยครับ แจ่มจริงครับ - อันสุดท้ายสั้นๆ ฟีเจอร์สั่งการด้วยการแตะที่บริเวณกระดูกข้างๆหู สุดเท่จริงๆครับ ใช้ในที่สาธารณะแรกๆแอบมีเขินบ้างเล็กน้อย แต่เป็นฟีเจอร์ที่ดีและใช้งานง่าย เพิ่มความสะดวกสบายให้ชีวิตเรามากๆครับ ไม่ต้องเอามือไปแตะที่หูฟังให้เผลอลั่นสั่งการโดยไม่ต้องการ และยังเหมาะกับคนที่ผมยาวปิดใบหูครับ ไม่ต้องมาแหวกผมเข้าไปกดหูฟังให้ยุ่งยาก แค่แตะเบาๆที่บริเวณกระดูกข้างๆหูก็เพียงพอครับ ใช้งานได้จริงและเท่สุดๆไปเลย!!
-
จุดที่ไม่ชอบ
- พลังเสียงที่ถูกลดทอนจากดีไซน์หูฟัง ใช่ครับเมื่อดีไซน์ล้ำๆ หูฟังมีรูเพื่อจะได้ยินเสียงรอบข้างแบบนี้ ทำให้พลังเสียง ทั้งความดังและคุณภาพเสียง ถูกลดลงอย่างเห็นได้ชัดจริงๆครับ โอเคครับ หากฟังในบ้าน ในห้อง ในสถานที่ที่เสียงรบกวนไม่ได้ดังมาก ถือว่าเป็นหูฟังที่เสียงดีระดับนึงเลยครับ ความดังโอเคเพียงพอต่อการฟัง แต่เมื่อไหร่ก็ตามเราไปเจอกับเสียงรบกวนระดับริมถนนที่รถวิ่งตลอด รถเมล์ร้อน รถเมล์แอร์ที่คนเยอะๆ ศูนย์อาหารที่คนเยอะๆ เสียงเพลงแทบจะถูกกลบจนหมดเลยล่ะครับ แต่ยังได้ยินอยู่บ้าง แต่รายละเอียดเครื่องดนตรีต่างๆแทบจะหายไปหมด ได้ยินแค่เสียงร้องกับกลองเลยล่ะครับ
- การสวมใส่ที่ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน ด้วยรูปทรงสุดล้ำ(อีกแล้วเหรอออออออ) ทำให้การสวมใส่เป็นปัญหาเหมือนกันครับ คือบางคนก็ใส่ได้สบายๆ เปลี่ยนตัว Earfin(ยางที่เกี่ยวหูที่ให้มาในกล่อง) ไปตามไซส์ต่างๆให้มันเกี่ยวหูของเราไว้ตามไซส์ช่องหูของเรา เลือกเอาตามความชอบ ตามช่องหูอะไรก็ว่าไป
“แต่…!!” ก็มีช่องหูของใครอีกหลายคนที่ทำยังไงก็ใส่ไม่ได้ครับ ไม่ว่าลองเปลี่ยน Earfin เป็นไซส์ไหนก็ตาม หรือบางคนใส่ได้ แต่มันหลวมมากๆก็มีครับ ซึ่งจุดนี้ก็ต้องเป็นจุดที่ Sony ต้องนำไปปรับปรุงในรุ่นต่อข้างหน้าครับ ว่าจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร
**เรื่องการสวมใส่ที่พอดีกับหู ขึ้นอยู่กับช่องหูของแต่ละคนด้วยครับ
ใครเหมาะกับรุ่นไหน ?
- เริ่มที่ถามตัวเองว่า “เราชอบอะไร เราต้องการอะไร?” ระหว่าง “ตัดโลกภายนอกเพื่อดื่มด่ำโลกส่วนตัวแบบสุดกราฟ” หรือ “เชื่อมโลกภายนอกกับโลกส่วนตัวเข้าด้วยกัน” อาจจะยังไม่เห็นภาพ ทีมงานจะช่วยตอบไปทีละอย่างให้ครับ
-
มีความจำเป็นใรการฟังเสียงรอบข้างแค่ไหน?
ต้องการฟังเสียงภายนอกมากขนาดนั้นมั๊ย? ไม่ชอบหูฟัง In-Ear ที่มันใส่ไม่สบายหรือเงียบเกินไปรึเปล่า? หรือว่าโอเคกับการใช้ Ambient Mode ก็เพียงพอ
หากต้องการฟังเสียงรอบข้างแบบจริงๆจังๆ ไม่อยากพลาดเสียงรอบข้างเลย ต้องฟังเสียง หมา แมว เสียงคนที่บ้าน หรือกังวลเวลานั่งทำงานแล้วใส่หูฟัง กลัวคนจะมาเรียกแล้วไม่ได้ยิน ไม่ชอบการใส่หูฟังทรง In-Ear แล้วรู้สึกมันเงียบเกินไป LinkBuds จะตอบโจทย์ครับ
หรือไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยินเสียงรอบข้างขนาดนั้น ไม่ชอบเวลาได้ยินเสียงภายนอกเวลาทำงานหรือฟังเพลง อยากได้ยินเสียงรอบข้างบางเวลาที่จำเป็นเท่านั้น ใช้งาน Ambient Mode ก็เพียงพอ XM4 น่าจะเป็นคำตอบครับ -
มีความจำเป็นหรือชอบใช้ ANC โหมดตัดเสียงรบกวนรอบข้างไหม?
ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้ ANC ต้องการความเงียบตอนโฟกัสเวลาทำงาน ฟังเพลง ดูหนัง ไม่อยากได้ยินเสียงรอบข้างเวลานั่งรถสาธารณะหรือนั่งคาเฟ่ต่างๆ อยากจะดื่มด่ำโลกส่วนตัวให้ได้แบบขั้นสุด ฝั่ง XM4 จะให้ ANC ที่สุดแสนประทับใจให้เพื่อนๆได้แน่นอนครับ
ไม่ต้องการใช้ ANC หรือไม่จำเป็นขนาดนั้น ไม่ชอบเวลาไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง รู้สึกไม่ปลอดภัยหรือรู้สึกแปลกๆเวลาใช้ ANC ต้องการได้ยินเสียงรอบข้างตลอดเวลาที่สวมใส่หูฟัง LinkBuds จะเป็นคำตอบครับ -
ซีเรียสกับคุณภาพเสียงแค่ไหนกันล่ะ?
อยากฟังเพลงแบบจัดเต็มทุกย่านเสียง ฟังรายละเอียดดนตรีแบบชัดๆ ดูหนังแบบสะใจ ยังไงก็ต้องเป็น XM4 นั่นแหละครับที่จะให้จุดนี้กับเพื่อนๆได้แบบเต็มสูบ คุณภาพจัดเต็มทั้งการฟังเพลงที่ยอดเยี่ยม รวมถึงเสียงตอนดูหนังต่างๆก็จัดเต็มมากๆครับ
หรือไม่ได้แคร์คุณภาพเสียงขนาดนั้น ขอแค่มีเสียงเพลงออกมาก็พอ ฟังเพลงขอได้ยินเสียงเพลงได้ยินเสียงร้อง หรือแค่ใส่เอาไว้เปิดรายการโปรดนั่งฟังคนพูดไปเรื่อยๆตอนทำงานเฉยๆไม่ให้เหงา ถ้าเป็นเช่นนั้น LinkBuds น่าจะเหมาะสำหรับเพื่อนๆครับ
-
ต้องการไมค์ที่ดี ต้องใช้ประชุม ใช้ทำงาน ใช้คุยโทรศัพท์บ่อยรึเปล่า ?
เป็นจุดสำคัญจุดนึงเลยล่ะครับที่จะเป็นตัวช่วยเลือกระหว่าง 2 รุ่นนี้แบบชัดๆเลยครับ
ไม่ได้เน้นใช้ไมค์ ไม่ได้ต้องการใช้คุยโทรศัพท์ขนาดนั้น ใช้งานหูฟังเพื่อฟังเพลงอย่างเดียว หรือใช้คุยแค่ทั่วๆไป ไม่ได้มีเหตุให้ใช้หูฟังคุยโทรศัพท์บ่อยๆ ถนัดใช้การคุยผ่านมือถือตรงๆมากกว่า XM4 ก็เพียงพอต่อการใช้งานครับ
มีความจำเป็นในการใช้ไมค์ที่ดีในการคุยโทรศัพท์ ใช้คุยโทรศัพท์บ่อยๆ ในหลากหลายสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน คาเฟ่ต่างๆ ในที่สาธารณะต่างๆ ไม่ว่าจะคุยงานหรือคุยทั่วไปก็ตาม ถ้าต้องใช้คุยโทรศัพท์บ่อยๆขนาดนี้ ไป LinkBuds เลยครับ -
ต้องการใส่ได้ทั้งวันไม่ปวดหู
เบาหวิว ขนาดกระทัดรัดสุดๆ ใส่สบายเหมือนไม่ได้ใส่หูฟังอยู่ ใส่ได้ทั้งวันบางทีก็ทำให้ลืมไปเลยว่าใส่หูฟังไว้ในหู LinkBuds ทำข้อนี้ได้แบบยอดเยี่ยมจริงๆครับ
ด้าน XM4 ใส่สบายน้อยกว่าจริง พอเริ่มใส่ไปได้ซัก 1ชม.ครึ่ง-2 ชม.++ จะรู้สึกตึงๆ หน่วงๆที่หูบ้างแล้วครับ ด้วยลักษณะของหูฟัง น้ำหนัก และรูปทรงต่างๆ แต่แน่นอนครับ ก็แลกมากับคุณภาพเสียงและANCที่ยอดเยี่ยมสุดๆเช่นกัน
-
หากยังเลือกไม่ถูก เราก็มาช่วยเลือกให้อีกซักรอบ เอาแบบสั้นๆไปเล๊ย!!!!
- ถ้าจากด้านบนที่กล่าวไป มันย๊าววววววววววววยาววววววววววเกินไปสำหรับเพื่อนๆแล้วล่ะก็ โอเคครับ ทีมงานจะมาทำสรุปให้สั้นที่สุดเท่าที่ทำได้ ให้เพื่อนได้ตัดสินใจง่ายยิ่งขึ้นไปอีกครับ
-
XM4 เหมาะกับ
- คนที่ต้องการใช้ ANC ในชีวิตประจำวัน ต้องการความเงียบ ตัดเสียงรอบข้างแบบวาร์ปได้ ฟังเสียงรอบข้างผ่าน Ambient Mode ก็เพียงพอแล้ว
ต้องการคุณภาพเสียงในการฟังเพลงแบบเต็มอิ่มทุกย่าน อยากฟังรายละเอียดดนตรีต่างๆ รวมถึงคุณภาพเสียงในการดูหนังด้วย - ความแน่นหนามั่นคงในการใส่ ชอบใส่หูฟังที่เมื่อใส่แล้วรู้สึกกระชับ แน่นหนา ซีลเสียงดี ใส่เดิน ใส่ขึ้นบันไดลงบันไดไม่มีลื่นหลุด ไม่ต้องมาขยับหูฟังบ่อยๆ
- ไม่ได้ต้องการไมค์ในการคุยโทรศัพท์มากนัก ไม่ได้ใช้คุยโทรศัพท์บ่อย หรือหากใช้ก็ใช้ในสถานที่ที่เสียงรบกวนไม่ดังเป็นส่วนใหญ่
-
LinkBuds เหมาะกับ
- ชอบฟังเสียงรอบข้าง ต้องการได้ยินเสียงรอบตัวอยู่เสมอ อยากได้ไมค์ที่คุณภาพดี ใส่สบายต้องการจะใส่ยาวๆไว้ทั้งวัน
- ต้องการฟังเสียงรอบข้างตลอดเวลาเมื่อใส่หูฟัง เพื่อจะได้ยินเสียงคนที่บ้าน เสียงสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงไว้ เสียงคนเรียกเวลานั่งทำงานอยู่ ต้องการได้ยินเสียงรอบข้างเวลาเดินอยู่ตามตรอกซอกซอยต่างๆ ไม่ชอบหูฟัง In-Ear ที่ทำให้รู้สึกเงียบเกินไป
- มีความจำเป็นในการใช้งานไมค์เพื่อคุยโทรศัพท์ ไม่ว่าจะใช้คุยทั่วไปหรือใช้คุยงาน สามารถคุยโทรศัพท์ได้ทุกสถานที่ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน ที่ทำงาน คาเฟ่ต่างๆ ตามที่สาธารณะที่มีเสียงรบกวน เสียงพูดของเราก็ยังฟังชัดรู้เรื่อง ตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดี
- ต้องการหูฟังที่ใส่สบายเหมือนไม่ได้ใส่ สามารถใส่ได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกเจ็บหูและไม่ล้าหู จะใส่เอาไว้เฉยๆแล้วนั่งทำงานทั้งวัน ใส่ฟังเพลง ใส่ฟังรายการโปรดต่างๆ ใส่ทิ้งไว้จนหูฟังแบตหมดก็แทบจะไม่รู้สึกอะไร
**การสวมใส่ขึ้นอยู่กับช่องหูของแต่ละคนด้วย** - เอาล่ะครับ ทีมงานพยามสรุปมาให้สั้นนนนนนนนนที่สุด เท่าที่ทีมงานจะทำได้แล้วล่ะครับ ถ้ายังตัดสินใจเลือกไม่ได้ ลองอ่านคำถามและคำตอบด้านบนที่ทีมงานเขียนเอาไว้อีกซักรอบ 2 รอบ ถ้ามันมีคำถามไหนหรือคำตอบไหนมันสะกิดใจเรา ก็ลองคัดข้อที่โดนใจจุดที่เราชอบแล้วก็ข้อที่ไม่ชอบมานั่งพิจราณาอีกซักรอบดูครับ น่าจะช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้นอีกนิสสสสสส
หรือท้ายสุดแล้วยังไง๊ยังไงก็เลือกไม่ได้…..ก็จัดมันทั้ง 2 รุ่นไปเลยครับ
ทิ้งท้ายก่อนจากกัน
- สำหรับทีมงานแล้ว หูฟังทั้ง 2 รุ่น ถูกวางโจทย์มาให้ตอบสนองความต้องการและตอบสนองการใช้งานที่ต่างกันแบบสุดขั้วจริงๆครับ และทาง Sony ก็ได้ทำการตอบโจทย์และตอบสนองการใช้งานของทั้ง 2 รุ่นได้แบบสุดโต่งจริงๆ “อยากฟังเพลงแบบจัดเต็มใช่ไหม ? ไม่อยากได้ยินเสียงรอบข้างมากวนใช่ไหม ? ได้จัดไป !! ” ตู้มมมม!! ได้ XM4 ขึ้นมา “อยากได้ยินเสียงรอบข้างแบบชัดๆใช่ไหม? อยากใส่สบายๆใช่ไหม? อยากได้ไมค์แจ๋วๆตัดเสียงรบกวนดีๆ? ได้จัดไป!!” ออกมาเป็น LinkBuds คุณต้องการอะไรเราจัดให้คุณแบบจุกๆ ไปกันให้สุดทาง พวกคุณไปเลือกกันเอาเอง
ทีมงานชอบทั้ง 2 รุ่นเลยล่ะครับ เป็นหูฟังที่เยี่ยมทั้งคู่ ทั้งฟังก์ชั่น ทั้งคุณภาพต่างๆ ต้องบอกว่าทำได้สุดสมชื่อ Sony จริงๆ ชูจุดเด่นได้แบบสุดขั้วมากๆ และเชื่อว่าในอนาคตทาง Sony ก็คงจะพัฒนาทั้ง 2 รุ่น ให้ไปสุดยิ่งกว่านี้ดีขึ้นยิ่งกว่านี้อีกครับ
ถ้าจะให้ทีมงานเลือกจริงๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ยากมากครับ ตัวนึงก็คุณภาพเสียงสะใจ ANC เงียบกริบ ส่วนอีกตัวนึงก็ฟังเสียงรอบข้างแบบธรรมชาติสุดๆ ไมค์เทพ ใส่สบายมากๆ ชอบทั้งคู่เลยครับ ทีมงานอยากจะเก็บเธอเอาไว้ทั้งสองคน….ครับ