Fender Tour

หูฟัง true wireless ไมค์ 4 ตัว กันละอองนํ้า IPX4

รายละเอียดเสียงเที่ยงตรง แม่นยำทุกเม็ด

425Audio สรุปชัดๆ :

• ทีมงาน 425Audio ขอแนะนำ “Fender Tour” สำหรับลูกค้าที่กำลังหาหูฟัง true wireless เน้นฟังเพลงอย่างจริงจัง เนื่องจากเจ้า Fender Tour นั้นเป็นหูฟัง true wireless ที่ให้โทนเสียงได้โดดเด่นมากๆ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์การใช้งานทั่วไปที่สามารถใช้งานได้ดีอีกด้วย
• Fender Tour นั้นเป็นหูฟัง true wireless ที่ขุดรายละเอียดเสียงดนตรีออกมาได้เทพมาก โทนเสียงจะออกแนว flat แต่เป็นแนว flat ที่ยังพอได้ความสนุกจากย่านเสียงเบสที่ออกเป็นลูกมีมวล แรงปะทะดี ซึ่งน่าจะตอบสนองเหล่านักฟังเพลงหูทองหลายๆท่านได้อย่างดีเลยครับ
• ดีไซน์มีความ ergonomic การสวมใส่กระชับโดดเด่นมากๆ บอดี้หูฟังแนบเข้าไปในช่องหูได้เรียบเนียนไปกับใบหู ไม่ยื่นออกมาจนดูตลก อีกทั้ง passive noise isolation ยังกันเสียงรอบข้างได้ดีมาก ใส่เงียบกริ๊บเลย นอกจากจะให้สุ่มเสียงที่รายละเอียดสูงแล้ว ยังมาพร้อมกับไมโครโฟนจำนวน 4 ตัว แบ่งเป็น 2 ตัวต่อข้าง ที่ทีมงาน 425Audio ทดสอบแล้วว่าใช้คุยในชีวิตประจำวันได้ดีเลยครับ

ประสบการณ์การใช้งานจริงจากทีมงาน 425Audio

• ดีไซน์ : ดีไซน์มาได้สวยงามมากๆ มาในทรง in-ear monitor ที่ให้อารมณ์แบบเดียวกับหูฟัง custom ตัวถังใช้วัสดุพลาสติกแข็งเคลือบเงา ใช้เทคนิคการขึ้นรูปแบบ 3D-printing สัมผัสดี ดูแข็งแรง กล่องชาร์จดีไซน์มาหล่อมาก รูปทรงคล้ายกล่องเก็บกีต้าร์แบบ hard case ขนาดเล็ก นํ้าหนักเบา โดยรวมแล้ว Fender Tour มีดีไซน์ที่ดูดีเป็นเอกลักษณ์มากๆครับ

• การพกพา : ด้วยขนาดกล่องชาร์จที่เล็ก กว้าง 38 มม. ยาว 66.28 มม. อีกทั้งมีนํ้าหนักเพียง 50 กรัม สำหรับแอดมินแล้วมันพกพาสะดวกมากๆ เก็บในกระเป๋าสะพายก็ไม่กินเนื้อที่ หรือจะใส่กระเป๋ากางเกงก็สบายกระเป๋า ไม่หนัก โดยรวมแล้วเรื่องการพกพานั้นจัดในระดับที่ดีมากครับ

• การสวมใส่ : อันนี้แอดมินว้าวมาก Fender Tour ให้การสวมใส่ที่กระชับแน่นมากๆ ด้วยรูปทรงที่มีความ ergonomic สูงกว่าหูฟัง true wireless ทั่วไป ช่วยให้ใส่ได้พอดีกับทุกช่องหู และเวลาใส่ตัวถังหูฟังจะแนบสนิทไปกับช่องหูชั้นใน ใส่แล้วดูไม่ยื่นออกมามากเกินไป อีกทั้งเรื่องซีลกันเสียงภายนอกจัดว่ายอดเยี่ยมมาก ส่วนตัวแอดมินคิดว่าเป็นหูฟังที่ใส่เงียบมากๆน้องๆเหมือนใช้ระบบตัดเสียงรอบข้าง active noise cancelling เลยครับ

• แบตเตอรี่ : การเล่นต่อเนื่องของ Fender Tour ผู้ผลิตเคลมว่าสามารถเล่นได้สูงสุด 5 ชั่วโมง ต่อชาร์จ 1 รอบ และชาร์จเพิ่มจากกล่องชาร์จได้สูงสุดอีก 3 รอบ จากการใช้งานจริงของแอดมินแล้ว แอดมินใช้งานได้ประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่งในระดับความดังที่ 60% ซึ่งเรื่องแบตเตอรี่ถือว่าทำได้ดี ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีหูฟัง true wireless ที่ราคาถูกกว่าแต่มีแบตเตอรี่ที่เยอะกว่า แต่สำหรับบางท่าน 4-5 ชั่วโมงกับการใช้งานแต่ละวันก็นับว่าเพียงพอแล้วครับ

• เสียง : Fender Tour เป็นหูฟังที่ให้เสียงออกไปทาง flat เน้นรายละเอียดเสียงและความเที่ยงตรงของเสียงดนตรีสูง จุดที่แอดมินชอบที่สุดเลยคือมันสามารถให้แรงปะทะของย่านเสียงกลางได้ชัดเจน รู้สึกจับต้องได้ ทำให้การฟังเพลงมันได้เสพความหนักและความเบาของเสียงดนตรีในเพลง ช่วยให้การฟังเพลงดูมีมิติขึ้น และฟังดูมีความเป็นดนตรีสูงจริงๆครับ
• คุยโทรศัพท์ : นอกจากจะฟังเพลงดีแล้ว Fender Tour ยังใช้คุยโทรศัพท์ได้ดีทีเดียวครับ โดยมันติดตั้งไมค์มาให้ 4 ตัว แบ่งเป็น 2 ตัวต่อหูฟัง 1 ข้าง เท่าที่แอดมินทดลองใช้คุยโทรศัพท์ ถ้าคุยในบ้านหรือที่ทำงานที่ไม่มีเสียงรบกวนมาก เจ้า Fender Tour คุยได้สบายๆ เสียงชัดตลอดสายเลย แต่ถ้าใช้คุยนอกอาคารอย่างริมถนนใหญ่หรือห้างสรรพสินค้าที่มีเสียงรบกวน Fender Tour จัดอยู่ในระดับที่พอใช้คุยได้ ปลายสายยังได้ยินเสียงรอบตัวอยู่บ้าง แต่เสียงพูดของเราก็ยังฟังชัด ซึ่งในเรื่องคุยโทรศัพท์เนี่ย จัดว่าคุยชัดเสียงคมใสทีเดียว ใช้คุยในชีวิตประจำวันได้ดีครับ

• ดูคลิปออนไลน์ : เท่าที่แอดมินใช้ดู Youtube, Netflix และ Facebook clips แอดมินสามารถใช้ดูได้ครับ แต่ถ้าจับผิดแบบหนักๆจริงๆ (ยํ้าว่าหนักจริงๆ) จะรู้สึกอยู่ติ๊ดเดียว ถ้าให้กะตัวเลขแอดมินให้มันอยู่ที่ประมาณ 100ms แต่ถ้าใช้ดูจริงๆ และดูเอาความบรรเทิงเราจะรู้สึกว่าเสียงตรงกับภาพดี ในเรื่องการดูคลิปออนไลน์ Fender Tour ใช้ดูได้สบายๆครับ

• การเล่นเกมส์ : แอดมินใช้เล่นเกมส์แนว FPS เช่น PUBG, Call of Duty Mobile จัดอยู่ในระดับที่ดีเลย์เล็กน้อยครับ กะด้วยความรู้สึกคือดีเลย์ประมาณเกือบ 0.5 วินาที ซึ่งก็จัดอยู่ในระดับที่พอใช้เล่นได้ครับ ส่วนเกมส์แนวอื่นๆอย่าง ROV, League of Legend Wildrift นั้นดีเลย์ติ๊ดเดียว เสียงสกีลไปพร้อมๆกับภาพ ซึ่งจัดอยู่ในระดับที่ใช้เล่นเกมส์แนวๆนี้ได้ครับ

Gallery :

Sound Review (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425 นะครับ)

• เสียงเบส : เสียงเบสเนื้อเสียงหนากระชับ mid-bass ออกชัดเป็นลูก เสียงเบสลงได้ตํ่ามาก subbass หนาและชัด อิมแพ็คดีฟังสนุก รายละเอียดเสียงเบสออกชัดยอดเยี่ยม โดยรวมแล้วเสียงเบสจะมวลหนากำลังดี ฟังดูสมจริงแบบไม่เวอร์วังมากแต่ในขณะเดียวกันก็ยังได้อิมแพ็คดีๆ ช่วยให้ฟังแน่นและสนุกยิ่งขึ้นครับ
• เสียงกลาง : ขับรายละเอียดเสียงกีต้าร์ออกมาได้สด ชัดเจน เสียงตีคอร์ดกีต้าร์มีเนื้อหนัง รายละเอียดยอดเยี่ยม ไม่พร่ามัว เสียงร้องหวานเนียนฟังลื่นหู ได้นํ้าได้เนื้อเต็มๆ
• เสียงแหลม : เสียงแหลมจะออกกลางๆ ไม่จัดจ้านมาก แต่ขับรายละเอียดเสียงแหลมออกมาได้ดีเยี่ยม เสียงแหลมจะถอยหลังจากเสียงกลางและเสียงเบสเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้ว เสียงกระดิ่ง เสียงฉาบแฉกลองชุดยังได้รายละเอียดเสียงที่ดี ไม่ทิ่มหู ฟังสบายและฟังง่ายครับ
• เวทีเสียง : เวทีเสียงอยู่ในระดับปานกลางค่อนไปทางกว้าง และมีความลึกและความตื้นที่ฟังได้ชัดเจน การแยกเสียงดนตรีมีระยะห่าง มีช่องไฟ เสียงดนตรีฟังดูเป็นตัวๆที่เรียงรายอยู่บนสนามเสียงได้สวยงาม และฟังดูเหมาะสมครับ
• สรุป : โทนเสียงของ Fender Tour จะออกไปทาง flat หรือออกไปทางกลางๆ เสียงเบส เสียงกลางและเสียงแหลมฟังดูสมดุลย์กัน ให้ความรู้สึกที่ฟังดูเป็นธรรมชาติ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังได้อิมแพ็คจากเสียงกลางและเสียงเบสที่ฟังดูหนาและแน่นขึ้นมาหน่อย ช่วยให้โทนเสียงโดยรวมไม่จืดจนเกินไป ใครชอบหูฟังโทนเสียง flat ฟังดูเป็นธรรมชาติแบบที่พอมีเสียงเบสแน่นๆฟังสนุก Fender Tour ตอบโจทย์มากครับ

การใช้งาน Fender Tour เบื้องต้น

การเชื่อมต่อ Bluetooth ครั้งแรก

1. เปิดฝากล่องชาร์จ รอจนกว่าหูฟังข้าง L กระพริบไฟสีเขียว
2. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ ค้นหาชื่อ “Fender Tour” แล้วกดเชื่อมต่อเป็นอันเสร็จสิ้นครับ
3. เมื่อเลิกใช้งานแล้ว ให้เก็บหูฟังทั้งสองข้างลงกล่องชาร์จ ปิดฝา หูฟังจะตัดการเชื่อมต่ออัตโนมัติ
4. ในการเชื่อมต่อครั้งต่อไป ให้เปิด Bluetooth จากนั้นเปิดฝากล่องชาร์จหูฟัง ฟังจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ล่าสุดให้อัตโนมัติ

การเชื่อมต่อ Bluetooth กับอุปกรณ์ใหม่

1. ขณะหูฟังอยู่ในกล่องชาร์จ กดปุ่ม “F” บนกล่องชาร์จ (ระหว่างแท่นชาร์หูฟังทั้งสองข้าง) ค้างไว้ประมาณ 3 วินาที เมื่อไฟหน้ากล่องชาร์จขึ้นไฟสีเขียวให้ปล่อยนิ้ว แล้วหูฟังจะตัดการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์เครื่องเก่าแล้วเข้าสู่โหมดจับคู่ครับ
2. ขณะที่หูฟังข้าง L กระพริบไฟสีเขียว ให้เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ใหม่ แล้วเลือกเชื่อมต่อกับชื่อ “Fender Tour” เป็นอันเสร็จสิ้นครับ

การเชื่อมต่อ Fender Tour กับแอปพลิเคชั่น Fender Tour

1. โหลดแอปพลิเคชั่น “Fender Tour” มาติดตั้งในอุปกรณ์ (iOS & Android)
2. เปิดฝากล่องชาร์จ และทำการเชื่อมต่อ Bluetooth ตามวิธีการเชื่อมต่อด้านบน
3. เมื่อเชื่อมต่อแล้ว ให้เข้าแอปพลิเคชั่น “Fender Tour”
4. แอปพลิเคชั่นจะทำการ searching ให้รอสักครู่ เมื่อเสร็จแล้ว ให้แตะเลือก “Fender Tour”
5. หลังจากนั้นจะมีข้อความปรากฏขึ้น ให้เลือก “Pair”
6. เมื่อเลือกแล้ว แอปพลิเคชั่นจะพาเข้าสู่เมนูการใช้งาน เป็นอันเสร็จสิ้นครับ

คำอธิบายเมนูต่างๆของแอปพลิเคชั่น “Fender Tour”

• Gain : ใช้สำหรับบูสเสียงหูฟังให้มีกำลังขับมากขึ้น เสียงดังขึ้น
• EQ : ใช้สำหรับปรับ EQ เสียง โดยจะมีให้เลือก presets เสียง และมี EQ แบบ 7 bands ให้ปรับเสียง EQ แบบ manual
• Update : ใช้สำหรับอัพเดท Firmware หูฟัง
• Settings : ฬช้สำหรับตั้งค่าปุ่มฟังชั่นบนหูฟังตามต้องการ
• INFO : ใช้สำหรับดูรายละเอียดและข้อมูลต่างๆของหูฟังเช่น แบตเตอรี่คงเหลือของหูฟัง, เวอร์ชั่น Firmware ของหูฟัง และดูคู่มือการใช้งานเบื้องต้น เป็นต้น

***หากอยู่ในโหมดใช้หูฟังข้าง R ข้างเดียว จะไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชั่น Fender Tour ได้ ต้องทำการเชื่อมต่อหูฟังข้างหลัก (ข้าง L) ก่อน จึงจะสามารถใช้งานแอปพลิเคชั่นได้

การใช้งานหูฟังข้างเดียว (Single Earbuds Mode)

1. เชื่อมต่อหูฟังทั้งสองข้าง
2. หยิบเฉพาะหูฟังข้าง L ขึ้นมาใส่ และใช้งานได้เลยครับ
3. หากต้องการกลับมาใช้งานสองข้าง ให้หยิบหูฟังข้าง R ขึ้นมาใส่ หูฟังจะซิงค์จับคู่กันเองโดยอัตโนมัติครับ

***ค่าโรงงานหูฟังข้าง L จะเป็นข้างหลักครับ

การใช้งานหูฟังข้าง R ข้างเดียว (Single Earbuds on Sub Earbuds Mode)

1. เปิดฝากล่องชาร์จ ขณะหูฟังทั้งสองข้างอยู่ในกล่องชาร์จ กดปุ่ม “F” บนกล่องชาร์จค้างไว้ประมาณ 10-12 วินาที สังเกตุไฟหน้ากล่องชาร์จ เมื่อไฟหน้ากล่องชาร์จกระพริบไฟสีนํ้าเงินติดกันให้รีบปล่อยนิ้วครับ
2. เมื่อปล่อยนิ้วตอนไฟหน้ากล่องชาร์จกระพริบสีนํ้าเงินติดต่อกันแล้ว สังเกตุที่ไฟบนหูฟัง หูฟังข้าง R จะกระพริบไฟสีเขียวครับ
3. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ ค้นหาชื่อ “Fender R” แล้วกดเชื่อมต่อ เป็นอันเสร็จสิ้นครับ
4. หากต้องการกลับมาใช้งานสองข้าง ให้หยิบหูฟังข้าง R ขึ้นมาใส่ หูฟังจะซิงค์จับคู่กันเองโดยอัตโนมัติครับ

การควบคุม

การชาร์จแบตเตอรี่

หูฟัง

1. เก็บหูฟังทั้งสองข้างลงกล่องชาร์จ ปิดฝา หูฟังจะเข้าโหมดชาร์จแบตเตอรี่จากกล่องชาร์จ
2. หูฟังใช้เวลาชาร์จประมาณ 2 ชั่วโมง

กล่องชาร์จ

1. เสียบสายชาร์จ USB-C ที่มากับกล่องชาร์จกับคอมพิวเตอร์,แล็ปท๊อป หรือปลั๊กไฟบ้านผ่านหัวชาร์จ 5V/1A ครับ
2. ขณะชาร์จ ไฟหน้ากล่องจะขึ้นไฟสีแดงข้าง
3. เมื่อชาร์จเต็มแล้ว ไฟหน้ากล่องชาร์จจะขึ้นไฟสีเขียวค้าง

ไฟสถานะ

หูฟัง

• โหมดจับคู่ : หูฟังข้าง L กระพริบไฟสีเขียว, หูฟังข้าง R ไม่มีไฟ

กล่องชาร์จ

• กล่องชาร์จกำลังชาร์จแบตเตอรี่ : ไฟสีแดงขึ้นค้าง
• กล่องชาร์จชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้ว : ไฟสีเขียวขึ้นค้าง

การ Reset Factory

1. ลบชื่อ Bluetooth “Fender Tour” ออกจากอุปกรณ์ พร้อมทั้งปิด Bluetooth
2. เก็บหูฟังทั้งสองข้างลงกล่องชาร์จ กดปุ่ม “F” บนกล่องชาร์จค้างไว้ประมาณ 12 วินาที
3. สังเกตุไฟหน้ากล่องขาร์จ เมื่อไฟหน้ากล่องชาร์จกระพริบไฟสีเขียวติดกันให้รีบปล่อยนิ้วแล้วปิดฝากล่องชาร์จทิ้งไว้ประมาณ 10 วินาที หลังจากนั้นเปิดฝาแล้วเชื่อมต่อใช้งานใหม่ได้เลยครับ

Product Specification (สเปคสินค้า)

• Fender Tour หูฟัง true wireless ดีไซน์สวยงาม ใส่หล่อบาดใจ เสียงดีระดับ Fender
• เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 ชิปฯ Qualcomm ระยะสัญญาณไกลถึง 10 เมตร (ไม่มีสิ่งกีดขวาง)
• รองรับ SBC, AAC และ aptX™ เชื่อมต่อสเถียรทั้ง iOS และ Android
• ไดร์เวอร์ Dynamic Fixed Brake Ring ขนาด 7 มม. ให้รายละเอียดเสียงครบถ้วน โดดเด่น
• ความไวในการตอบสนองที่ 110 + 3dB ที่ 1 Hz
• ตอบสนองความถี่เสียงได้ตั้งแต่ 20Hz - 20kHz
• กันละอองนํ้าระดับ IPX4 ใส่ฟังเพลงกันเหงื่อในชีวิตประจำวันได้
• เล่นต่อเนื่องได้สูงสุด 5 ชั่วโมงต่อชาร์จ 1 รอบ (ขึ้นอยู่กับการใช้งานและความดัง)
• กล่องชาร์จ ชาร์จหูฟังได้สูงสุด 3 รอบ รวมสูงสุด 22 ชั่วโมง
• หูฟังและกล่องชาร์จใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ประมาณ 2 ชั่วโมงจนเต็ม
• หูฟังมีระบบชาร์จเร็ว (Fast-charge) ชาร์จเพียง 15 นาทีสามารถเล่นได้สูงสุด 1 ชั่วโมง

Product Included (อุปกรณ์ภายในกล่อง)

• หูฟัง Fender Tour จำนวน 1 คู่
• กล่องชาร์จ Fender Tour x1
• จุกหูฟังซิลิโคน x3 (S/M/L)
• สายคล้องกล่องชาร์จ x1
• สายชาร์จ USB-C x1
• คู่มือการใช้งาน

Warranty (เงื่อนไขการรับประกันสินค้า)

• รับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง fender กำหนด
• *** ในส่วนของอะไหล่,สายชาร์จ,เคสชาร์จ,และอื่นๆที่มากับตัวหูฟังจะมีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน ***
• คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวหูฟังทั้งสองข้าง, สายชาร์จ ,จุกหูฟังซิลิโคนทุกแบบ,รวมถึงคู่มือบุ๊คเลททุกเล่มเอาไว้ให้ครบ
• หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของทางโรงงาน มีตำหนิจากการเปิดกล่องครั้งแรก ยินดีเปลี่ยนสินค้าใหม่ให้ โดยมีระยะเวลาในการแจ้งไม่เกิน 7 วันนับตั้งแต่ได้รับสินค้าวันแรก หากเกินหลังจากนั้น จะไม่รับประกันในทุกรณี
• สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง
• หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น สายขาดใน, แจ็คหัก, ฝาเคสชาร์จหัก,ก้านหูฟังหัก , สายยางซิลิโคนของเคสชาร์จขาด, เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นหูฟังผิดวิธี(ใชแอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• ปัญหาการคุยโทรศัพท์แล้วเป็นเสียงที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดตัวหูฟังอีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• อาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***เช่น กำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดหายแล้วกลับมาเป็นปกติ *** ซึ่งจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• สินค้ารุ่นนี้มีมาตรฐานการกันน้ำที่ระดับ IPX4 ซึ่งเป็นการกันละอองน้ำและเหงื่อจากการออกกำลังกายเท่านั้น หากสินค้าเสียหายจากการลงไปแช่น้ำหรือจากแรงดันน้ำสูงๆ หรือจากนํ้าที่มีความเข้มข้นของเกลือสูง อันเป็นเหตุทำให้หูฟังและกล่องชาร์จเสียหาย จะถือว่าใช้งานผิดวิธี และจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันครับ