Earfun Free Pro 2

หูฟังไร้สาย Active Noise Cancelling

ไมค์ 6 ตัว กันนํ้า IPX5

(เสียงดี เล่นเกมเด่น)

Earfun Free Pro 2 Video Review

425Audio สรุปชัดๆ :

• หากใครที่หาหูฟังไร้สายในงบ 2,000 บาท เน้นเล่นเกมดี เสียงดี ใส่ออกกำลังกายในชีวิตประจำวันได้ เราขอแนะนำหูฟังที่คุ้มค่าที่สุดในย่านราคานี้ Earfun Free Pro 2 รุ่นสานต่อความสำเร็จของ Earfun Free Pro ครับ
• ในรุ่นนี้นอกจากจะมีดีไซน์ที่ดูเล็กลงเล็กน้อย แต่ให้ความพรีเมี่ยมมากกว่ารุ่นก่อนมากๆแล้ว ยังพกเอาประสิทธิภาพที่ทำได้ดีมากกว่ารุ่นก่อนมากพอสมควรเลยครับ
• โดยเฉพาะเรื่องของโทนเสียง ที่เสียงดีมากขึ้นกว่ารุ่นที่แล้วมาก โทนเสียงจะยังแนวฟังสนุก แต่ได้ความคม ความกระจ่างใส และได้เสียงเบสที่ฟังสนุกและฟังคลีนมากกว่ารุ่นที่แล้วอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ
• การเล่นเกมก็ยังทำได้อย่างยอดเยี่ยม ดีเลย์น้อยที่สุดในหูฟังย่านราคาสองพันบาท เล่น PUBG, ROV แทบไม่รู้สึกดีเลย์ อีกทั้งยังแยกเสียงได้อย่างดีเยี่ยม ทิศทางเสียงแม่นยำเกินค่าตัวมันมากๆครับ
• อีกทั้งยังใส่ออกกำลังกายในชีวิตประจำวันได้ดี ตัวหูฟังดีไซน์มาขนาดจิ๋ว มีปีกซิลิโคน earhook ช่วยเสริมความกระชับ ใส่ออกกำลังกายไม่มีหลดหลวมอย่างแน่นอนครับ
• นับว่าเป็นหูฟังในย่านราคาสองพันบาทที่คุ้มค่าและน่าใช้ที่สุด ณ เวลานี้ หากใครเน้นเล่นเกมดี เน้นเสียงดีๆ ใส่ออกกำลังกายได้ Earfun Free Pro 2 คุ้มค่ามากที่สุดแล้วครับ

Product Highlight :

QuietSmart™ 2.0 Hybrid Active Noise Cancellation

• โหมดตัดเสียงรบกวนรอบข้าง สามารถตัดเสียงรบกวนได้เงียบลงถึง 40 เดซิเบล ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างขณะฟังเพลง

Transparency Mode

• โหมดฟังเสียงรอบข้างผ่านหูฟังโดยไม่ต้องถอดหูฟังออกจากหู

80ms Low Latency Game Mode

• โหมดลดเสียงดีเลย์ตอนดูหนังและเล่นเกม ลดค่าความหน่วงได้ตํ่าสุดถึง 80 มิลลิวินาที

6-Microphone Noise Cancellation Technology

• ไมโครโฟนคุยโทรศัพท์ข้างละ 3 ตัว พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ช่วยให้การสนทนาคมชัด

IPX5 Sweat & Water Resistant

• ตัวหูฟังสามารถกันเหงื่อจากการออกกำลังกายได้ในชีวิตประจำวัน

Featherweight Fit & Pocket-Sized

• นํ้าหนักเบาดุจขนนก ขนาดเล็กใส่กระเป๋ากางเกงได้สบายๆ

6mm Composite Dynamic Drivers

• ขับเสียงด้วยไดร์เวอร์ไดนามิคขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 มิลลิเมตร ให้โทนเสียงที่สด มีความสมดุลย์ของเสียง

30-Hours playtime with Fast Charging

• **ฟังเพลงต่อเนื่องได้สูงสุด 6 ชม. ต่อ 1 รอบ ชาร์จเพิ่มจากกล่องชาร์จได้อีก 24 ชม. พร้อมระบบชาร์จเร็วของหูฟัง ที่ชาร์จเพียง 10 นาที ใช้งานฟังเพลงได้สูงสุด 2 ชั่วโมง

Wireless Charging Compatible

• กล่องชาร์จรองรับการชาร์จไร้สายกับแท่นชาร์จ

ประสบการณ์การใช้งานจริงของทีมงาน 425AUDIO

ดีไซน์ : ดีไซน์ใหม่ premium ขึ้นกว่าเดิม

• ในรุ่นใหม่ Earfun Free Pro 2 มากับดีไซน์ใหม่ที่ดูพรีเมี่ยมมากกว่ารุ่นที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงเอกลักษณ์ดีไซน์ของความเป็น Free Pro เอาไว้ได้อย่างดี
• วัสดุกล่องชาร์จและหูฟังเป็นพลาสติกขัดผิวด้าน เนื้อดีดูแข็งแรง ผิวสัมผัสดูมีราคากว่ารุ่นที่แล้วอย่างชัดเจนเลยครับ
• ขนาดกล่องชาร์จมีความกระทัดรัดและเล็กกว่ารุ่นที่แล้วเล็กน้อย นํ้าหนักเบามาก ใส่กระเป๋ากางเกงได้สบายๆเลยครับ

การสวมใส่ : รูปทรงโค้งมนรับช่องหู สวมใส่สบายมากขึ้น

• ส่วนตัวทีมงานแล้วคิดว่า Earfun Free Pro 2 ใส่สบายและเข้าหูมากกว่ารุ่นที่แล้วเยอะเลยครับ
• เนื่องจากหูฟังดีไซน์ของ Earfun Free Pro 2 มีความโค้งมนมากกว่า ไม่เหมือนกับรุ่นที่แล้วที่มีขอบเหลี่ยม ความโค้งมนของ Earfun Free Pro 2 มันรับกับช่องหูคนได้ดีกว่าครับ
• ขนาดของหูฟังเล็กมากๆ พอๆกับเหรียญบาท หากใครเป็นคนหูเล็ก ทีมงานคิดว่าสามารถใส่ Earfun Free Pro 2 ได้สบายๆครับ

การเชื่อมต่อ : สัญญาณดี แทบไม่มีสะดุด

• Earfun Free Pro 2 เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.2 เวอร์ชั่นล่าสุดครับ
• เท่าที่ทีมงานทดสอบใช้งานพบว่าสัญญาณสเถียรดีมากครับ และมีบางครั้งที่เจอสัญญาณกระตุกนิดหน่อยในที่คนเยอะๆ แต่อยู่ในระดับที่นานๆอาจมีโอกาสเป็นสักนิดนึง ซึ่งเป็นปกติของหูฟังไร้สายเวลาใช้ในที่ที่มีสัญญาณไร้สายเยอะๆครับ
• การเชื่อมต่อเป็น dual-connection สามารถแยกหูฟังใช้งานข้างเดียวได้ทั้งสองข้าง โดยที่เก็บหูฟังข้างที่ไม่ใช้งานลงกล่องชาร์จแล้วปิดฝา

การใส่ออกกำลังกาย : กันเหงื่อดี ใส่วิ่งออกกำลังกายไม่หลุดง่าย

• Earfun Free Pro 2 มากับระดับการกันนํ้า IPX5 ซึ่งเป็นระดับที่สามารถกันเหงื่อปริมาณทั่วไปจากการออกกำลังกายได้สบายๆ
• ทีมงานใส่ Earfun Free Pro 2 วิ่งออกกำลังกายพบว่า ใส่ออกกำลังกายดีมากครับ ด้วยความที่มันมี earfins หรือปีกซิลิโคนช่วยเกี่ยวหูชั้นใน ทำให้ใส่วิ่งแล้วไม่รู้สึกว่าหูฟังจะหลุดหลวม อีกทั้งยังไม่เจ็บหูอีกด้วย เรียกว่ากระชับตลอดการออกกำลังกายเลยครับ

โหมดตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling : ดีขึ้นกว่าเดิมพอสมควร

• โหมดตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ตัดได้เงียบกว่ารุ่นที่แล้วพอสมควร หากเปิดโหมดตัดเสียงแบบยังไม่เปิดเพลงจะยังพอได้ยินเสียงรอบตัวอยู่บ้าง แต่ถ้าเปิดเพลงฟังด้วยแล้วก็แทบจะไม่รู้สึกถึงเสียงรอบๆตัว เสียงเพลงมาเต็มย่านดีโดยเฉพาะย่านเสียงเบส ที่ชัดเจนทั้งในส่วนของหัวโน๊ต และส่วนของ deep bass เลยครับ

การคุยโทรศัพท์ : อยู่ในระดับดี ใช้คุยในชีวิตประจำวันได้

• ไมค์คุยโทรศัพท์ทำได้ในระดับดีครับ ใช้คุยในชีวิตประจำวันได้
• เสียงพูดจะออกไม่คมมาก ออกนุ่มๆแต่เสียงฟังรู้เรื่อง ถือว่าไมค์จับเสียงคนพูดได้ดีครับ
• การตัดเสียงรบกวนอยู่ในระดับพอใช้ ขณะคุยสายปลายสายจะยังได้ยินเสียงรบกวนรอบๆตัวเราอยู่บ้าง แต่ไมค์ก็ยังจับเสียงพูดของเราได้ในระดับที่ฟังรู้เรื่องครับ
• เท่าที่ลองใช้โทรศัพท์ผ่านเครือข่าย, แอปพลิเคชัน พบว่าปลายสายฟังเสียงเรารู้เรื่อง และไม่ได้มีบ่นว่าฟังไม่ถนัดครับ
• หากเทียบกับรุ่นที่แล้ว พบว่าในส่วนของไมค์ดีกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อยครับ

การเล่นเกม : ดีเลย์น้อยมากจนเพ่งจับไม่ได้ แยกเสียงดีเมื่อเล่นแนว PUBG

• เล่นเกมดีมากครับ ขนาดยังไม่เปิดโหมด Low Latency Game Mode ยังใช้เล่น PUBG, ROV และเกม offline ทั่วไปได้แบบดีเลย์น้อยมากๆใน iOS ส่วน Android อาจจะดีเลย์มากกว่านิดหน่อย แต่ก็อยู่ในระดับที่ใช้เล่นได้
• แต่ถ้ายิ่งเปิดโหมด Low Latency Game Mode แล้วละก็ เล่น PUBG, ROV ดีเลย์น้อยแบบแทบจะเพ่งจับไม่ได้เลยใน iOS ส่วน Android เพ่งจับผิดแบบตั้งใจมากๆ จะรู้สึกอยู่นิดนึง แต่ใช้เล่นได้แบบจริงจังได้แบบลื่นๆเลยครับ
• ด้วยความที่โทนเสียงของ Earfun Free Pro 2 จูนเสียงมาให้มีความคมใส รายละเอียดฟังกระจ่างมากขึ้น ผนวกกับดีเลย์น้อยมากจนแทบไม่รู้สึก ทำให้ Earfun Free Pro 2 โดดเด่นเรื่องเล่นเกมมากกว่ารุ่นที่แล้วมากพอสมควรเลยครับ

การดูหนัง : ดูคลิปออนไลน์, ซีรี่ยส์ เสียงตรงภาพ ดูได้เพลินๆ

• ดูคลิปออนไลน์บน Facebook, Youtube หรือ Netflix พบว่าดีเลย์น้อยมากๆจนแทบจะไม่รู้สึกทั้ง iOS และ Android สามารถใช้ดูคลิปหรือดูหนังบนโทรศัพท์ได้เพลินๆแบบเสียงตรงภาพครับ

คุณภาพเสียง : โทนเสียงกระจ่างใสขึ้น ละเอียดขึ้น นุ่มละมุนมากขึ้น

• รุ่นก่อนว่าเสียงดีมากๆแล้ว ในรุ่นใหม่นี้ Earfun Free Pro 2 เสียงดีกว่าเดิมขึ้นเยอะเลยครับ
• แนวเสียงยังออกคาแรคเตอร์เดียวกับ Earfun Free Pro แต่ในรุ่น Earfun Free Pro 2 โทนเสียงในภาพรวมมีความกระจ่าง โปร่ง และมีความนุ่มนวลขึ้นเยอะมากๆ และขับรายละเอียดเสียงดนตรีต่างๆออกมาได้เยอะกว่าเดิม ฟังง่ายกว่าเดิม เสียงแหลมมีความคมสว่างแต่ไม่บาดหู เสียงเบสออกสุขุมมากขึ้นแต่ยังให้จังหวะที่ฟังสนุก อิมเมจเสียงมีขนาดกลางๆแต่มิติเสียงกว้าง ฟังแล้วสามารถแยกแยะเสียงดนตรีแต่ละชิ้นได้อย่างง่ายดาย แอบเสียดายที่เสียงกลางแอบถอยหลังไปเล็กน้อย แต่เสียงร้องและเสียงกีต้าร์ยังให้รายละเอียดที่น่าฟังอยู่ครับ

แบตเตอรี่ : อยู่ในระดับกลางๆ เพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวัน

• ในส่วนของแบตเตอรี่ ทาง Earfun เคลมว่า Earfun Free Pro 2 ฟังเพลงต่อเนื่องได้สูงสุด 6 ชม. ต่อรอบแบบปิด active noise cancelling หรือสูงสุด 5 ชม. เมื่อเปิด active noise cancelling ตลอดการใช้งาน และชาร์จเพิ่มกับกล่องชาร์จได้สูงสุดอีก 24 ชม. หรือชาร์จหูฟังกับกล่องชาร์จได้ประมาณ 3-4 รอบหมด ซึ่งรวมทั้งหมดก็อยู่ที่ 30 ชม. พอดีครับ
• แต่เท่าที่ทีมงานทดสอบ เปิดโหมด Active Noise Cancellng ตลอดและฟังเพลงที่ความดังประมาณ 60% ทีมงานใช้ได้ประมาณเกือบๆ 4 ชั่วโมง ซึ่งก็ถือว่าแบตเตอรี่เพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวันครับ

**ระยะเวลาการใช้งานแปรผันตามการใช้งานและระดับความดังของแต่ละบุคคล

ความคุ้มค่า 

• ส่วนตัวทีมงานคิดว่า Earfun Free Pro 2 เป็นหูฟังที่ให้ทั้งโทนเสียงที่ฟังสนุก คนทั่วไปฟังอินกับมันได้ง่าย ใส่ออกกำลังกายในชีวิตประจำวันได้ดี และใส่เล่นเกมได้ยอดเยี่ยมมากกว่ารุ่นที่แล้วเพราะดีเลย์น้อยกว่าและแยกเสียงดีกว่ากว่ารุ่นที่แล้ว
• ก็ต้องขอสรุปเลยครับว่า Earfun Free Pro 2 ตอบโจทย์คนชอบหูฟังไซส์กระทัดรัด เล่นเกมดีๆ เสียงดีๆ และใส่ออกกำลังกายในชีวิตประจำวันได้แบบไม่ต้องกังวลหลุด ต้องบอกว่าคุณภาพขนาดนี้ในราคาแค่นี้ Earfun Free Pro 2 คุ้มที่สุดแล้วในย่านราคานี้ครับ

Sound Review (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425AUDIO นะครับ)

เสียงย่านตํ่า :

• เสียงเบสมีความคมสะอาด มวลอิ่มหนาฟังเป็นลูกๆ หัวโน๊ตชัด ซับเบสหนาลงได้ลึกปานกลาง แรงปะทะเสียงกระเดื่องกลองฟังสนุก ไม่หนักไปและไม่เบาไป หางเสียงเบสเก็บตัวได้ไว ไม่รู้สึกว่าไปกวนเสียงย่านร้องและเสียงย่านแหลมเลยครับ

เสียงย่านกลาง :

• เสียงกลางจะถอยหลังเล็กน้อย แต่เสียงร้อง เสียงกลองสแนร์ และเสียงกีต้าร์ยังออกชัดเจนและน่าฟัง รายละเอียดทำได้ดีและเนื้อเสียงนุ่มละมุนฟังสบายหู

เสียงย่านสูง :

• เสียงแหลมจะออกแนวๆคมสว่างใส แต่ขอบคมไม่จัดเกินไป อยู่ในระดับฟังกำลังสบายแบบมีนํ้ามีนวล ปลายเสียงทอดตัวได้ไกลติดประกายเล็กๆน้อยๆ มีความระยิบระยับอยู่เล็กน้อย เป็นเสียงแหลมที่น่าฟัง และฟังลื่นหูมากๆครับ

เวทีเสียง & มิติเสียง :

• อิมเมจของเวทีเสียงมีขนาดกลางๆ แต่แยกมิติเสียงของชิ้นดนตรีต่างๆได้ห่างออกจากกัน ฟังแล้วสามารถแยกแยะเสียงดนตรีแต่ละชิ้นได้อย่างง่ายๆเลยครับ

สรุป :

• โทนเสียงของ Earfun Free Pro 2 เป็นโทนเสียงที่นุ่มละมุน แต่ให้เสียงเบสที่อวบอิ่มแรงปะทะฟังสนุก เป็นโทนเสียงที่ฟังง่ายมากๆ ตอบโจทย์เพลงจังหวะเร็วๆเช่นพวก Pop, R&B, Hip-Hop แต่จะฟัง Rock ก็ดีอยู่ครับ

Gallery :

การใช้งานเบื้องต้น

คำแนะนำเบื้องต้นก่อนเริ่มใช้งาน

• ลอกแผ่นฟิลม์ออกจากกล่องชาร์จ
• ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนใช้งานครั้งแรก
• ควรทดลองใส่จุกหูฟังทุกขนาด เพื่อหาขนาดที่เหมาะสมกับช่องหูมากที่สุด เพื่อการสวมใส่ที่กระชับ
• ควรเปิดโหมด Low Latency Mode เฉพาะตอนเล่นเกมเท่านั้น ถ้าเลิกเล่นเกมแล้วควรปิดโหมด
• ระยะเวลาการใช้งานขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งานและระดับความดัง volume

การเปิด-ปิดหูฟัง

• เปิด : เปิดฝากล่องชาร์จ หูฟังเปิดการใช้งาน
• ปิด : เก็บหูฟังลงกล่องชาร์จ ปิดฝา

การสวมใส่

• ค่อยๆสอดหูฟังเข้าช่องหู พร้อมกับบิดหูฟังไปข้างหลังเล็กน้อยจนรู้สึกกdsaระชับ

การเชื่อมต่อ Bluetooth ครั้งแรก

1. เปิดฝากล่องชาร์จ > หูฟังจะเปิดการใช้งานพร้อมเข้าโหมดจับคู่อัตโนมัติในการใช้งานครั้งแรก
2. เปิด Bluetooth โทรศัพท์ > แตะเชื่อมต่อ Earfun Free Pro 2

การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น

1. เก็บหูฟังทั้งสองข้างลงกล่องชาร์จ แต่อย่าเพิ่งปิดฝา
2. แตะหูฟังทั้งสองข้างค้างไว้จนไฟหูฟังกระพริบสีนํ้าเงิน (เข้าโหมดจับคู่)
3. เปิด Bluetooth โทรศัพท์ > แตะเชื่อมต่อ Earfun Free Pro 2

การใช้หูฟังข้างเดียว

1. เชื่อมต่อใช้งานหูฟังทั้งสองข้าง
2. เก็บหูฟังข้างที่ไม่ต้องการใช้งานลงกล่องชาร์จแล้วปิดฝา หูฟังข้างที่ใส่อยู่จะใช้งานต่อไปได้
3. หากต้องการสลับข้าง ให้หยิบอีกข้างขึ้นมาใส่ก่อน แล้วค่อยเก็บหูฟังอีกข้างลงกล่องชาร์จแล้วปิดฝา

การเปิดโหมดตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling / โหมดดูดเสียงรอบข้าง Ambient Sound และโหมดปกติ Normal

• ขณะหูฟังอยู่ในโหมดปกติ แตะหูฟังข้าง L ค้าง 2 วินาที เพื่อเปลี่ยนโหมดไปเรื่อยๆโดยไล่จาก โหมดตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling > โหมดดูดเสียงรอบข้าง Ambient Sound > โหมดปกติ Normal

การเปิดโหมด Low Latency Mode

• ขณะอยู่ในเกม แตะหูฟังข้าง L x3 จะได้ยินเสียงคนพูดว่า “Game Mode” ทำซํ้าในวิธีเดียวกันเพื่อปิด

**ควรเปิดโหมด Low Latency Mode เฉพาะตอนเล่นเกมเท่านั้น**

การควบคุมทั่วไป

• เล่นเพลง / หยุดเพลง : แตะหูฟังข้าง L หรือ R x2
• ไปยังเพลงถัดไป : แตะหูฟังข้าง R x3
• เพิ่มเสียง : แตะหูฟังข้าง R x1
• ลดเสียง : แตะหูฟังข้าง L x1
• รับสาย / วางสาย : แตะหูฟังข้าง L หรือ R x2
• ปฏิเสธสาย : แตะหูฟังข้าง L หรือ R ค้าง 2 วินาที
• เรียก Voice Asistant : แตะหูฟังข้าง R x2

**บางฟังชันอาจไม่สามารถใช้งานได้ขึ้นอยู่กับแอปพลิเคชัน**

การชาร์จแบตเตอรี่

กล่องชาร์จ (ชาร์จผ่านสาย USB-C)

• เสียบสายชาร์จ USB-C ชาร์จกับคอมพิวเตอร์ หรือหัวชาร์จไฟขาเข้า 5V/1A
• ขณะชาร์จ กล่องชาร์จกระพริบไฟสีขาว
• ชาร์จเต็มแล้ว : ไฟขึ้นสีขาวค้าง
• กล่องชาร์จใช้เวลาชาร์จประมาณ 2 ชั่วโมง

**ไม่แนะนำให้ใช้หัวชาร์จประเภท Quick Charge หรือหัวชาร์จที่มีกำลังไฟเกิน 5V/1A เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่หูฟัง กล่องชาร์จ เสียหายได้**

กล่องชาร์จ (ชาร์จไร้สาย)

• วางกล่องชาร์จลงบนแท่นชาร์จจนไฟกล่องชาร์จกระพริบสีขาว
• เมื่อชาร์จเต็มแล้ว ไฟขึ้นสีขาวค้าง
• การชาร์จกล่องชาร์จแบบไร้สาย ใช้เวลาขาร์จประมาณ 3 ชั่วโมง

หูฟัง

• เก็บหูฟังลงกล่องชาร์จแล้วปิดฝา
• หูฟังใช้เวลาชาร์จประมาณ 1 ชั่วโมงหรือมากกว่าจนเต็ม 100%

ไฟสถานะต่างๆ

กล่องชาร์จ

**เปิดแล้วปิดฝากล่องชาร์จเพื่อเช็คแบตเตอรี่กล่องชาร์จ**

• ไฟสีขาวติดประมาณ 3 วินาที : กล่องชาร์จเหลือแบตเตอรี่มากกว่า 30%
• ไฟสีขาวกระพริบ 3 ครั้ง : กล่องชาร์จเหลือแบตเตอรี่น้อยกว่า 30%
• ไฟสีขาวกระพริบ 1 ครั้ง : กล่องชาร์จเหลือแบตเตอรี่น้อยกว่า 10%
• ไม่มีไฟติดเลย : กล่องชาร์จแบตเตอรี่หมด โปรดชาร์จแบตฯ

หูฟัง

• Power on : หูฟังกระพริบไฟสีนํ้าเงิน 1 วินาที
• Power off : หูฟังกระพริบไฟสีขาว 1 วินาที
• โหมดจับคู่ (Pairing Mode) : หูฟังกระพริบไฟสีนํ้าเงิน

การ Factory Reset

1. ตัดการเชื่อมต่อบลูทูธ แล้วลบชื่อ Earfun Free Pro 2 ออกจากอุปกรณ์
2. เก็บหูฟังลงกล่องชาร์จแต่อย่าเพิ่งปิดฝา
3. แตะหูฟังทั้งสองข้างค้างไว้ประมาณ 10 วินาที หรือจนกว่าหูฟังจะกระพริบไฟสีนํ้าเงินสลับสีขาวแล้วปล่อยนิ้ว
4. รอให้สเตปไฟวิ่งไปสักพัก จนไฟหูฟังกลับมากระพริบสีนํ้าเงินทั้งสองข้าง เป็นอันเสร็จสิ้นครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง (Product Included)

• หูฟัง Earfun Free Pro 2 จำนวน 1 คู่
• กล่องชาร์จ Earfun Free Pro 2 จำนวน 1 กล่อง
• จุกหูฟังซิลิโคนจำนวน 4 คู่ (XS,S,M,L)
• ปีกซิลิโคน ear hook จำนวน 3 คู่ (S,M,L)
• สายชาร์จ USB-C จำนวน 1 เส้น
• ไม้ทำความสะอาดหูฟังจำนวน 1 อัน
• คู่มือการใช้งาน

เงื่อนไขการประกันสินค้า (Warranty)

• รับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง Earfun กำหนด
• *** ในส่วนของอะไหล่,สายชาร์จ,เคสชาร์จ,จุกหูฟัง,Earwings ทุกแบบทุกขนาด ที่มากับตัวหูฟังจะมีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน ***
• คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวหูฟังทั้งสองข้าง, สายชาร์จ ,จุกหูฟังซิลิโคนทุกแบบ, Earwings ทุกขนาด รวมถึงคู่มือการใช้งาน
• หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของทางโรงงาน เปลี่ยนตัวใหม่ให้ทันที
• สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง
• หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น สายขาดใน, แจ็คหัก, ฝาเคสชาร์จหัก,สายยางซิลิโคนของเคสชาร์จขาด, เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นหูฟังผิดวิธี(ใช้แอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• ปัญหาการคุยโทรศัพท์แล้วเป็นเสียงที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดตัวหูฟังอีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• อาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***เช่น กำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดหายแล้วกลับมาเป็นปกติ *** ซึ่งจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• หากตัวหูฟังหรือชิ้นส่วนของกล่องชาร์จเสียหรือชำรุด ที่เกิดจากการใช้งานไปแล้วเกินกว่า 7 วัน จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• สินค้ารุ่นนี้มีมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX5 ป้องกันแค่เหงื่อจากการใช้งานประจำวันเท่านั้น หากสินค้าเสียหายจากการลงไปแช่น้ำหรือจากแรงดันน้ำสูงๆในทุกกรณี จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• หากแบตเตอรี่หูฟัง กล่องชาร์จ เสียหายจากการใช้หัวชาร์จผิดประเภท จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน