17 เมษายน 2024 2117 ผู้เข้าชม
- สำหรับบทความนี้ 425Audio จะพาไปทำความรู้จักกับ ลำโพงบลูทูธไร้สาย (Bluetooth Speaker) รุ่นยอดฮิตที่ไม่ได้พึ่งฮิตแค่เฉพาะช่วงนี้ แต่จะรวมตัวที่ฮิตมานานแล้วด้วยครับ ซึ่งหลักๆจะมีแบรนด์ยอดนิยมมากมาย อาทิเช่น Bose, JBL, Harman/Kardon, Fender, Sony, W-King, Tronsmart พวกเรารวมข้อมูล รวมถึงสเปคที่โดดเด่นในแต่ละรุ่นแบบจบๆไว้ให้ในนี้ที่เดียว
- สำหรับเพื่อนๆที่มองหา ลำโพงบลูทูธไร้สาย (Bluetooth Speaker) ตั้งแต่งบหลักร้อย จนไปถึงระดับพรีเมี่ยมหลักหมื่น "เน้นดีไซน์สวย แบรนด์ดี แบรนด์ดัง" หรือ กำลังตามหา "ลำโพงเสียงดีๆ พกพาง่าย มีแบตเตอรี่ในตัว" รวมถึง "ลำโพงเน้นปาร์ตี้ เชื่อมต่อได้ครบเครื่องครบครัน" ที่ 425Audio มีครบทุกแบบครับ ไปดูกันเลยจ้า
1. Tronsmart T6 Mini
- เริ่มกันที่รุ่นย่อมเยา คุณภาพจับต้องได้ กับเจ้า Tronsmart T6 Mini ตัวนี้ครับ สำหรับรุ่นนี้ค่าตัวเพียงแค่หลักร้อย แต่โดยรวมแล้วใช้งานได้แบบสบายๆครับ โดยจุดเด่นคือเรื่องการพกพา ไม่ว่าจะเป็นการพกพาไปตามที่ต่างๆ หรือใช้ภายในบ้าน ภายในห้องก็หยิบจับเคลื่อนย้ายสะดวก เพราะไซส์เจ้าตัวมาแบบกะทัดรัดมาก
- เท่าที่ 425Audio ลองใช้งานจริงนั้นยอมรับเลยว่า แม้ว่าจะเป็นลำโพงไซส์เล็ก กำลังขับประมาณ 15 วัตต์ แต่เจ้าตัวยังมาพร้อมเสียงที่แน่น-หนา เสียงเบสไม่แห้ง ทำให้เราฟังเพลงอะไรก็ตามแต่ ก็ยังสามารถรับรู้ถึงแรงปะทะของเสียงได้ไม่ยาก เสียงร้องชัดเจน หนาเป็นธรรมชาติ เสียงแหลมไม่ทู่ โดยรวมแล้วใสกำลังดี ไม่สาก โดยรวมฟังแล้วได้อรรถรสสู้ลำโพงไซส์กลางๆได้สบายๆครับ
- สเปคต่างๆมาคุ้มค่าตั้งแต่การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 แบตเตอรี่ของ Tronsmart T6 Mini นี้มาพร้อมกับการฟังเพลงต่อเนื่องสูงสุด 24 ชม. สามารถรองรับการเสียบสาย AUX หรือ Micro-SD card (FLAC,MP3,Wav) เล่นเพลงได้ง่ายๆ สามารถใช้งานริมสระน้ำได้สบายใจ เพราะลำโพงสามารถกันน้ำได้ที่ระดับ IPX6 ด้วย และรองรับไมโครโฟนคุยโทรศัพท์กับลำโพงได้ในตัวครับ
- ถ้าคุณไม่ได้คาดหวังหรือติดตัวแบรนด์ที่ต้องเป็นแบรนด์ระดับสูง Tronsmart T6 Mini ตอบโจทย์ความคุ้มค่าแน่นอนครับ
2. JBL GO 3
- สำหรับแฟนๆเหล่าสาวกของ JBL คงปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ที่จะไม่รู้จักกับเจ้า JBL GO 3 ลำโพงตัวเล็กๆตัวนี้ เพราะนี่คือซีรีย์ลำโพงพกพาที่เรียกว่าเป็นที่นิยมกันมากที่สุดแล้ว ด้วยคุณลักษณะของตัวลำโพงเองที่มีความกะทัดรัด สะดวกสำหรับการพกพาติดตัวไปตามสถานที่หรือสถานการณ์ต่างๆ ใครที่เป็นสาวกของ JBL และต้องการลำโพงพกพาเสียงดี โทนเสียงคาแรคเตอร์ชัดเจนตามสไตล์แบรนด์ JBL GO 3 ตอบโ๗ทย์ได้แน่ๆ
- จุดเด่นของ JBL GO 3 เป็นเรื่องโทนเสียงที่คาแรคเตอร์เสียงชัดเจนจัดจ้าน โดยลำโพงสามารถตอบสนองเสียงย่านเบสได้ชัดเจนเกินไซส์ตัวมากๆ ใครชอบเสียงเบสอิ่มๆชัดๆหน่อย นี่คือลำโพงไซส์เล็กที่ฟังดีเลยทีเดียว ส่วนเสียงย่านอื่นๆก็ให้มาหนา-ชัดเจนไม่แพ้กัน เสียงกลางหรือเสียงย่านร้องมีความธรรมชาติสูง ฟังเสียงร้องในเพลงได้โดดออกมา เสียงแหลมหรือย่านสูงจะมีความใสที่ละมุนติดเนื้อของดนตรีหนาๆหน่อย ทำให้การฟังโดยรวมมีความชัดเจน แต่ไม่รู้สึกแสบห
- สำหรับสเปคของเจ้า JBL GO 3 ก็ต้องบอกว่าครบสมราคาครับ ตั้งแต่ ดอกลำโพงขนาด 1.5 นิ้ว เสียงดังเกินตัว ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 110 Hz. - 20 KHz. เรียกว่ารายละเอียดเสียงครบถ้วน ใช้งานต่อเนื่องสูงสุดได้ 5 ชม. (ขึ้นอยู่กับระดับเสียง) เชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth Version 5.1 ช่วยประหยัดแบตฯมากขึ้น โดยตัวลำโพงน้ำหนักเบาเพียงแค่ 0.209 กก. สามารถกันฝุ่นละออง,กันน้ำสูงระดับ IP67
- โดยรวมแล้วกับเจ้า JBL GO 3 ตัวนี้ถือว่าเป็นลำโพงไซส์เล็ก รุ่นที่จับต้องง่ายที่สุดแล้วของ JBL ถ้าหากใครเสพติดแนวเสียงที่คมชัด และเสพติดเสียงหนาๆชัดๆ กำลังมองหาลำโพงพกพาที่สามารถลุยกับเราไปได้ทุกที่ได้สะดวก JBL GO 3 ตัวนี้ก็ตอบโจทย์ได้สบายๆละครับ
3. W-KING T9
- สำหรับ W-KING T9 นี้นับว่าเป็นลำโพงที่ครบเครื่องที่สุดในคลาส หรือคุ้มที่สุดในย่านราคาไม่เกิน 4,000 บาทเลยก็ว่าได้ เพราะเจ้า W-KING T9 นี้มีจุดเด่นเป็นความอเนกประสงค์ครบครันการใช้งาน ไม่ว่าจะใช้เป็นลำโพงฟังเพลงชิลๆปกติ หรือใช้เป็นลำโพงปาร์ตี้กับเพื่อนๆที่บ้านก็ดี รวมไปถึงการใช้เป็นลำโพงประกาศตามงานต่างๆก็ใช้งานได้ไม่ยาก เพราะไซส์ลำโพงมาแบบไม่เล็ก-ไม่ใหญ่ สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย รวมถึงการใช้งานที่มาพร้อมกับไมค์ลอย หรือไมโครโฟนไร้สาย ตัวไมค์ให้ความชัดเจนเป็นธรรมชาติของเสียงที่ดีมากๆ รวมถึงการปรับแต่งเสียงเอฟเฟคเสียงร้องต่างๆให้ไพเราะขึ้น W-KING T9 ก็สามารถปรับได้ง่ายครับ
- สำหรับสเปคโดยรวมของ W-KING T9 นี้ ถือว่าอัดแน่นเกินราคา ตั้งแต่การให้กำลังขับเฉลี่ยที่ 80W ดีไซน์วางได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน มีไมค์ไร้สาย Wireless ในแพ็คเกจ หน้าลำโพงมีวงแหวนไฟ RGB 2 ตำแหน่ง
รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth , รองรับ Aux in(3.5 mm.), รองรับ TF Card , รองรับโหมด True Wireless Stereo จับคู่ลำโพง 2 ตัว , รองรับช่อง USB-A , ตัวลำโพงมีแบตเตอรี่สูงสุด 5-10 ชม. ต่อครั้งครับ - โทนเสียงของ W-KING T9 นี้จะเป็นแนวเสียงแบบชัดเจน พุ่งไกล จัดจ้าน 425Audio ชอบในเรื่องของความดังของเสียงที่พุ่งไกลเป็นพิเศษ ทำให้ตัวลำโพงสามารถฟังได้อเนกประสงค์และให้ความรู้สึกที่คุ้มค่ากว่าลำโพงตัวอื่นๆที่อยู่ในระดับย่านราคาเดียวกัน จะใช้ฟังชิลๆในที่เล็กๆ W-KING T9 ก็ใช้งานได้ จะนำไปใช้งาน Outdoor ที่ต้องการกำลังขับไกลๆกว่าลำโพงทั่วไปหน่อย W-KING T9 ก็สามารถตอบโจทย์ได้ครับ
- สำหรับเพื่อนๆที่เป็นสายเน้นปาร์ตี้ เน้นความคุ้มค่า ต้องการลำโพงที่มาพร้อมไมค์ลอยไร้สาย ใช้ร้องเพลงคาราโอเกะเล่นกับเพื่อนๆได้ ต้องการลำโพงปาร์ตี้ที่ราคาไม่แรง แต่ได้คุณภาพเสียงที่ไม่แพ้แบรนด์ดังๆ W-KING T9 ตัวนี้ตอบโ๗ทย์เพื่อนๆแน่นอนครับ
4. Sony SRS XE200
- มาถึงอีกหนึ่งแบรนด์ กับเจ้าพ่อแบรนด์ตลาดอย่าง Sony สำหรับรุ่นนี้ยังอยู่ในหมวดหมู่ของลำโพงที่สามารถพกพาได้อยู่ แต่ไซส์ตัวจะมีความใหญ่ขึ้นมาหน่อย ซึ่งจะให้น้ำเสียงที่ดังและดีกว่าลำโพงเล็กๆ ซึ่งซีรีย์ที่อยากแนะนำก็คือ Sony SRS XE200 ตัวนี้
- สำหรับ Sony SRS XE200 นี้ถือว่าเป็นซีรีย์ไซส์กลางๆของแบรนด์ ที่สามารถตอบโจทย์ความอเนกประสงค์เช่นกัน ตั้งแต่เรื่องคุณภาพเสียง จนไปถึงคุณภาพสเปคโดยรวม คุณภาพเสียงของรุ่นนี้จะเป็นตามสไตล์เสียงในแบบฉบับของ Sony คือโดดเด่นไปที่รายละเอียดดนตรีที่มีความกระฉับกระเฉง หรือพริ้วไหวได้ดีในย่านเสียงกลางและแหลม เนื้อเสียงมีความละมุน ฟังนานๆก็ยังรู้สึกสบายหู อีกทั้งยังได้ความแน่นที่รู้สึกจากเสียงย่านเบสที่กำลังดี โดยเนื้อเสียงเบสของ Sony SRS XE200 จะไม่ได้โดดเด่นที่การลงลึกของเสียง แต่จะโดดเด่นที่การให้ความกระชับเก็บตัวเร็วครับ
- ในส่วนสเปคของ Sony SRS XE200 นั้นถือว่าจัดเต็มสมราคามาก การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 , สามารถเชื่อมต่อลำโพงหลายตัวเป็น Party Mode ได้, รองรับเทคโนโลยีอย่าง LDAC (Hi-Res Audio) รองรับ DSEE เพิ่มคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้น รองรับ App Sony Music Center สามารถปรับ EQ เสียงได้ แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้ 16 ชม. มี Fast Charge ชาร์จเพียง 10 นาที ใช้งานได้ถึง 70 นาที อีกทั้งยังใช้งานได้แบบไร้กังวลเรื่องน้ำด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67 ครับ
- สำหรับ Sony SRS XE200 ตัวนี้ ก็ต้องบอกว่าเป็นลำโพงสไตล์อเนกประสงค์ เน้นใช้งานได้หลากหลายเช่นกัน ไม่ว่าจะใช้งานในห้องทำงาน ห้องนอนที่บ้านก็ใช้ได้ดี พกพาไปตามต่างจังหวัด หยิบใส่รถไปได้ง่าย โดยเน้นในเรื่องของคุณภาพเสียงที่ดีตามสไตล์ Sony เน้นความละมุนของเสียงที่มีความเป็นธรรมชาติ สาวกชาวอารยธรรมหนีไม่พ้นแน่นอนครับ
5. JBL FLIP 6
- มาถึงกับเจ้า JBL FLIP 6 ตัวนี้ แน่นอนครับใครที่เป็นสาวก JBL เสพติดแนวเสียงสนุกๆ ฟังมันๆ ยังไงเจ้าตัวนี้ตอบโจทย์ในแบบนั้นได้แน่นอนด้วยคาแรคเตอร์เสียงทรงพลังแบบ JBL Original Pro Sound ที่เขายัดใส่มาให้ด้วยในลำโพงขนาดอเนกประสงค์แบบนี้ สำหรับเพื่อนๆที่กำลังมองหาไซส์ลำโพงที่ไม่ได้เล็กเกินไป ไม่ใหญ่เกินไป 425Audio คิดว่ารุ่นนี้ตอบโจทย์ครับ
- โทนเสียงของเจ้า JBL FLIP 6 รุ่นนี้อย่างที่เกริ่นเบื้องต้นว่า ใครเป็นสาวกจะต้องติดใจ ก็ปฏิเสธได้ยากจริงๆครับ เพราะเจ้า JBL FLIP 6 นี้สามารถขับเสียงได้เต็มอิ่ม คมทุกย่าน โดยเฉพาะย่านเสียงต่ำหรือเบสที่แข็งแรงตามสไตล์ JBL อยู่แล้ว อีกทั้งยังมาพร้อมกับเสียงย่านกลาง & แหลมที่มีประกาย มีความพริ้วไหวของเสียงที่ดี ทำให้ใช้ฟังดนตรีได้กว้างทุกประเภท ฟังแล้วไม่รู้สึกอึดอัด อุดอู้ครับ
- ในส่วนของสเปคและฟีเจอร์ต่างๆของเจ้า JBL FLIP 6 นี้ถือว่ามาสมราคาครับ ตั้งแต่ระบบเสียงแบบ 2-Way Speaker หรือไดร์เวอร์แบบสองทางช่วยให้เสียงเบสและย่านกลางและแหลมชัดละเอียดยิ่งขึ้น เชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.1 ไม่มีสะดุด อีกทั้งยังรองรับฟีเจอร์ JBL Party Boost เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ JBL อื่นๆ รองรับแอพฯ JBL Portable App ปรับแต่งเสียงและฟีเจอร์ต่างๆได้ แบตเตอรี่สูงสุดของตัวนี้ต่อรอบได้ถึง 12 ชม. โดยรองรับช่องชาร์จแบตฯ USB-C กันฝุ่นและน้ำระดับ IP67 เรียกว่า ถึก-ทนสุดๆครับ
- สำหรับเพื่อนๆที่หาลำโพงบลูทูธที่ลุยไปไหนมาไหนได้ดี เคลื่อนย้ายไปไหนได้ตามใจ ขนาดไม่ได้เทอะทะ ไม่หนัก ได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นมาจากลำโพงไซส์เล็ก ฟังได้เต็มอิ่มกว่า ยังไงเจ้า JBL FLIP 6 ตัวนี้ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีอีกรุ่นครับ
6. Fender Newport 2
- มาถึงกับเจ้า Fender Newport 2 หรือลำโพงบลูทูธคาแรคเตอร์เสียง อิ่ม-นุ่ม ที่ 425Audio ชื่นชอบมากๆอีกตัว ในรุ่นนี้ต้องบอกว่า Fender ทำมาได้ดีเกินความคาดหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์, คุณภาพเสียง, ฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ, รวมไปถึงความคุ้มค่าในเรื่องราคา ซึ่งโดยรวมกับเจ้า Fender Newport 2 นี้ต้องบอกว่าจะเหมาะกับคนที่ชื่นชอบแนวเสียงที่ละเอียด แต่นุ่มนวล ทำให้การฟังสามารถฟังได้เรื่อยๆ แต่ยังได้รายละเอียดที่ไม่ขาดหายครับ เท่าที่ทีมงานลองใช้งานจริง ต้องยอมรับว่าเป็นตัวลำโพงที่ควรมีติดห้อง ติดบ้านอีกตัว
- เรามาลงลึกรีวิวในเรื่องของคุณภาพเสียงกับเจ้า Fender Newport 2 กันครับ อย่างที่เกริ่นไว้ว่า รุ่นนี้มีจุดเด่นเป็นเรื่องของความนุ่มนวล อวบอิ่มไปกับรายละเอียดเสียง การใช้งานจริงสามารถใช้ฟังเพลงได้ทุกแนวตั้งแต่ Acoustic,Pop,Jazz,Classic,Rock,Metal,Hip-Hop,R&B ในย่านเสียงเบสของเจ้า Fender Newport 2 นี้สามารถลงลึกได้ ให้ความกระชับของเสียงได้ หรือเรียกว่าไม่ออกมั่วซั่ว ไม่ทับย่านอื่นครับ การตอบสนองของเสียงร้องในย่านเสียงกลางมีความธรรมชาติ ฟังชัดเจนเป็นคำที่จับต้องได้ง่ายๆเลยครับ ใครชอบเสพเสียงร้องนวลๆหนาๆตัวนี้ทำได้ดี ส่วนเสียงแหลมหรือย่านเสียงสูงจะมีความเนียนไปเลย ใช้ฟังได้ฟิลละมุน ไม่อึดอัด ไม่สาก และที่สำคัญไม่ขาดครับ
- ในส่วนสเปคก็ถือว่าเชื่อมต่อได้ครบทั้งระบบทันสมัยหรือเสียบสาย AUX 3.5 mm. ตัวนี้รองรับ Bluetooth 5.0 ปรับปุ่ม Knob Control สำหรับปรับระดับเสียง และ Bass, Treble ได้สะดวกที่ลำโพงเลย ดีไซน์ลำโพงจะมาแนวย้อนยุคคลาสสิคด้วย Concept แบบตู้แอมป์ในปี ‘68 รองรับ Audio Codec. ไร้สายสูงถึง aptX กำลังขับสูง 30W ดังกระหึ่มเกินตัวด้วยไดร์เวอร์ 3 ตัว (Subwoofer 2 ตัว, และลำโพง Tweeter 1 ตัว) แบตฯใช้งานสูงสุด 12 ชม. ต่อรอบครับ
- สำหรับเพื่อนๆที่เป็นนักดนตรี หรือเหล่าสาวกนักฟังที่รู้จักในแบรนด์อยู่แล้ว ต้องบอกว่ายังไง Fender Newport 2 ตัวนี้ก็ให้คุณภาพที่ดี ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ซึ่ง 425Audio คิดว่าเจ้ารุ่นนี้จะตอบโจทย์กับคนที่อยากได้ลำโพงเสียงดีๆ ใช้งานง่าย ไว้ใช้ติดบ้าน ตกแต่งบ้านได้แบบไม่รก ให้ความรู้สึกคลาสสิคไปด้วยตัวลำโพง อีกทั้งยังได้ความหรูหราไปในตัวกับความคุ้มค่าสมราคา ถ้าเกิดเพื่อนๆกำลังหาลำโพงบลูทูธไร้สายที่มีสเปคดังที่กล่าวมา ยังไง Fender Newport 2 ก็ตอบโจทย์ครับ
7. Bose Soundlink Flex
- มาถึงกับแบรนด์ที่ขึ้นชื่อความหรูหราของเสียงและดีไซน์อีกแบรนด์กับเจ้า Bose Soundlink Flex ตัวนี้ครับ สำหรับรุ่นนี้ต้องบอกว่าจะตอบโจทย์เฉพาะกลุ่มหน่อยกับคนที่ชื่นชอบหรือเสพติดความพรีเมี่ยมเป็นหลัก โดยเจ้าลำโพงตัวนี้สามารถยกระดับความพรีเมี่ยมได้ทั้งในเรื่องเสียงและดีไซน์คุณภาพวัสดุที่แน่นทุกชิ้นประกอบ ถือว่าเป็นลำโพงบลูทูธพกพาง่ายๆอีกตัว ที่มีไว้สำหรับลุยไปไหนต่อไหนได้ ใช้งานได้แบบสวยๆ เชื่อมต่อได้ทันสมัย ได้คุณภาพเสียงสไตล์ Bose ที่ยังไงเหล่าสาวกที่ชื่นชอบแนวเสียงชัดๆ-นุ่มๆสไตล์นี้ไม่ควรพลาด
- โทนเสียงของ Bose Soundlink Flex โดยรวมจะออกไปทางแนวเสียงที่ชัดเจน-ชิ้นดนตรีใส สำหรับย่านเสียงเบสรุ่นนี้ต้องยอมรับว่าไม่ได้โดดเด่นไปในทางการตอบสนองที่แน่นหรือลงลึก เพราะตัวลำโพงมีขนาดดอกที่ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ยังไงยังคงจับต้องเสียงเบสได้กระชับ เบสไม่แห้งละกัน ในส่วนของเสียงร้องและเครื่องดนตรีในย่านกลางก็มีความชัดเจน ฟังพุ่งออกมาให้ฟังได้ง่ายๆเลย ถือเป็นลำโพงเล็กที่ฟังเสียงร้องชัด ฟังง่ายครับ และจุดเด่นที่สุดของ Bose Soundlink Flex ตัวนี้คือความใสในย่านเสียงแหลมนี่แหละที่สามารถขับออกมาได้ชัดเจน เสียงมีความพุ่ง ฟังได้ง่ายๆแม้ว่าในบางสถานการณ์ที่พกออกไปฟังข้างนอก รอบข้างจะมีเสียง Ambient เยอะ แต่ตัวนี้ก็ยังให้ความใสที่ดีครับ
- สเปคของ Bose Soundlink Flex ต้องเรียกว่าสมฐานะตั้งแต่ คุณภาพรายละเอียดเสียงระดับ High-Quality Audio ด้วยเทคโนโลยีการจูนเสียงเฉพาะตัว PositionIQ™ ตัวลำโพงถึก-ทน กันฝุ่นและน้ำระดับ IP67 วัสดุแข็งแรง กันรอย กันกระแทก แบตเตอรี่ยาวนาน 12 ชม. สามารถเชื่อมต่อกับลำโพงรุ่นเดียวกัน หรืออุปกรณ์ Bose อื่นๆได้ รองรับ Speakerphone หรือคุยโ?รศัพท์ผ่านลำโพงได้ด้วย และที่สำคัญคือมีแอพฯ Bose Connect App สำหรับตั้งค่าโหมดการใช้งานต่างๆได้สะดวกจ้า
- เอาเป็นว่าถ้าคุณเป็นสาวกในแบรนด์นี้อยู่แล้ว และกำลังหาลำโพงบลูทูธตัวเล็กๆที่สามารถพกเสียงเพราะๆไปฟังได้ทุกที่ สามารถใช้งานได้ถึก-ทน และยังได้ลุคที่พรีเมี่ยม หรู-ดูแพง ชอบคุณภาพเสียงในแบบฉบับของ Bose ยังไงรุ่นนี้ก็ต้อบโจทย์ได้สมฐานะครับ
8. Harman/Kardon Luna
- ลำโพงตัวเล็ก พกพาง่ายๆรุ่นใหม่ของ Harman/Kardon ที่ในซีรีย์นี้สามารถยกระดับคุณภาพมาได้สมราคาทุกๆจุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์ความสวยงาม คุณภาพวัสดุ ฟิลลิ่งการจับต้องต่างๆ รวมไปถึงคุณภาพเสียง สิ่งที่ 425Audio เล็งเห็นจาก Harman/Kardon Luna ตัวนี้คือเรื่องความหลากหลายการใช้งานที่มากขึ้นครับ ตัวนี้สามารถพกพาได้สะดวกขึ้น หรือวางใช้งานสวยๆที่บ้าน วางเข้ามุมต่างๆของบ้านก็ทำได้ดี ซึ่งจะแตกต่างจากลำโพง Harman/Kardon ซีรีย์ที่ผ่านๆมา ที่ส่วนใหญ่เน้นการใช้งานเสียบสายในบ้านเป็นหลักครับ
- คุณภาพเสียงโดยรวมต้องบอกว่าจิ๋วแจ๋ว โทนเสียงรวมมีความแพง ออกไปทางนุ่มนวลเป็นหลัก ติดปลายนวมด้วยความใสที่เพียงพอหรือกำลังพอดี ทำให้การฟังดังๆหรือการฟังรวมๆรู้สึกว่าไม่แสบหู แต่ไม่ขุ่น สามารถนำเจ้า Harman/Kardon Luna ตัวนี้ไปฟังชิลๆตามริมสระน้ำ ริมทะเลได้ดี การตอบสนองของเสียงเบสจะเน้นไปทางกระชับ ไม่ออกเยอะจนบวมครับ รวมไปถึงการขับเสียงร้องที่พุ่งออกมาเหนือชิ้นดนตรี ทำให้การฟังรวมๆสามารถใช้ฟังเพลงร้องได้กว้างทุกแนวเพลง
- ในส่วนสเปคการใช้งานต้องบอกว่าครบ-อัดแน่น-ทันสมัย วัสดุลำโพงหรือ Materials จากวัสดุรีไซเคิลแต่ดูแข็งแรงและสวย น้ำหนักประมาณ 0.71 กก. พกสะดวกมากๆ ระบบไดร์เวอร์เสียงเป็นแบบสองทาง (2-Way Speaker) ให้เสียงคาแรคเตอร์เสียงนุ่มๆจาก Harman Kardon ใช้ลุยได้สบายเพราะกันน้ำระดับ IP67 รองรับ Bluetooth 5.3 และ Streaming แบบ Stereo ได้ (ต่อ 2 ตัว) ตอบสนองความถี่ 60Hz – 20kHz แบตเตอรี่ยาวนาน 12 ชม.
- ถ้าหากคุณชื่นชอบในความเป็น Harman/Kardon และกำลังมองหา ลำโพงตัวเล็กพกพาสะดวกที่ใช้งานลุยๆได้ด้วย คุณภาพเสียงไม่เป็นรองใครใน Segment ฟีเจอร์การใช้งานต่างๆทันสมัยไม่แพ้ใคร ใช้แล้วดูหรูหราพรีเมี่ยม ยังไง Harman/Kardon Luna ตัวนี้ตอบโจทย์แน่นอนครับ
9. W-KING T9 Pro
- มาถึงรุ่นที่เรียกว่าเป็นไฮไลท์ที่น่าจับตามองมากๆอีกรุ่นคือ W-KING T9 Pro รุ่นนี้ต้องบอกว่าตัวลำโพงสามารถเทียบเท่า Segment ไปได้ถึงระดับตัว Party Box ใหญ่ๆได้เลย หรือวัดกับพวกลำโพงปาร์ตี้หลักหมื่นได้สบายๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพเสียงลำโพง คุณภาพเสียงไมค์ ฟีเจอร์การเชื่อมต่อใช้งานต่างๆที่ยัดให้มาแบบคุ้มค่าทุกจุด และเป็นแบรนด์ที่ราคาจับต้องง่ายที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับคุณภาพครับ
- สำหรับใครหาลำโพงบลูทูธไร้สายไว้ใช้ปาร์ตี้ เน้นเสียงดัง ได้ไมค์สำหรับร้องเพลง 2 ตัว สามารถปรับเอฟเฟคเสียงต่างๆได้ที่ตัวไมค์ ใช้เปิดเพลงและร้องคาราโอเกะได้สะดวก ตัวนี้ตอบโจทย์มากด้วยฟีเจอร์ตัดเสียงร้องที่ลำโพงครับ
- หรือหากเพื่อนๆกำลังมองหาลำโพงที่เสียงดังๆ ไว้ใช้ในงานประกาศตามงานโชว์สินค้า งาน Event ต่างๆ W-KING T9 Pro ตัวนี้ก็ยังตอบโจทย์
- โทนเสียงของรุ่นนี้เน้นไปที่เสียงย่านเบสหรือย่านเสียงต่ำที่สามารถลงลึกได้ ช่วยให้การฟังรู้สึกอวบอิ่ม แน่น ใช้ฟังเพลงตื๊ดๆสนุก โดยที่เสียงย่านกลางและแหลมไม่ขาดหายครับ เสียงร้องของเจ้า W-KING T9 Pro ยังคงพุ่ง ให้โทนเสียงที่หนาและพุ่งไปได้ไกล เท่าที่ 425Audio ลองใช้งานจริงต้องบอกว่า W-KING T9 Pro เป็นลำโพงที่ฟังดีทั้งการใช้งานแบบ Outdoor และ Indoor ครับ
- สเปคการเชื่อมต่อต่างๆถือว่าครบครับ พร้อมไมค์ลอย 2 ตัว รองรับช่อง AUX (3.5 mm.) ช่อง 6.5 mm. สำหรับเสียบเครื่องดนตรี ช่องเสียบ USB Storage เล่นเพลง รองรับการเชื่อมต่อกับลำโพงรุ่นเดียวกัน เพื่อให้เสียงแบบ Stereo Mode (Party Mode) ตัวนี้กำลังขับสูงถึง 120W แผงควบคุมฟังก์ชั่นด้านบนลำโพง มีวงแหวนไฟ RGB ขณะเล่นเพลง แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 12 ชม.
- แน่นอนว่าใครเป็นสายคุ้มค่า ไม่ติดแบรนด์หรือความหรูหรา ต้องการลำโพงที่มีไมค์ติดมาให้ด้วยในแพ็คเกจ 2 ตัว ใช้ฟังเพลง ใช้ปาร์ตี้ ร้องคาราโอเกะกับเพื่อนได้ งานประกาศ งาน Event ใช้ได้ครบ ราคาคุ้มค่าที่สุดใน Segment ยังไง W-KING T9 Pro ก็ตอบโ๗ทย์ได้ดีที่สุดครับ
10. Fender Indio 2
- เรียกว่าเป็นลำโพงบลูทูธอีกรุ่นที่ต้องมีติดห้องทำงานที่ออฟฟิศ 425Audio เลยก็ว่าได้ สำหรับเจ้า Fender Indio 2 รุ่นนี้ จุดเด่นที่ทีมงานชอบที่สุดคือเรื่องเสียงนั่นแหละครับ ผสมผสานความลงตัวด้านดีไซน์สวยงาม งานประกอบวัสดุดี ฟีเจอร์ ฟังก์ชั่นการใช้งานครบ ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก
- โดยรวมแนวเสียงของรุ่นนี้จะออกไปทางนุ่ม-ลึก โทนเดียวกับรุ่นเล็กที่ผ่านมาอย่าง Fender Newport 2 แต่สำหรับรุ่นนี้จะมีการตอบสนองของโทนเสียงย่านต่ำหรือเบสที่ดีกว่า ชัดเจนกว่าหรือลงได้ลึกกว่านั่นเองครับ ทำให้การฟังรวมทั้งหมดได้ความหนา ความอิ่มที่ฟินมากๆ แม้ว่าจะเป็นลำโพงไซส์ที่ไม่ได้ใหญ่มาก ในส่วนของย่านเสียงกลางและแหลมก็เป็นสไตล์ Fender เลย เสียงมีความใส ให้ความชัดเจนได้กำลังดี ไม่ใสจนสากหรือแสบหู ดังนั้นใครที่ชอบแนวเสียงที่ฟังได้เรื่อยๆทั้งวัน Fender Indio 2 ตอบโจทย์แน่ครับ
- สเปคต่างๆของเจ้า Fender Indio 2 ก็ให้ความทันสมัยและการใช้งานได้ครบครันครับ รุ่นนี้เป็น Bluetooth 5.0 ให้กำลังขับ 60 วัตต์ โดยไดร์เวอร์หรือดอกลำโพงเป็นระบบ Quad-Driver System (ประกอบด้วย 2 Woofers, 2 tweeters) จะช่วยให้เสียงครบย่านตามที่บอกครับ มีแบตเตอรี่ในตัว สามารถใช้งานสูงสุด 25 ชม. ช่อง USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์อื่นๆ รองรับช่อง AUX 3.5mm รองรับ Duo Mode (เชื่อมต่อ 2 ตัวได้) สามารถปรับ EQ ได้บนลำโพงเลย 2-Band (Bass, Treble) ซึ่งสะดวกและรวดเร็วดีครับ
- แน่นอนว่าถ้าคุณเน้นการฟังเป็นหลัก เรื่องฟีเจอร์ความทันสมัยเป็นรอง เน้นใช้งานในชีวิตประจำวันที่ฟังได้ต่อเนื่องนานๆ คุณภาพเสียงดีมากๆ เน้นใช้งานในบ้าน เคลื่อนย้ายไปจุดต่างๆสะดวก หรือจะต้องการยกติดรถไปตามทริปต่างๆตัวนี้ก็ทำได้ครับ
11. JBL Authentics 300
- ต้องบอกว่านี่คือลำโพงบลูทูธไร้สายที่พรีเมี่ยมที่สุดใน List นี้แล้ว ถ้าหากว่าคุณมีกำลังหรืองบการเลือกซื้อที่เยอะ เจ้า JBL Authentics 300 รุ่นนี้ให้ความคุ้มค่ากับทุกบาท ทุกสตางค์ได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่อัดแน่นทุกด้าน คุณภาพเสียงจัดเต็มตามแบบฉบับ JBL หรือจะเป็นเรื่องของความพรีเมี่ยมหรูหราของดีไซน์ ที่ใครเห็นก็ต้องมองและต้องอิจฉาครับ
- สำหรับโทนเสียงของ JBL Authentics 300 นั้นก็เรียกว่าเต็มเม็ดเต็มหน่วยแน่นอน มี 10 คะแนน เอาไปเลย 11 โทนเสียงรวมมีความรุกเร้า กระฉับกระเฉง ชัดเจน ชิ้นดนตรีพุ่ง มีความแข็งแรงสูง และยังได้ความเป็นธรรมชาติของเสียงที่ดีมาก ความถี่เสียงย่านเบสมีความลงลึกได้ ให้ความกระชับได้ ไม่บดบังครับ จะฟังเคลียร์ก็ฟังได้ ฟังมันฟังสนุกก็ดี พวกเสียงย่านร้องหรือย่านเสียงกลางมีความเป็นธรรมชาติดีครับ เสียงร้องออกหนา ไม่แห้ง ให้ความฉ่ำของเสียงดี ในส่วนเสียงย่านแหลมต้องบอกว่าเป็นแนวชัดเจน ทะลุทะลวงอยู่แล้ว ใครชอบรายละเอียดจัดๆ ยังไง JBL Authentics 300 ก็ตอบโจทย์ เรียกว่าใช้ฟังดนตรีอะไรก็ได้ครับ
- สำหรับลำโพงค่าตัวเท่านี้ สเปค & ฟีเจอร์ ก็ต้องครบเครื่องอัดแน่นแน่นอนครับ สเปคดอกลำโพง Tweeter ขนาด 1 นิ้ว 1 คู่ ดอกลำโพง Full-Range Woofer 5.25 นิ้ว ดอกขับเสียงเบส Passive Radiator 6.5 นิ้ว
ให้กำลังขับรวมสูง 100W ตอบสนองความถี่เสียงที่ 45Hz - 20kHz รุ่นนี้รองรับแบตเตอรี่ในตัว ใช้งานได้ยาวนาน 8 ชม. รองรับการเล่นเพลง Streaming ไร้สายผ่าน WIFI, Bluetooth 5.3, Chromecast built-in, Apple Airplay เชื่อมต่อแบบ Multiroom กับลำโพง JBL Authentics Series ได้ รองรับ Voice Assistant | Hey Google, Alexa, รองรับ Spotify Connect, รองรับแอพฯ JBL One App, มีฟีเจอร์ Calibrates จูนเสียงลำโพงเอง (Automatic self tuning), เสียบสาย 3.5 มม. (AUX) มีด้ามจับสำหรับเคลื่อนย้ายหรือถือได้สะดวก น้ำหนักลำโพงอยู่ที่ประมาณ 4.9 กิโลกรัม - เรียกว่าใครชอบความคลาสสิคที่ปนความทันสมัยอยู่ในตัวเดียว มีงบการเลือกไม่จำกัด ชื่นชอบแนวเสียงที่ฟังได้กว้างทุกประเภท รายละเอียดจัดจ้านฟังง่าย เชื่อมต่อครบเครื่องทั้งบลูทูธและ WIFI รองรับคำสั่งเสียงล้ำๆ ใช้ที่บ้านก็เข้าท่า จะยกไปใช้ข้างนอกบ้านก็ได้ จัด JBL Authentics 300 ไปเลยครับ คุ้มทุกสตางค์แน่นอน