Azio Retro Classic Mechanical Keyboard Kailh Blue Switch EN Keycap

Highlight

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสินค้า

อยากรู้อะไรเกี่ยวกับ Azio Retro Classic Mechanical Keyboard EN Keycap | 425° มีคำตอบ

• แบรนด์ : Azio 
• รุ่น : Retro Classic Mechanical
• Layout : US Eng คีย์แคปภาษา ENG
• วัสดุ : Aluminun Alloy + วัสดุจริงในแต่ละลวดลาย ที่มีทั้ง Nappa Leather, Wood ( Elwood / Maple )
• Mechanical Switch : Azio Typelit Mechanical Switch ( By Kailh )
• Switch Type : Blue Switch Clicky สองจังหวะ 
• สี : Artisan ( ลวดลายหนังไฟสีขาว )
• ระบบที่รองรับการใช้งาน : Windows 11 / macOS 11
• ขนาด : 45.55 cm x 14.7 cm x 4 cm
• น้ำหนัก : 1.47 kg

วัสดุและดีไซน์

• Azio Retro Classicคีย์บอร์ด Mechanical ดีไซน์สุดพรี่เมี่ยม ให้ความโมเดิร์นและวินเทจเหนือการเวลาที่สวยงามไปในเวลาเดียวกัน 
• คีย์บอร์ดแบบ Full Size 104 ปุ่ม มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน รวมถึงปุ่ม Numpad 
• มุมขวาบนมีดวงไฟแสดงสถานะ Numlock, Caps Lock, Scroll Lock, Windows Locks ไว้อย่างชัดเจน 
• บริเวณด้านขวาของตัวคีย์บอร์ดมีดีไซน์ตัว Plate อลูมิเนียม สลักโลโก้รุ่น Azio Retro Classic ไว้อย่างหรูหรา ชัดเจน
• การออกแบบของตัวคีย์บอร์ดมีความเป็นเอกลักษณ์ สื่อถึงความประณีต และความใส่ใจในการเลือกใช้วัสดุในการผลิต ทำให้งานงานประกอบมีความเรียบร้อย ไร้ที่ติ
• คีย์บอร์ดมาพร้อมปุ่ม Function Key ( ปุ่ม F1-F12 ) มาให้ใช้งานอย่างครบครัน และมีการเลเซอร์รูปหน้าที่การใช้งานตัวปุ่มนั้นๆไว้อย่างชัดเจน***สามารถศึกษาฟังก์ชันใช้งานเพิ่มเติมได้ในคู่มือการใช้งานในกล่องครับ
• วัสดุหลักตัวคีย์บอร์ดเป็น Aluminum Alloy เกรดคุณภาพดี ผสานกับวัสดุที่มีเฉพาะในแต่ละลวดลาย ใช้วัสดุคุณภาพดี เช่น หนังแท้ หรือไม้ ( Elwood, Maple ) 
• ตัวฐานมี Pillar-Style Feet ขาตั้งที่หมุนบริเวณตัว Feet เพื่อปรับความสูงต่ำได้ ทำให้องศาการวางข้อมือเมื่อใช้งานนั้นดียิ่งขึ้น ไม่แบนราบจนเกินไป และออกแบบได้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ ถอดเข้าออกได้ง่าย 
• สำหรับ Azio Retro Classic เลือกใช้สวิตช์ของแบรนด์ Kailh และใช้ชื่อว่า Azio Typelit Mechanical Switch แบบ Blue Switch Clicky สองจังหวะ ช่วยให้สัมผัสปลายนิ้วเมื่อกดใช้งานที่แน่น เด้งสู้มือ และพิมพ์ทำงานได้สนุกมากยิ่งขึ้น
• ตัว Keycap ดีไซน์ Typewriter รูปทรงวงกลมสไตล์เครื่องพิมพ์ดีดย้อนยุคสุดวินเทจ ที่มีระยะห่างตัวปุ่ม (Travel Distance) ที่พอดี ไม่ห่างไม่ชิดจนเกินไป และบริเวณผิวตัว Keycaps ถูกดีไซน์ให้เว้ารับเข้ากับปลายนิ้วมือได้อย่างลงตัว และผิวสัมผัสให้ความพรีเมี่ยมอีกด้วย
• ไฟ Backlight 3 ระดับ LED สีขาวในรุ่น Maple, Artisan, Elwood ที่ดวงไฟถูกวางให้อยู่ตรงกลางของฐานปุ่มและออกมาได้อย่างประณีต แสงไฟจึงสว่างชัดเจนทั่วตัวปุ่ม ทำให้ผู้ใช้งานมองเห็นตัวอักษรที่คมชัด และใช้งานในที่แสงน้อยได้อย่างสะดวกสบาย
• สลับ Layout ระบบการใช้งานด้วยสวิตช์ด้านหลังของตัวคีย์บอร์ดได้อย่างง่ายดาย หากต้องการใช้งานระบบใดก็ให้เลื่อนสวิตช์ไปยังตำแหน่งของระบบนั้นๆ รวมถึงการสลับ Layout Mac or PC เช่นเดียวกัน สามารถสลับได้ง่ายๆโดยการเลื่อนสวิตช์ไปยังตำแหน่งนั้นๆ
• ตัวปุ่ม Mac Layout จะติดตั้งมากับตัวคีย์บอร์ด ทำให้ผู้ใช้งานที่คุ้นชินกับ Layout Mac ใช้งาน Command, Option และปุ่ม Multi-Media คีย์ฟังก์ชันได้เหมือน macOS ทั่วไป แต่ในกล่องจะมีปุ่ม Layout เฉพาะของระบบ Windows มาให้อีกด้วยครับ
• การเชื่อมต่อใช้งานแบบ Dual ได้ทั้งแบบเสียบสาย USB-Type-C และ Bluetooth 2.0 หรือใหม่กว่า รองรับระบบปฏิบัติการทั้งระบบ MacOs/iOS , Windows OS 
• สามารถเชื่อมต่อการใช้งานพร้อมกันและสลับการใช้งานได้สูงสุดถึง 3 อุปกรณ์
• ตัวคีย์บอร์ดมาพร้อมคู่มือการใช้งานที่ละเอียดและเข้าใจง่าย ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น
• สามารถชาร์จไฟตัวคีย์บอร์ดผ่าน Port USB-C ตรงกลางด้านหลังตัวคีย์บอร์ด ด้วยสาย Cable USB-A to USB-C ที่ทางแบรนด์ให้มา ใช้เวลาประมาณ 6 ชม. ตัวอย่างจากการชาร์จไฟที่เหลือต่ำกว่า 20% จนเต็ม 100% ครับผม
• ***ตัวคีย์บอร์ดไม่รองรับการ Hot-Swappable Switch 
• ***ระยะเวลาในการชาร์จไฟจนเต็มของตัวคีย์บอร์ดจะเต็มช้าหรือเร็วจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับกำลังไฟของ Adapter นั้นๆครับผม
• ***ในคู่มือการใช้งานเบื้องต้นจะบอกปุ่มคีย์ลัดในแต่ละ Layout ไว้อย่างครบครัน ใช้งานง่ายครับ

Gallery รูปสินค้า

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• Azio Retro Classic Keyboard x 1
• PC Layout Additional Keycaps Set x 1
• USB-A to USB-C Cable x 1
• User Guide x 1
• Warranty Card x 1
• Microfiber Cleaning Cloth x 1

ข้อมูลเชิงเทคนิค

• Model : MK-RC-W-XX / MK-RC-L-XX
• Interface : Dual Bluetooth & USB
• Mechanical Switch : Azio Typelit Mechanical Switch ( By Kailh ), Tactile & Clicky
• Number of Keys : 104 
• N-Key Rollover : 6 Keys Rollover
• Backlight : White Backlight
• Battery : 5,000 mAh Li-ion Rechargeable battery
• Cable : USB Type-A to USB Type-C 
• Rechargeable : Yes ( USB Type-C Port )
• OS Support : macOS, Windows

การเชื่อมต่อใช้งานเบื้องต้น

• เลื่อนสวิตช์ด้านหลังตัวคีย์บอร์ดไปที่โหมด BT เปิดหน้าต่างการเชื่อมต่อ Bluetooth บน Device ของคุณ
• กดปุ่ม  Fn + ปุ่มเลข 1 ค้างไว้ จากนั้นปุ่มสัญลักษณ์ Bluetooth บริเวณทางขวาจะกระพริบ
• จากนั้นกดปุ่ม Fn + ปุ่ม Bluetooth ที่กระพริบ ค้างไว้ 2-3 วินาที 
• บนหน้าต่าง Device จะขึ้นชื่อ Azio Retro Classic BT ให้กด Pair ( เชื่อมต่อ ) 
• สำหรับ Mac ให้ไปที่ System Preferences > Keyboard > Set Up Bluetooth Keyboard
• สำหรับ Windows ให้ไปที่ Bluetooth Setting > Add Bluetooth or Other Device 
• เมื่อตัวคีย์บอร์ดเชื่อมต่อเสร็จเรียบร้อยแล้วไฟที่กระพริบจะดับลงทันทีครับ
• ส่วนการเพิ่มอุปกรณ์ให้ทำย้อนกลับไปตั้งแต่เริ่มเช่นเดียวกันกับอุปกรณ์ 1 แต่จะเปลี่ยนเป็นกด FN + 2 / 3 เพื่อจดจำ Device ครับผม 
• จากนั้นเมื่อต้องการสลับ Device ให้กด Fn + ตามด้วยหมายเลขอุปกรณ์นั้นๆ ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
• เมื่อกดสลับอุปกรณ์สำเร็จ ไฟบริเวณปุ่ม Bluetooth จะติดค้าง 3-4 วินาทีแล้วดับไปครับ 

ไฟแจ้งเตือนสถานะต่างๆ เบื้องต้น

• เมื่อแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 20% ปุ่ม ESC จะกระพริบเป็น ไฟสีแดง
• และเมื่อเสียบสายชาร์จไฟเข้ากับตัวคีย์บอร์ดไฟสีแดง จะหยุดกระพริบ เปลี่ยนเป็นไฟติดค้าง
• เมื่อชาร์จไฟเต็มแล้ว ไฟสีแดง จะดับลงทันที (ทดสอบจากการชาร์จไฟผ่าน USB 3.0 ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงครับ)
• ปุ่ม F1 - F10 จะแสดงปริมาณแบตเตอรี่ปุ่มละ 10% สามารถกดปุ่ม Fn+ESC เพื่อเช็คปริมาณแบตเตอรี่ครับ
• ปุ่ม Caps Lock เมื่อกดใช้งานจะแสดงสถานะ ไฟสีน้ำเงิน ติดค้างไว้

เงื่อนไขการรับประกัน

• ทางแบรนด์รับประกันสินค้า 1 ปี ในความเสียหายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับวัสดุหรืองานประกอบ ซึ่งเป็นผลมาจากการผลิต หรือปัญหาการใช้งานทางเทคนิคต่างๆที่ผิดปกติตั้งแต่ได้รับสินค้า เช่น เชื่อมต่อไม่ได้เลย, ไฟไม่ติด หรือฟังก์ชันบางอย่างใช้งานไม่ได้ และความเสียหายที่ว่านั้นไม่รวมถึงการกระทำของผู้ใช้งานหรือการใช้งานที่ผิดวิธี***โดยลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ

การทำความสะอาดและดูแลรักษาเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

• ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์
• หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
• ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ 
• หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้( และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ )