• สวัสดีเพื่อนๆ 425DEGREE ทุกๆท่านนะครับ สำหรับในเนื้อหาบทความนี้ทีมงาน 425Audio จะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับ หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ของ JBL ที่มีทั้งทรงหูฟังไร้สาย True Wireless รวมไปถึงหูฟังครอบหูแบบ Headphone ซึ่งทั้ง 3 รุ่นนี้กำลังร้อนแรงและได้ความนิยมในช่วงปี 2023 เป็นอย่างมากครับ

1. JBL Tune Flex True Wireless <<< คลิ๊กชมรายละเอียด

“2 IN 1 เป็นได้ทั้ง In-Ear, Earbuds”

• สำหรับหูฟังไร้สาย JBL Tune Flex True Wireless นี้ถือว่าเป็นรุ่นที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ทีมงานโดยมิใช่น้อย ด้วยคุณสมบัติของหูฟังเองที่สามารถปรับแต่งให้เป็นได้ทั้ง 2 ทรงในตัวเดียว (2 In 1) นั่นได้แก่ทรง Earbuds, In-Ear เพียงแค่ปรับเปลี่ยนจากจุกหูฟังที่แถมให้มาในกล่องได้อย่างง่ายดายครับ ทำให้เป็นหูฟังไร้สายที่สามารถรองรับกับสรีระร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าคุณจะเลือกสัมผัสแบบกระชับ หรือเลือกสัมผัสแบบสบายก็สามารถทำได้ในตัวเดียว

Feature

• จุกหูฟังปรับแต่งได้ 2 ทรง (In-Ear, Earbuds)
• การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2
• กันละอองน้ำและเหงื่อระดับ IPX4
• โหมดตัดเสียงรบกวนแบบ Active Noise Cancelling, Smart Ambient, TalkThru
• ไมโครโฟนภายใน 4 ตัว ที่ใช้คุยโทรศัพท์ได้สะดวกสบายมากๆทั้งในสถานที่แบบ Indoor และ Outdoor
• แอพฯ JBL Headphones App ปรับตั้งค่าเสียงของหูฟังได้
• แบตฯยาวนานสูงสุด 8 ชม. รวมกล่องชาร์จ 32 ชม.

Sound

• แนวเสียงหรือคาแรคเตอร์รวมๆของ หูฟังไร้สาย JBL Tune Flex True Wireless ยังมาพร้อมคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนตามสไตล์แบรนด์ JBL โดยเนื้อเสียงและมวลรวมของเสียงในย่านต่างๆมีความคมชัด แน่น กระแทกกระทั้ัน ฟังสนุกครับ และยังมีการแยกคาแรคเตอร์เสียงกันออกไปอีกในการเลือกใช้งานในจุกหูฟังแบบต่างๆ (In-Ear, Earbuds)
• สำหรับจุกหูฟังแบบ In-Ear ตัวหูฟังจะมีการตอบสนองของย่านเสียงต่ำหรือ Low Bass ที่ล้วงลงได้ลึก มีการตอบสนองให้ชิ้นดนตรีของเสียงกระเดื่องกลอง(Kick Drums) หรือกีตาร์เบสได้ชัดเจน ทำให้การฟังหรือจับเสียงหัวโน้ตในชิ้นดนตรีเหล่านั้นทำได้ง่ายมากๆ ส่วนเสียงในย่านกลางและย่านสูงจะมีความสมดุลหรือให้ความรู้สึกการฟังที่ Balance ได้อย่างมีขอบเขต โดยที่ยังคงให้ความแข็งแรง หรือความคมชัดของเสียงชิ้นดนตรีต่างๆได้ตรงสไตล์ JBL ครับ
• สำหรับจุกหูฟังแบบ Earbuds ตัวหูฟังจะมีการตอบสนองของเสียงที่สมดุลหรือ Balance ของทั้ง 3 ย่านเสียงไว้ได้ดีกว่าจุกแบบ In-Ear ครับ แต่โดยรวมแล้วยังมีการให้เสียงย่านต่ำหรือ Low Bass ที่ดีกว่าหูฟังทรง Earbuds ทั่วไปตามท้องตลาดครับ และยังมาพร้อมย่านเสียงกลางและสูงที่ยังคงชัดเจน ไม่โดนบดบังเหมือนเดิม ซึ่งทีมงานเองต้องบอกเลยว่า หากเพื่อนๆที่กำลังมองหาหูฟัง Earbuds เบสแจ่มๆ ตัวนี้ตอบโจทย์เพื่อนๆได้แน่นอนครับ

2. JBL Live Pro 2 True Wireless<<< คลิ๊กชมรายละเอียด

“หรูหรา..เสียงสุดของ JBL”

• สำหรับหูฟังไร้สาย JBL Live Pro 2 True Wireless รุ่นนี้ นับว่าเป็นตัวท๊อปหรือตัวเรือธงของ JBL เลยก็ว่าได้ครับ โดยเท่าที่ทางทีมงานได้ลองใช้งานจริงๆ ต้องยอมรับว่าประทับใจกับคุณภาพของเสียงมากๆ ที่โดยรวมให้โทนเสียงที่เป็นธรรมชาติ รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีต่างๆมีสไตล์ที่คมชัดกำลังดีโดยที่ ไม่บวมไป หรือไม่แหลมจนเกินไป มีความเนียนฟังได้เรื่อยๆ แต่ยังคงสไตล์เสียงในแบบที่ฉะฉานตามคาแรคเตอร์เสียงของ JBL ไว้ได้
• นอกจากเรื่องเสียงแล้วเจ้าตัว  JBL Live Pro 2 ตัวนี้ยังมีเทคโนโลยีต่างๆที่เพียบพร้อม เรียกได้ว่า “ราคาสูง แต่ก็มาพร้อมสเปคคุ้มราคาเช่นกัน” หากเพื่อนๆที่กำลังมองหาหูฟังตัวจบๆ และชื่นชอบแบรนด์ JBL อยู่แล้วเนี่ย รุ่นนี้ไม่ควรพลาด!

Feature

• โหมดตัดเสียงรบกวน ANC, Ambient, TalkThru 
• รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 
• ฟีเจอร์ Multipoint ที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกันได้ 2 เครื่อง
• ไมโครโฟนภายในถึง 6 ตัว คุยโทรศัพท์ชัดเจน
• ฟีเจอร์ Auto Play-Pause
• Video Mode ดูหนังไร้ดีเลย์
• รองรับแอพฯ JBL Headphone ตั้งค่าหูฟัง รวมถึงการปรับ EQ เสียง
• แบตฯของหูฟังสูงสุด 8-10 ชม. รวมชาร์จกับเคสได้สูงสุด 40 ชม. 
• และรองรับ Wireless Charge
• กันเหงื่อและน้ำระดับ IPX5

Sound

• สำหรับโดยรวมของ JBL Live Pro 2 True Wireless นี้ถือว่าเป็นหูฟังไร้สายที่ให้คาแรคเตอร์เสียงมาได้เข้าใกล้สไตล์เสียงของลำโพงใหญ่ของแบรนด์มากที่สุดแล้ว โดยที่เนื้อหรือโทนเสียงรวมๆมีความเป็นธรรมชาติของเสียงต่างๆดี ได้โทนเสียงที่ฟังชัดเจน ฟังสนุก ในทั้งนี้ทั้งนั้นยังมาพร้อมความเนียนในการรับฟังที่ดี ไม่ได้รู้สึกอึดอัด ผสมผสานกับความโปร่ง-กว้างในการฟังของ Sound Stage ที่ดีในระดับหูฟังไร้สายครับ
• โทนเสียงย่านต่ำหรือเบสจะมีความเป็นผู้ใหญ่ที่ดูสุขุมมากขึ้น โดยมีการเน้นความสะอาด กระชับ รวดเร็วในการเก็บตัวได้ดี ทำให้การฟังโดยรวมยังได้ความหนักแน่นที่ดี แต่ไม่ได้รู้สึกอึดอัด
• เสียงย่านกลางสามารถลงรายละเอียดหรือ Detail ของเสียงได้อยู่ในระดับที่เรียกว่า เสียงร้องยังฟังได้เป็นคำที่ชัดเจน แต่เนื้อเสียงอาจมีความนวลมากกว่าเสียงจริงเล็กน้อย ทำให้การฟังกับเพลงบางสไตล์ที่มีเนื้อหารายละเอียดดนตรีเยอะๆนั้นรู้สึกถึงความถดถอยของเสียงร้องลงไปอยู่บ้าง
• เสียงสูงหรือเสียงแหลมของ JBL Live Pro 2 มีความเนียนที่ผิดหูผิดตามากขึ้นกว่า เสียงของหูฟังของ JBL รุ่นที่ผ่านๆมาอย่าง JBL Live Pro Plus เล็กน้อย  ซึ่งโดยรวมแล้วเรายังสามารถจับต้องรายละเอียดชิ้นเล็ก ชิ้นน้อยจากดนตรีได้ไม่ยากครับ แต่หากเพื่อนๆชื่นชอบความคมชัดในแบบที่เรียกว่า จัดจ้านมากกว่านี้ อาจต้องไป EQ เสียงเพิ่มในแอพฯอีกหน่อยครับ

3. JBL Tune 710 BT Wireless Full-Size Headphone<<< คลิ๊กชมรายละเอียด

“ครอบหู…เสียงคุ้มราคาที่สุด”

• JBL Tune 710 BT เป็นหูฟังครอบหูแบบ Over-Ear Wireless Headphone ที่โดดเด่นไปในทาง “ราคาที่คุ้มค่า จับต้องได้ง่ายๆ” เหมาะกับเพื่อนๆที่กำลังมองหาหูฟังครอบหูสักตัวไว้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั้งแบบไร้สาย(บลูทูธ) ที่แบตฯอึดถึง 50 ชม.สูงสุด หรือเสียบสาย AUX ต่อเข้ากับอุปกรณ์ง่ายๆก็สามารถใช้งานได้
• จุดเด่นของ JBL Tune 710 BT คือเรื่อง “คุณภาพเสียงครับ” ที่ทางทีมงานรู้สึกว่าไม่ได้เป็นตัวที่เสียงดีที่สุดของแบรนด์ แต่กลับเป็นรุ่นที่ “ให้คุณภาพเสียงได้คุ้มค่าตัวมากที่สุด”
• หากเพื่อนๆกำลังมองหาหูฟังทรงครอบหูไว้ฟังเพลง, ดูหนัง ซีรีย์, ออกกำลังกาย, เล่นเกม หูฟังไร้สาย JBL Tune 710 BT Wireless Headphone ตัวนี้ตอบโจทย์ได้คุ้มราคาแน่ๆครับ

Feature

• รองรับการใช้งานไร้สาย Bluetooth 5.0
• รองรับการใช้งานแบบเสียบสาย AUX 3.5 มม.
• ใช้งานไร้สายด้วยแบตฯยาวนานสูงสุด 50 ชม.
• รองรับโหมด Fast Charge 5 นาที เล่นได้ถึง 3 ชม.
• ช่องชาร์จแบบ USB Type-C
• ก้านหูฟังสามารถปรับระดับ สั้น-ยาวได้
• สามารถพับเก็บให้พกพาสะดวกได้ยิ่งขึ้น
• ไมโครโฟนสำหรับคุยโทรศัพท์ในตัว
• ควบคุมมัลติมีเดียได้ที่ตัวหูฟัง เพิ่ม-ลดเสียง, หยุด-เล่นเพลงบนหูฟัง

Sound

• คาแรคเตอร์เสียงของ JBL Tune 710 BT มีโทนเสียงโดยรวมที่ออกไปทางการให้เสียงทั้ง 3 ย่าน ในแบบ Balance ทางทีมงานเองถือว่าเป็น Wireless Full-Size Headphone หรือหูฟังไร้สายที่ตอบสนองเสียงได้สมจริงเกินราคา เนื้อเสียงของชิ้นดนตรีต่างๆมีความเป็นเสียงจริง หรือความเป็นธรรมชาติที่สูงเกินกว่าราคาครับ
• หากชื่นชอบแนวเสียงที่มีความกระหึ่ม หรือให้ความแน่นของเสียงที่เกินจริง JBL Tune 710 BT อาจยังไม่ได้ตอบโจทย์ได้ดีในแบบนั้นครับ แต่ถ้าหากว่าชื่นชอบเสียงที่มีความสมดุลที่ดี แต่ย่านเสียงสูงๆแอบมีความฟรุ๊งฟริ๊ง ไพเราะเกินจริงหน่อยๆ เจ้า JBL Tune 710 BT จะตอบโจทย์ในแบบนั้นได้แบบสบายๆครับ
• โทนเสียงเบสยังคงมีความรุกเร้า แรงปะทะที่ดีตามฉบับของ JBL ครับ แต่มีการปรับปรุงในเรื่องของเสียงที่เคลียร์มากยิ่งขึ้น โดยมีการเก็บตัวของเสียงที่เร็ว ทำให้เสียงไม่ไปบดบังกับความถี่เสียงย่านอื่นๆ
• ในส่วนของย่านเสียงกลางและแหลม มีความจี๊ดจ๊าดที่ดีครับ มีการเพิ่มคัลเลอร์ของเสียงชิ้นดนตรีอย่างเช่น เสียงของกีตาร์ไฟฟ้า, รวมไปถึงหางเสียงของนักร้องที่มีความพริ้วหรือใสยิ่งขึ้นกว่าต้นฉบับเล็กน้อย ทำให้การฟังโดยรวมกับพวกเพลง Pop-Rock, Metal นั้นมีความเคลียร์และความชัดเจนได้ดี โดยที่ยังไม่รู้สึกถึงความแหลมที่มากเกินไปครับ

สรุปฟีเจอร์หูฟัง JBL ทั้ง 3 รุ่น