Marshall Stanmore II Voice : ลำโพงบ้านรุ่นใหญ่ รองรับ Google Assistant

สินค้าหมด
SKU
AD067-A1-A
฿19,990.00
สรุปรายละเอียดสินค้า
  • ลำโพงดีไซน์หรู เสียงแน่น พร้อมกำลังขับสูงถึง 80 Watt.
  • รองรับ Google Assistant สั่งการด้วยเสียงผ่านลำโพงได้
  • ดอกลำโพงแบบ Subwoofer x 1 , Tweeter x 2 ให้มิติเสียงที่เป็นธรรมชาติ
  • รองรับได้ตั้งแต่ห้องขนาดเล็กไปถึงงานปาร์ตี้กลางแจ้ง
  • ช่องเสียบสายสัญญาณแบบ 3.5 มม. , RCA in (โทรทัศน์ , เครื่องเล่น Vinyl)

แชร์
เข้าสู่ระบบเพื่อรับเงิน Degree Points เพื่อใช้ร่วมกัน!

Marshall Stanmore II Voice Bluetooth Speaker 

ลำโพงติดบ้านรุ่นใหญ่ รองรับ Google Assistant !!

(Degree : เบสหนัก ฟังสนุก สั่งการด้วยเสียงได้)

Marshall Stanmore II Voice Bluetooth Speaker,marshall standmore ii voice,standmore ii voice,standmore voice,marshall,marshall speaker,google assistant,wifispeaker


ที่มาของ “ Marshall ”

 

  • Marshall แบรนด์ลำโพงชั้นนำสุดคลาสสิค ที่เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1962 โดย จิม มาร์แชล(Jim Marshall) ในยุคเริ่มแรกของทางบริษัท เริ่มโด่งดังมาจากการสร้างแอมป์ขยายเสียงสำหรับกีตาร์ไฟฟ้า ตั้งแต่ขนาดเล็กจนไปถึงขนาดใหญ่ ซึ่งนักดนตรีที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นอย่าง ริตชี แบล็กมอร์ , พีต ทาวน์เซนด์ ก็ต่างออกมายอมรับถึงคุณภาพของตู้แอมป์ของเขาว่าได้คุณภาพได้มาตรฐาน จึงเกิดเป็นเรื่องเล่า “แบบปากต่อปาก” ไปถึงวงดนตรีหลายๆวง ต่อมาแบรนด์  Marshall ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดนักดนตรี จนทำให้ Jim Marshall สามารถพัฒนาและขยายรุ่นสินค้าต่อไปได้อีกหลายรุ่น
  • ในเวลาต่อมา เทคโนโลยีเริ่มมีการแปรผันปรับเปลี่ยนการใช้อุปกรณ์ ให้เกิดความหลากหลายมากขึ้น จากยุค Analog มาเป็นยุค Digital ทางบริษัท Marshall ก็ได้เริ่มปรับเปลี่ยนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของเขาอยู่ตลอด โดยมีตั้งแต่ตู้แอมป์กีตาร์รุ่นใหม่ๆ ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ , ลำโพงแบบบลูทูธ , หูฟัง ซึ่งจุดแข็งของทางบริษัท Marshall ก็คือ ยังคงคุณภาพความคลาสสิคในเรื่องของดีไซน์และยังคงใส่ใจในเรื่องของเสียงไว้นั่นเองครับ 

 

จุดเด่นของ Marshall Stanmore II Voice ที่ทำให้แตกต่าง

  • จุดเด่นของเขาเองก็คือ ระบบรับคำสั่งเสียงที่สามารถ Link กับบัญชี Google โดยใช้แอพพลิเคชั่น Google Home , Google Assistant , Marshall Voice มาเป็นตัวช่วย ซึ่งเท่าที่ทางทีมงานได้ลองเล่น ลองสัมผัส ระบบปฏิบัติการและตัวลำโพงเองก็สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างสเถียรครับ สามารถสั่งเปลี่ยนเพลง , สั่งเพิ่ม-ลดเสียง , เปลี่ยน Playlist ใน Spotify , เช็คสภาพภูมิอากาศ เรียกง่ายๆว่าใช้ชุดคำสั่งได้เหมือนกับการใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือได้สบายๆล่ะครับ แม้ว่าตัวจะอยู่ห่างลำโพงในระยะ 3 - 4 เมตร ก็สั่งการด้วยเสียงเบาๆได้สบาย
  • ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกในส่วนของด้านหน้าลำโพง ก็มีเพิ่มไฟสถานะของตัวลำโพงมาให้ ส่วนทางด้านบนลำโพง แผงควบคุมในส่วนของ Volume Knob , Bass , Treble ยังมีให้ใช้งานเหมือนเดิมครับ แต่เพิ่มเติมในส่วนของไมค์โครโฟน และปุ่มเปิด - ปิดไมค์มาให้ ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้ไม่น้อยเลยครับ

 Marshall Stanmore II Voice Bluetooth Speaker,marshall standmore ii voice,standmore ii voice,standmore voice,marshall,marshall speaker,google assistant,wifispeaker


Marshall Stanmore II Voice  เหมาะกับใคร ???

 

คนที่ชอบใช้เทคโนโลยีเป็นตัวสั่งการ !!!

  • ตัวลำโพงสามารถควบคุมการเล่นเพลง ผ่านเทคโนโลยีสุดไฮเทค อย่างระบบการสั่งการด้วยเสียง Google Assistant  ช่วยอำนวยความสะดวกในเวลาที่เราทำกิจกรรมอื่นๆอยู่ เช่น อยากลด-เพิ่มเสียง ก็สามารถสั่งการได้โดยที่ไม่ต้องเดินไปที่ตัวลำโพงครับ

Marshall Stanmore II Voice Bluetooth Speaker,marshall standmore ii voice,standmore ii voice,standmore voice,marshall,marshall speaker,google assistant,wifispeaker

 

ใครหาลำโพงสวยๆ เอามาเป็นเฟอร์นิเจอร์หรูๆได้ เชิญ!!!!!!

  • ตัวลำโพงไม่ได้มีดีแค่เรื่องเสียง เพราะมีดีไซน์ที่เรียบหรู พรีเมียม สะดุดตามากๆ เหมาะสำหรับคนที่หลงรัก “ดีไซน์แบบย้อนยุค คลาสสิค” หลงรักความเป็นแบรนด์ Marshall แค่เอามาตั้งไว้บนโต๊ะทำงานเฉยๆ ก็สามารถเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านได้แล้วครับ

 

ใครเพื่อนมาบ้านบ่อยๆ...รักความสนุกและหลงใหลในเสียงเพลง ต้องจัด!!!

  • เป็นลำโพงที่เหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน มากกว่าการพกพาไปตามที่ต่างๆ เนื่องจากไม่มีแบตฯในตัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวลำโพงสามารถขับเสียงออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยมถึง 80 Watt. เรียกว่าให้พลังเสียงที่ดุดันมาก เพราะฉะนั้นการนำเจ้า Marshall Stanmore II Voice ไปใช้ปาร์ตี้ Hang Out กับเพื่อนๆก็ตอบโจทย์มากๆเลยล่ะครับ

 

ชอบดูหนัง , เล่นเครื่องเล่นแผ่นเสียง Vinyl ยุคเก่าๆ...ก็ตอบโจทย์ !!!

  • เจ้าลำโพง Marshall Stanmore II Voice ตัวนี้รองรับทั้งการเชื่อมต่อแบบไร้สายและมีช่องเสียบสายสัญญาณ Aux-in , RCA (แดง-ขาว)   ติดมาให้ด้วยทางด้านหลัง ทำให้ลำโพงตัวนี้รองรับการเสียบใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์มากยิ่งขึ้น ตั้งแต่เครื่องเล่นแผ่นเสียงยุคเก่าๆ , ทีวียุคเก่าๆ , Smart TV ก็ใช้งานได้สบายๆเลยครับ     

Marshall Stanmore II Voice Bluetooth Speaker,marshall standmore ii voice,standmore ii voice,standmore voice,marshall,marshall speaker,google assistant,wifispeaker


“ Marshall Stanmore II Voice ” Features

 

CONTROL YOUR MUSIC WITHOUT LIFTING A FINGER

  • สามารถควบคุมการเล่นเพลง ผ่านเทคโนโลยีสุดไฮเทค อย่างระบบการสั่งการด้วยเสียง Google Assistant ที่เชื่อมต่อผ่านเครือข่ายไร้สาย (WIFI) ช่วยอำนวยความสะดวกและการจัดการกับตัวลำโพงในเวลาที่เราทำกิจกรรมอื่นๆอยู่ครับ

Marshall Stanmore II Voice Bluetooth Speaker,marshall standmore ii voice,standmore ii voice,standmore voice,marshall,marshall speaker,google assistant,wifispeaker 

BUILD A MULTI-ROOM SYSTEM

  • หากมีลำโพง Marshall Stanmore II Voice  2 ตัว ก็สามารถเชื่อมต่อลำโพงให้ Link และเล่นบทเพลงเดียวกันได้ ช่วยให้ลำโพงทั้งสองตัวที่อยู่คนละห้อง กระจายเสียงได้อย่างทั่วถึงมากกว่าเดิม

Marshall Stanmore II Voice Bluetooth Speaker,marshall standmore ii voice,standmore ii voice,standmore voice,marshall,marshall speaker,google assistant,wifispeaker 

CUSTOMISE YOUR SOUND

  • ที่แผงควบคุมสามารถ ปรับความดัง , ปรับ Tone เสียง Bass , Treble พร้อมตำแหน่งไฟที่แม่นยำ ช่วยให้ปรับเสียงให้เหมาะกับห้องได้ดั่งใจ
  • ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ Knob ควบคุมยังมาพร้อมตำแหน่งไฟ LED ที่บ่งบอกถึงระดับได้อย่างแม่นยำ  สะดวกต่อการใช้งานในที่แสงน้อย อย่างห้องนอนมากๆครับ
  • สามารถควบคุม Knob ต่างๆ ผ่าน Application Marshall Bluetooth App ได้ หรือเพิ่ม-ลดระดับเสียงได้ แม้ว่าตัวจะอยู่ไกลลำโพงครับ

Marshall Stanmore II Voice Bluetooth Speaker,marshall standmore ii voice,standmore ii voice,standmore voice,marshall,marshall speaker,google assistant,wifispeaker

FAR-FIELD VOICE RECOGNITION

  • ตัวลำโพงมาพร้อมไมค์โครโฟน แบบ FAR-FIELD VOICE ช่วยรับคำสั่งเสียงจากระยะไกลได้ดีมากๆ แม้บทเพลงจะเล่นผ่านลำโพงอยู่ ก็ยังสามารถสั่งการได้รู้เรื่อง
  • หากบทเพลงกำลังเล่นอยู่ แล้วอยากทราบว่าเป็นบทเพลงอะไร ก็สามารถใช้ชุดคำสั่งเสียงได้เลยสะดวกมากๆครับ

 

ICONIC MARSHALL DESIGN

  • ยังคงเอกลักษณ์ในเรื่องของดีไซน์แบบย้อนยุค , คลาสสิค ใช้วัสดุคุณภาพสูง คงเอกลักษณ์ความเป็นแบรนด์ Marshall ไว้ให้เหมือนลำโพงรุ่นแรกๆในปี ค.ศ. 1962 ที่สามารถนำไปวางที่ห้องไหน ภายในบ้านก็ยังดูสวย

 

MARSHALL VOICE APP

  • แอพพลิเคชั่น Marshall Voice App สามารถตั้งค่าลำโพงเพิ่มเติมได้ เช่นการ Custom EQ , หรือเลือกใช้ Preset ที่ทาง Marshall ออกแบบมาให้ก็ได้ อีกทั้งยังช่วยให้เราควบคุมลำโพงจากระยะไกลได้ด้วยครับ

Marshall Stanmore II Voice Bluetooth Speaker,marshall standmore ii voice,standmore ii voice,standmore voice,marshall,marshall speaker,google assistant,wifispeaker

 

การเชื่อมต่อโดยสายสัญญาณ (Wired Connectivity)

  • รองรับการเชื่อมต่อแบบเสียบสายสัญญาณแบบ Aux in 3.5 mm. (Universal Audio) , RCA In  สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อย่าง Smartphone , Computer , เครื่องเล่นเสียงต่างๆได้

Marshall Stanmore II Voice Bluetooth Speaker,marshall standmore ii voice,standmore ii voice,standmore voice,marshall,marshall speaker,google assistant,wifispeaker 

 

เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกันสองอุปกรณ์ (Multi-Host) 

  • ตัวลำโพงรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกันสองอุปกรณ์ (Multi-Host) พร้อมสลับใช้งานได้อย่างสะดวก ใครมีทั้ง Mobile , Tablet ก็เชื่อมต่อทิ้งไว้เลยตั้งแต่ครั้งแรก และสลับการใช้งานได้เลยตามใจชอบ 

 


Sound Review (รีวิวเสียง)

 

สำหรับใครที่เคยฟังอย่าง Marshall Stanmore II มาก่อน ทีมงานบอกเลยว่าโทนเสียงไม่ต่างกันแม้แต่นิดเดียว

 

สำหรับบทเพลง Mainstream , เพลงฮิตติด Top Chart ทั้งเพลงไทย , สากล

  • ตัวลำโพง Marshall Stanmore II Voice สามารถตอบสนองย่านความถี่ของเสียงร้อง ในย่านเสียงกลาง ออกมาได้อย่างโดดเด่น น้ำเสียงของนักร้องได้โทนที่ธรรมชาติพุ่งออกมาด้านหน้า ให้ความรู้สึกที่อยู่แนวหน้าของชิ้นดนตรี ฟังง่าย ไม่โดนชิ้นดนตรีกลบเกลื่อนครับ 
  • ส่วนย่านความถี่ที่ต่ำและความถี่สูง(Low & High Frequency) สามารถตอบสนองและให้ความรู้สึกออกมาได้อย่าง Balance (พอดี) ในตำแหน่งที่ถอยหลังออกไป จากเสียงของนักร้อง ทำให้ได้มิติการฟังที่ดีครับ 
  • ถึงแม้ว่าบทเพลงบางเพลงจะมี Style EDM , Dance เข้ามาผสมผสาน เสียงย่านต่ำในเพลงเยอะๆ แต่เจ้าลำโพงตัวนี้ก็ยังให้เสียงร้องที่ชัดถ้อยชัดคำ ฟังได้ง่ายอยู่ครับ 

 

ROCK STYLE

  • ลองมาเริ่มกับเพลง Rock ช่วงต้นๆปี ค.ศ. 2000 กันหน่อย อย่างบทเพลงยอดฮิตอย่าง The Reason ของ Hoobastank 
  • ความรู้สึกแรกที่จับต้องได้คือ ความมันและความหนึบของเสียงกลองชุดพร้อมกีตาร์เบส เมื่อบทเพลงเริ่มมาด้วยกันทั้งแบรนด์ (เปียโน , กีตาร์ , เบส , กลอง) เจ้าลำโพง Marshall Stanmore II สามารถให้เสียงของ กระเดื่อง(Kick) และ สแนร์(Snare) ได้อย่างแน่น ให้อารมณ์เหมือนนั่งอยู่หน้ามือกลองได้เลยครับ (Kick กระแทกหน้า) 
  • พอเริ่มมีเสียงของนักร้องขึ้นมา คาแรคเตอร์ของลำโพงก็กลับมาเหมือนเดิมคือ ฟังร้องชัด พร้อมกับความมันของเสียงย่านต่ำ ที่คอยโอบอุ้มบทเพลงไปได้อย่างอวบอิ่ม
  • ส่วนในท่อนฮุคของเพลงที่เริ่มมีเสียงแตกของกีตาร์ไฟฟ้า(Distortion) นักร้องก็ยังชัดอยู่ แม้ว่าจะมีเสียงของกีตาร์ที่หนา เพิ่มเข้ามา โดยที่เสียงกีตาร์ไฟฟ้าในเพลงนี้ได้โทนที่หนาและพุ่งมากๆจากตัวลำโพง แต่มิติและความแม่นยำนั้นยังยอดเยี่ยม ไม่ได้รู้สึกว่าโดนบดบังแต่อย่างใด

 

วง Nickelback (ROCK)

  • เริ่มอัดไปกับเพลงมันๆ กระแทกกระทั้นอย่าง Edge Of A Revolution เลยล่ะกัน 
  • เจ้าลำโพง Marshall Stanmore II Voice  ยังคงคาแรคเตอร์เสียง ความมันที่เป็นเอกลักษณ์ในการฟังเพลง Rock ไว้ได้อย่างโหดมากๆ เอาคาแรคเตอร์เสียงกีตาร์ไฟฟ้า ,  กีตาร์เบส , และกลองชุด ออกมาได้อย่างทรงพลังเลย โดยความหนาของเนื้อเสียงกีตาร์ไฟฟ้ายังเป็นธรรมชาติ ฟังสนุก ให้ความรู้สึกได้คล้ายการฟังลำโพงจากห้องอัดได้ โดยที่ให้ความรู้สึกที่โดนบิดเบียนมาจากเสียงจริงน้อยมากๆครับ

 

Stereo Image

  • สำหรับเรื่องมิติความกว้างของ Stage ทีมงานถือว่าตอบโจทย์แบบนั้นได้ยาก เรียกว่าไม่ได้ตอบโจทย์ในเรื่องของการฟังแบบกว้างๆแยกมิติขนาดนั้น แต่ถ้าเป็นจุดเด่นของเขาจริงๆ ทีมงานยกย่องในเรื่องของมิติความลึกมากกว่า ที่สามารถจับต้องได้แบบไม่ยากว่าเครื่องอะไรอยู่ข้างหน้า,ข้างหลัง ทำให้การฟังเพลงนั้นได้อรรถรส ฟังสนุกมากๆครับ  

 

สรุป

  • คาแรคเตอร์เสียงของ Marshall Stanmore II Voice จะมีการให้เสียงที่โดดเด่นไปทางย่านเสียงต่ำ (Low Frequency) ที่สามารถตอบโจทย์คนชอบความแน่นได้แบบอิ่มๆ ฟังมัน โดยที่เนื้อเสียงของนักร้องนั้นยังคงฟังได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ ไม่โดนบัง เสียงชิ้นดนตรีที่โดดเด่นในเพลงร๊อค อย่างกีตาร์ไฟฟ้าและชุดกลองนั้นสามารถขับออกมาได้อย่างทรงพลัง ส่วนความถี่เสียงในย่านสูง (High Frequency) ก็ให้มาแบบหนาๆ ถึงจะไม่ได้เป็นโทนที่ใสกริ๊ง แต่ก็ฟังได้อย่างโปร่งๆไม่ขุ่นมัวเลยครับ  




Product Specification (สเปคคร่าวๆ)

 

AUDIO SPECIFICATIONS

  • ตอบสนองความถี่ : 50 – 20,000 Hz
  • ปุ่ม Control (Front) : Volume , Bass , Treble
  • STEREO/MONO : Stereo
  • MAXIMUM SOUND PRESSURE LEVEL : 107 dB @ 1 m
  • CABINET PRINCIPLE : Bass-reflex
  • POWER AMPLIFIERS : 1x 50 Watt Class D amplifier for the woofer , 2 x 15 Watt Class D amplifiers for the tweeters

 

CONTROLS AND CONNECTIVITY

 

WI-FI

  • Connects to your home Wi-Fi network with any WPA/WPA2, 802.11 a/b/g/n ac 2,4 GHz/5GHz with diversity

 

MICROPHONE SYSTEM

  • A dual microphone array with acoustic noice cancellation for the far field voice interaction

 

WIRED CONNECTIVITY

  • 3.5 mm Input
  • RCA input

 

VOICE COMMAND

  • The Google Assistant built-in

 

WIRELESS CONNECTIVITY

  • Chromecast built-in
  • Bluetooth

 

PHYSICAL UNIT

  • DIMENSION : 350 x 195 x 185 mm
  • WEIGHT : 4.85 kg

 


 Product Include (อุปกรณ์ภายในแพคเกจ)

  • ลำโพง Marshall Stanmore II Voice
  • สายไฟ
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

 


Warranty (เงื่อนไขประกันสินค้า)

  • รับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง Marshall กำหนด
  • *** ในส่วนของอะไหล่ เเละสายชาร์จที่มากับตัวลำโพงจะมีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน
  • คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวลำโพง, สายสัญญาณ รวมไปถึง คู่มือการใช้งาน
  • หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของทางโรงงาน เปลี่ยนตัวใหม่ให้ทันที
  • สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง
  • หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น สายขาดใน, แจ็คหัก, เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นลำโพงผิดวิธี(ใช้แอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนดอกลำโพงเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
  • สินค้ารุ่นนี้ไม่มีมาตรฐานการกันนํ้า หากสินค้าเสียหายจากอาการนํ้าเข้าในทุกกรณี จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
  • อาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***เช่น กำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดหายแล้วกลับมาเป็นปกติ *** จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน

 

 

ขั้นตอนการเคลมสินค้า

 

ขั้นตอน 1 กรอกแบบฟอร์มการรับประกัน https://warranty.ash-asia.com/wholesale-warranty-claim/
เพื่อรับบริการรับประกัน โปรดติดต่อตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัท Ash asia ("CSR") โดยกรอกแบบฟอร์มเรียกร้อง ( https://warranty.ash-asia.com/wholesale-warranty-claim/) หรือทางอีเมลที่ [email protected]

ขั้นตอน 2 รับหมายเลข Claim ID (WSCI- xxxx ) สำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณ
โปรดอย่าส่งคืนสินค้าใด ๆ หากไม่ได้รับหมายเลข RMA เนื่องจากทางบริษัท Ash asia ไม่สามารถติดตามสินค้ากับคุณและอาจสูญหายหรือถูกวางผิดที่ หากสินค้าใดถูกส่งคืนโดยไม่มีหมายเลข RMA ที่ถูกต้องทางบริษัท Ash asia จะไม่รับผิดชอบต่อสินค้าของคุณหากสินค้าเสียหายหรือสูญหาย

ขั้นตอน 3 จัดส่งผลิตภัณฑ์ของคุณไปยังศูนย์บริการของบริษัท Ash asia
กรุณาแพ็คสินค้า + อุปกรณ์ทั้งหมดลงกล่อง พร้อมจ่าหน้ากล่องว่า

ฝ่ายเคลมสินค้า และแจ้ง Claim ID
ที่อยู่ บริษัท แอชเอเชีย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ห้อง 2301 ชั้น 23 อาคารเดอะมิลเลนเนียทาวเวอร์ 62 ซ.หลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทร. 02-252-2990 ต่อ 105 (เบอร์สำนักงาน)
โปรดแน่ใจว่าหมายเลข Claim ID ( WSCI- xxxx ) ถูกพิมพ์อย่างชัดเจนบนกล่อง!

ขั้นตอน 4 บริษัท Ash asia ทำการประเมินผลิตภัณฑ์ของคุณและเตรียมการแก้ไขปัญหา
เมื่อได้รับและดำเนินการตามคำขอรับประกันของคุณแล้วคุณจะได้รับอีเมลยืนยันจากบริษัท Ash asia และช่างเทคนิคป้องกันตัวเลือกจะประเมินผลิตภัณฑ์ของคุณ โปรดทราบว่าโดยทั่วไปบริษัท Ash asia จะให้การยืนยันภายใน 2-3 วันทำการ อย่างไรก็ตามในช่วงที่มีความต้องการใช้งานสูงสุดอาจใช้เวลาถึง 10 วันทำการ เพื่อให้บริษัท Ash asia ตอบกลับคุณ เมื่อบริษัท Ash asia ประมวลผลผลิตภัณฑ์ของคุณแล้วให้ซ่อมแซมเวลาตอบสนองโดยเฉลี่ย 5 วันทำการ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม
SKUAD067-A1-A
0
เรทติ้ง:
0% of 100
Write Your Own Review
เฉพาะสมาชิกเท่านั้นที่สามารถเขียนรีวิวได้ กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก
คำถามลูกค้า
ไม่มีคำถาม
โปรดทราบ, เฉพาะผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบเท่านั้นที่สามารถส่งคำถามได้
สินค้าที่คุณอาจจะชอบ!