Edifier Neobuds Pro 

(English version)

หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวน ANC ไดร์เวอร์ไฮบริด

ไมค์ 6 ตัว รองรับคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio

425AUDIO สรุปชัดๆ :

• Edifier Neobuds Pro เป็นหูฟังไร้สาย true wireless ที่เกิดจากเว็บไซต์ระดมทุน Indiegogo ที่ได้รับการสนับสนุนไปกว่า 18 ล้านบาท และเมื่อ Edifier Neobuds Pro ได้ถูกนักรีวิวหูฟังต่างประเทศได้ลองใช้งานแล้ว นักรีวิวต่างประเทศต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า“เป็นหูฟังไร้สายที่ดีและคุ้มค่าที่สุดในช่วงราคา 100$” และหลังจากแอดมินได้ลองทดสอบใช้แล้ว ต้องบอกเลยครับว่าดีมากสมกับที่เค้าพูดต่อๆกันมาจริงๆ..
• ส่วนตัวทีมงานชอบในความ “ครบเครื่อง” ของเจ้า Edifier Neobuds Pro ตัวนี้มากๆครับ ไม่ว่าจะใส่วิ่งออกกำลังกายเบาๆก็ไม่หลุดแถมใส่สบายมากๆ โหมดตัดเสียงรบกวน ANC ก็ทำได้ดีมากๆ เปิดโหมดแล้วเสียงรอบตัวเงียบลงอย่างชัดเจน ใส่คุยโทรศัพท์ไม่ว่าจะในบ้านหรือข้างนอกปลายสายก็ยังฟังรู้เรื่อง ถ้าอยากใส่เล่นเกมส์เค้าก็มี Game Mode เปิดแล้วเล่นเกมแทบไม่รู้สึกดีเลย์ อีกทั้งหูฟังยังรองรับแอปพลิเคชัน Edifier Connect ที่ปรับตั้งค่าและมีฟีเจอร์ให้เล่นเพียบ !
• นอกจากฟีเจอร์ที่ใช้ดีและตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายแล้ว มันยังมีคุณภาพเสียงที่ดีมากครับ หากใครชอบเสียงเบสแน่นๆฟังสนุก เสียงร้องเคลียร์ๆ ใสๆ เสียงแหลมคมใสจัดจ้าน จะต้องชอบเสียงของ Edifier Neobuds Pro อย่างแน่นอน หรือถ้าใครยังไม่หนำใจในคุณภาพเสียง Edifier Neobuds Pro เค้าก็มีให้ปรับ EQ ได้ในแอปฯ Edifier Connect จะปรับแบบที่เค้าตั้งไว้ให้ก็ได้ หรือจะเลือกปรับแบบ Manual ก็ได้ ยืดหยุ่นและมีลูกเล่นเยอะแยะมากๆครับ
• Edifier Neobuds Pro น่าจะเป็นหูฟังเพียงไม่กี่ตัวในเรทราคานี้ที่ตอบโจทย์ได้ทั้งสายฟังเพลง และสายฟังชั่นการใช้งานทั่วไป เพราะนอกจากจะมีคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมและปรับ EQ ได้แล้ว ฟีเจอร์การใช้งานทั่วไปไม่ว่าจะใส่ออกกำลังกายเบาๆ ใส่ตัดเสียงรอบข้าง ANC ใส่คุยโทรศัพท์ ใส่เล่นเกม ดูหนังหรือฟังเพลง Edifier Neobuds Pro ก็ติ๊กถูกได้แทบจะทุกข้อ ครบจบในตัวเดียวในราคาที่คุ้มค่าจริงๆครับ

• ได้รับเครื่องหมาย Hi-Res Audio Certificated
• โหมดตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ตัดเสียงรบกวนรอบตัวได้สูงสุด 42dB
• โหมดฟังเสียงรอบข้าง Ambient Sound สัมผัสเสียงรอบตัวผ่านหูฟังได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ
• ไดร์เวอร์แบบ Hybrid ประกอบด้วย Custom Design Dynamic Driver และ Knowles Balanced Armature
• ชิปประมวลผลเสียง DSP based Active Crossover ทำงานร่วมกับวงจรขยายเสียงแบบ Bi-Amp ให้คุณภาพเสียงที่ทรงพลังยิ่งขึ้น
• รองรับ LHDC และ LDAC ให้เสียงระดับ High Resolution audio ความละเอียดสูงสุด 96kHz/24 bit ที่ความเร็ว 900 kbps (เฉพาะอุปกรณ์ที่รองรับ)
• ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน Crystal-Clear Voice Calls จำนวน 6 ตัว
• โหมด Game Mode ลดเสียงดีเลย์ขณะเล่นเกมส์
• กันละอองนํ้าและฝุ่นระดับ IP54
• ดีไซน์ตามหลักสรีระศาสตร์ สวมใส่กระชับและสบายกับขนาดช่องหูคนส่วนมาก
• จุกหูฟังคุณสมบัติพิเศษ Germ-Proof Ear-Tips ปกป้องแบคทีเรียได้สูงสุดถึง 99.8% เพื่อสุขภาพที่ดีต่อช่องหู
• กล่องชาร์จขนาดเล็ก พกพาง่าย
• รองรับแอปพลิเคชั่น Edifier Connect เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน Edifier Neobuds Pro
• แบตเตอรี่สูงสุด 6 ชม.+18 ชม. รวมสูงสุด 24 ชม. (ปิด ANC) / สูงสุด 5 + 15 ชม.รวมสูงสุด 20 ชม. (เปิด ANC) (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน) 

Comments จาก ลูกค้า บน Facebook

ประสบการณ์การใช้งานจริงจากทีมงาน 425AUDIO

ดีไซน์ : สวย เท่ พรีเมี่ยมเกินค่าตัว..

• แค่ดีไซน์ก็ว้าวแล้วครับ กล่องชาร์จขนาดเล็กกระทัดรัด มีแปะแผ่นอลูมิเนียมยิงโลโก้ Edifier ข้างบนดูหล่อเท่มากๆ แต่ส่วนตัวจุดที่ทีมงานชอบมากเลยคือไฟ LED หน้ากล่องชาร์จ วิ่งไปวิ่งมาสวยงามในแบบที่ไม่มีใครเหมือนเลย
• ตัวหูฟังดีไซน์แบบมีก้าน หน้าตาโฉบเฉี่ยว ทำสีดำๆเงินๆ ตัวหูฟังนํ้าหนักเบาหวิว และมีรูปร่างที่ ergonomic ดูน่าใส่สบายมากๆเลยครับ
• อันนี้พิเศษมาก จุกหูฟังของ Edifier Neobuds Pro มีคุณสมบัติพิเศษ Germ-proof ที่สามารถปกป้องแบคทีเรียได้สูงสุดถึง 99.8% เพื่อสุขภาพที่ดีต่อช่องหูผู้สวมใส่ บร๊ะ !!! ดูใส่ใจผู้ใช้งานมากๆเลยครับ

การสวมใส่ : สวมใส่สบาย ใส่นานๆก็ยังชิล

• สำหรับทีมงานคือใส่สบายมากๆครับ ความรู้สึกคือไม่แน่นไปแต่ยังรู้สึกกระชับหู ทีมงานลองหยิบ Airpods Pro กับ Earfun Air Pro มาใส่เทียบ Edifier Neobuds Pro แทบจะใส่สบายพอๆกันเลย ทีมงานคิดว่าใครหูเล็กหรือใหญ่ก็น่าจะใส่ Edifier Neobuds Pro ได้อย่างสบายๆครับ

การใส่ออกกำลังกาย : ใส่วิ่งออกกำลังกายไม่หลุด ใส่สบายหูไม่รู้สึกอึกๆอักๆ

• ทีมงานลองเอาไปใส่วิ่งจ๊อกกิ้งหน้าบ้านก็ไม่รู้สึกว่าหูฟังจะหลุด ตัวหูฟังยังคงกระชับหูดีแม้โดนเหงื่อ และที่ทีมงานชอบมากๆเลยคือเวลาใส่วิ่งมันไม่ค่อยได้ยินเสียงลงส้นเท้าในหัว (เสียงอึกๆอักๆ) ทำให้ใส่วิ่งออกกำลังกายได้อย่างสบายหูมากๆครับ

การเชื่อมต่อ : รองรับ codec ระดับ Hi-Res LHDC และ LDAC

• เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 รองรับ SBC,AAC ทั้งฝั่ง iOS และ Android การเชื่อมต่อสเถียรดีมากๆครับ ตั้งแต่ทีมงานใช้มาเกือบเดือน เจอสัญญาณแกว่งไปแค่ 1-2 ครั้งเอง ถึงแม้จะเป็น Bluetooth 5.0 แต่ปรับแต่งสัญญาณการเชื่อมต่อมาสเถียรกว่าหูฟัง Bluetooth 5.2 บางตัวที่ทีมงานเคยลองเสียอีก..
• อีกทั้งยังรองรับ codec ระดับ Hi-Res อย่าง LHDC และ LDAC หากโทรศัพท์ของเพื่อนๆรองรับ codec 2 ตัวนี้ละก็ เพื่อนๆจะสามารถใช้ Edifier Neobuds Pro ฟังเพลงที่มีความละเอียดสูงๆอย่างเพลงไฟล์เพลงสกุล FLAC หรือแอปสตรีมมิ่งต่างๆเช่น Tidal Hi-Fi หรือ Apple Music Lossless ได้ ให้รายละเอียดเสียงที่ดีกว่าไฟล์เพลงทั่วไปมากมายครับ
• แต่ยังไงก็ตาม ถึงแม้จะใช้แค่ SBC,AAC พบว่าการเชื่อมต่อ Edifier Neobuds Pro ทั้งบน iOS และ Android สเถียรและราบรื่นดีมากอยู่แล้ว ไม่ค่อยเจอปัญหาจุกจิก ใช้งานได้อย่างสบายๆครับ 

แอปพลิเคชัน : แอปพลิเคชั่น Edifier Connect ดีมาก ตั้งค่าได้เยอะ ปรับ EQ ได้ลึก !

• แอปพลิเคชั่นดีมากๆจนอยากโม้เลยครับสำหรับ Edifier Neobuds Pro ในแอปสามารถปรับระดับโหมดตัดเสียงรอบข้าง ANC ได้ 2 ระดับ ได้แก่ระดับ Low ตัดแบบปานกลาง ขอพอได้ยินเสียงรอบตัวอยู่บ้าง และระดับ High คือตัดระดับเงียบที่สุด
• ส่วนโหมดดูดเสียงรอบข้าง Ambient Sound สามารถปรับระดับความดังได้ หรือจะปิดทั้งโหมดตัดเสียงรอบข้าง ANC หรือโหมดดูดเสียงรอบข้าง Ambient Sound ทั้งคู่เลยก็ได้ครับ

• ถัดมาจะเป็นส่วนของเมนูปรับโทนเสียง สามารถปรับเลือกโทนเสียงได้ 2 แบบ ได้แก่ Dynamic และ Classic โดยเสียงแบบ Dynamic จะให้เสียงแนวฟังสนุก กระหึ่ม อิมแพคหนัก และโหมดเสียงแบบ Classic จะออกแนวฟังสบายๆ ฟังชิลๆ ตอบโจทย์คนชอบเสียงเบสแบบไม่หนักมาก แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือสามารถปรับ EQ แบบ manual ได้ และปรับได้ลึกมาก เป็น 4-band EQ เลือกปรับ Freq ย่านเสียงที่ต้องการปรับได้ และปรับ Q หรือความแคบ-กว้างในการ cut หรือ boost ย่านเสียงได้ ส่วนตัวว้าวมาก ยังไม่เคยเจอหูฟังตัวไหนปรับ EQ ได้ลึกขนาดนี้เลยครับ
• ถัดมาก็จะมีให้เราเลือกเปิด-ปิด Game Mode สามารถปรับได้ในแอป หรือแตะที่หูฟังข้าง L 3 ครั้งก็ได้ครับ
• อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าปุ่มฟังชั่นของหูข้างซ้ายและหูฟังข้างขวาได้อีกด้วย โดยจะจำกัดฟังชั่นหูฟังแค่ข้างละ 2 ฟังชั่นเท่านั้น มีแบบแตะ 2 ครั้ง และแบบแตะ 3 ครั้ง ถึงแม้การควบคุมจะดูน้อย แต่ส่วนตัวทีมงานชอบตรงที่มันจำง่ายครับ ไม่ต้องจำว่า แตะ 1 ครั้ง ฟังชั่นอะไร แตะ 2 ครั้งฟังชั่นอะไร แตะค้างฟังชั่นอะไร จำแค่ แตะ 2 ครั้ง และ 3 ครั้งพอ ตั้งฟังชั่นเท่าที่เราจำเป็นต้องใช้ก็รู้สึกเพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ
• หรือใครขี้เกียจเข้าแอปไปปรับโน่นนี่ Edifier Connect มี Widget ให้ใช้ด้วยครับ เพิ่ม Widget หน้า Home โทรศัพท์แล้วเปิด-ปิดฟังชั่นผ่าน Widget หลักของมันได้เลย สะดวกและรวดเร็วมากๆครับ
• แอปพลิเคชั่นของ Edifier Neobuds Pro จัดว่าดีมากๆเลยสำหรับหูฟังย่านราคานี้ ช่วยให้เราใช้หูฟังได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และให้ประสบการณ์การใช้งานหูฟังได้แบบหูฟังตัวแพงๆเลยครับ

ฟีเจอร์เด็ด : Active Noise Cancelling เทพเกินค่าตัวมากๆ

• โหมดตัดเสียงรอบข้าง Active Noise Cancelling เทพมากๆครับ เรียกว่าเทียบตัว ANC โหดๆอย่าง Sony WF-1000XM4 ได้เลย เปิดโหมด High แล้วคือวูบเลยครับ เสียงพัดลม แอร์ เสียงรถหายไปเกือบหมด เสียงคนคุยกันก็ยังมีได้ยินอยู่บ้างแต่เบามากๆ ส่วนการใส่เดินข้างนอกอาจมีได้ยินเสียงลมเข้าไมค์บ้าง แต่ที่ทีมงานเจอจัดว่าเบามากๆไม่รู้สึกรำคานแต่อย่างใด นับว่าโหดมากครับสำหรับโหมดตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ของ Edifier Neobuds Pro
• ส่วนโหมดฟังเสียงรอบข้างผ่านหูฟัง Ambient Sound ก็ดังฟังชัด โทนเสียงมีความเกือบเป็นธรรมชาติ แต่ว่าฟังแล้วสัมผัสเสียงรอบตัวได้ง่าย ไม่น่ารำคานครับ

การคุยโทรศัพท์ : ไมค์ 6 ตัว คุยท่าไหนปลายสายก็ยังฟังชัด !

• เท่าที่ทีมงานทดสอบใช้คุยโทรศัพท์ต้องบอกเลยครับว่าไมค์ดีมาก เท่าที่แอดมินลองใช้คุยคือเสียงไมค์ชัด เคลียร์ ฟังรู้เรื่องครับ
• การตัดเสียงรบกวนจัดว่าทำได้ดีครับ ถึงแม้เวลาคุยปลายสายจะยังพอได้ยินเสียงรบกวนรอบตัวเราอยู่บ้าง แต่ก็อยู่ในระดับที่เบากว่าเสียงพูดของเรา ทีมงานคิดว่าระบบตัดเสียงรบกวนสามารถกรองเสียง Noise ออกจากเสียงพูดได้มากพอสมควรจนใช้คุยในที่ที่มีเสียงรบกวนได้ชัด และยังอยู่ในระดับที่ฟังรู้เรื่องครับ
• หากใส่แมกส์คุยโทรศัพท์พบว่าเสียงพูดจะอู้และฟังดูไกลขึ้นเล็กน้อย แต่ปลายสายก็ยังบอกว่ายังฟังรู้เรื่องครับ
• จุดสังเกตุคือ เสียงปลายสายอาจไม่ได้ดังโอเวอร์มากเหมือนหูฟังตัวอื่นๆบางตัว อยู่ในระดับกลางๆที่ฟังชัดแบบกำลังพอดีหูครับ
• สรุปแล้ว สามารถใส่คุยโทรศัพท์ indoor ได้สบายๆ หรือใส่คุย outdoor ก็ไหว คุยกับเพื่อน คนรัก ครอบครัว หรือจะใส่ประชุมงานออนไลน์ผ่าน Google Meet,Zoom ก็ได้ เรื่องคุยโทรศัพท์ Edifier Neobuds Pro จัดว่าทำได้ดีทีเดียวครับ

ดูหนัง & เล่นเกมส์ : ดูหนังมันส์ซาวด์กระหึ่มครบมิติ / เล่นเกมส์เยี่ยม มิติเสียงแม่นยำ

• ดูหนังไม่มีดีเลย์ทั้ง Netflix, Disney+ และคลิปฯบน Tiktok,Facebook ก็ดูลื่นๆตาแทบไม่รู้สึกดีเลย์ และใช้ดูหนังซาวด์มันส์มากๆครับ คล้ายอยู่ในโรงหนังเลยครับ
• เรื่องเล่นเกมส์ทั้ง PUBG, Freefire, ROV พบว่ามีดีเลย์นิดเดียว แต่ !! Edifier Neobuds Pro มี Game Mode ด้วย เปิดโหมดนี้ตอนเล่นเกมส์แล้วแทบไม่รู้สึกว่าเสียงดีเลย์เลย และเล่นเกมส์ FPS มิติเสียงชัดเจนดีครับ ฟังจับทิศทางศัตรูง่ายและแม่นยำครับ
• เรื่องดูหนังและเล่นเกมส์ Edifier Neobuds Pro ทำได้อย่างดีเยี่ยม ดูหนังเล่นเกมส์ได้ดีแบบครบเครื่องครับ

**ทดสอบกับ iPhone 11 และ Samsung A7**

ผลลัพท์อาจแตกต่างขึ้นอยู่กับบางอุปกรณ์

คุณภาพเสียง : ฟังสนุกตั้งแต่แกะกล่องฯ ขาดเหลืออะไร ปรับ EQ เพิ่มได้ !

• โอ้ย เสียงดีฟังสนุกมากๆครับ ติดไดร์เวอร์มาข้างละ 2 ตัว และมีวงจร DSP และภาคขยายเสียงแบบ Bi-Amp ในการทำงานร่วมกับไดร์เวอร์ ให้นํ้าเสียงได้ดีและรสชาติไม่เหมือนหูฟังตัวไหนๆเลย
• โทนเสียงของ Edifier Neobuds Pro จะออกแนวฟังสนุกครับ เบสหนาคมชัด มาเต็มและลงได้ลึก อิมแพคเสียงกลองฟังสนุกและมีมิติมาก ไดนามิคชัด เสียงร้องจะออกโปร่ง ใสและเคลียร์มาก และเสียงแหลมจะมีความจัดจ้าน ใส ทอดเป็นประกาย ฟังกับเพลงแนวอะไรก็ดูดีมากๆครับ
• หรือถ้าใครชอบโทนเสียงแบบสบายๆ เบาๆ ก็สามารถปรับเป็นโทนเสียงแบบ Classic ได้ในแอปฯ อันนี้จะตอบโจทย์การฟังเพลงเบาๆ Jazz, Bossa Nova หรือ Acoustic เป็นโทนเสียงที่ฟังได้เพลินๆ ฟังนานๆก็ไม่ล้าหูครับ
• หรือถ้าใครคิดว่า เฮ้ย เสียงย่านกลางมันถอยหลังไปหน่อย ก็สามารถปรับ EQ แบบ manual เพิ่มได้ในแอปฯอีกเช่นกัน ขาด-เหลือย่านไหน ปรุงรสชาติเสียงได้ตามรสชาติที่เราชอบเลย และกดแชร์ให้เพื่อนที่ใช้ Edifier Neobuds Pro เป็น QR Code ได้ด้วย ลูกเล่นเหลือร้ายครับตัวนี้

แบตเตอรี่ : ไม่มากไป ไม่น้อยเกิน เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน

• Edifier เคลมแบต Edifier Neobuds Pro มาที่สูงสุด 6 ชม. ต่อ 1 รอบครับ และสามารถชาร์จเพิ่มจากกล่องชาร์จได้อีกประมาณ 3 รอบ รวมทั้งสิ้น 24 ชม.
• ส่วนการใช้งานของทีมงาน ทีมงานใช้ Edifier Neobuds Pro ได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมงกว่าๆ การใช้งานก็ฟังเพลง เปิดโหมดตัดเสียงรบกวนระดับ High ตลอด มีดูวีดีโอและเล่นเกมส์บ้างนิดหน่อย และมีคุยโทรศัพท์บ้างวันละ 2-3 สาย ก็จัดว่ามีแบตเตอรี่ที่กำลังดีครับ ไม่มากไปและไม่น้อยไป อยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันมากๆครับ
• แต่จุดที่แอบเสียดายเล็กๆคือกล่องชาร์จน่าจะรองรับชาร์จไร้สาย Wireless Charging ถ้าเกิดว่ามีระบบนี้มันจะครบกว่านี้มากๆครับ

ความคุ้มค่า : ถูกและเทพมีอยู่จริงด้วย Edifier Neobuds Pro การันตี !

• ทั้งเรื่องคุณภาพเสียงและฟีเจอร์การใช้งาน ต้องบอกเลยครับว่า Edifier Neobuds Pro เป็นหูฟัง true wireless ของปี 2021 ที่ท่านไม่ควรพลาดอย่างยิ่งครับ น่าจะเป็นหูฟังที่ตอบโจทย์ได้ทั้งคนเน้นฟังเพลงและคนใช้งานทั่วไปได้แบบจบในตัวเดียวที่สุดในเรทราคานี้ เพราะนอกจากมันจะมีคุณภาพเสียงที่ดีมากๆแล้ว ยังใช้งานทั่วไปได้เทพมากๆ ไมค์ก็ชัด ตัดเสียงรบกวน ANC ก็โหด ใส่วิ่งออกกำลังกายก็ได้ หรือแม้แต่ดูหนังเล่นเกมส์ก็ยังใช้ดี และมีแอปพลิเคชั่นที่ปรับตั้งค่าได้เยอะและใช้งานง่ายช่วยให้เราใช้หูฟังได้สะดวกและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
• หากใครกำลังมองหาหูฟังสำหรับฟังเพลงและสามารถใช้งานทั่วไปได้ครบๆแบบสุดทุกด้าน Edifier Neobuds Pro คือตัวที่ตอบโจทย์ที่สุดแล้วในหูฟังย่านราคานี้ครับ

Sound Review (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425AUDIO นะครับ)

**เปิด Volume ระดับ 60-70% โหมดเสียงแบบ Dynamic

• เสียงย่านตํ่า (เสียงเบส) : เสียงเบสฟังดูมีพละกำลัง แข็งแรง มวลหนาเก็บตัวไวไม่กวนเสียงย่านอื่น หัวโน๊ตเสียงเบสชัด ลำตัวเสียงเนียนและนิ่ง อิมแพคกลองชุดรุกเร้าฟังสนุก ดังกังวาน และถ่ายทอดไดนามิคของเสียงกลองได้ดีมากๆ เสียงกลองชุดและเสียงเบสฟังดูมี movement ที่ชวนให้ฟังสนุกและอยากโยกหัวตามจังหวะเพลงจริงๆครับ
• เสียงย่านกลาง (เสียงร้อง) : เสียงย่านกลางจะออกโปร่ง ใส และเคลียร์ เสียงร้องไม่ได้อยู่ชิดหน้าเวทีเสียงมาก แต่ก็ไม่ได้ถอยห่างมากเกินไป เสียงร้องจะออกแนวใสคมสว่าง ติดหวาน และหางเสียงร้องลากได้ไกลเป็นประกายฟรุ๊งฟริ๊ง เสียงกีต้าร์ เสียงสแนร์กลอง และเสียงเปียโนรายละเอียดชัด เคลียร์ใส ไม่รู้สึกว่ามีม่านหมอกมาบดบังครับ
• เสียงย่านสูง (เสียงแหลม) : เสียงแหลมมีความคมใสและจัดจ้าน ฟังดูมีติดคัลเลอร์ที่น่าฟัง เสียงเครื่องทองเหลืองไม่บาดหู รายละเอียดเสียงกระดิ่ง เสียงนักร้องคีย์สูงๆถ่ายทอดออกมาได้ดี ฟังฟินถึงอารมณ์มากครับ
• เวทีเสียง & มิติเสียง : เวทีเสียงค่อนไปทางกว้างคล้ายฟังเพลงอยู่ในห้องขนาดกลางเกือบใหญ่ และรู้สึกเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยเสียงดนตรีรอบๆตัว การแยกเสียงดนตรีทำได้ยอดเยี่ยมมากครับ ฟังจับและสัมผัสเสียงดนตรีแต่ละชิ้นได้อย่างง่ายดาย รู้สึกจับต้องได้ตั้งแต่เสียงใหญ่ๆตลอดไปจนเสียงเล็กเสียงน้อยเลยละครับ

สรุป :

• เรียกว่าเป็นโทนเสียงที่ฟังสนุกและน่าฟังไม่เหมือนหูฟังตัวไหนๆ ส่วนตัวทีมงานชอบเสียงย่านเบสมากๆ มีอิมแพคที่หนักรุกเร้าฟังสนุก แต่ก็ได้ไดนามิคของเสียงกลองชุดที่น่าฟัง และถ่ายทอดรายละเอียดเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แต่ถ้าได้โทนเสียงกลางที่กระชับและหนากว่านี้อีกหน่อยมันจะ perfect มากๆ แต่ยังดีที่ Edifier Neobuds Pro ปรับ EQ เสียงเพิ่มได้ในแอปพลิเคชัน ซึ่งถ้าใครคิดว่า เสียงกลางมันถอยไป หรือเสียงแหลมมันจัดจ้านไป ก็สามารถเข้าไปปรับ EQ ลงได้ในแอปพลิเคชั่นเลยครับ
• ส่วนตัวทีมงานคิดว่าตอบโจทย์การฟังเพลงเกือบทุกแนวเช่น Pop, R&B, Hip-Hop,Jazz หรือเพลง Mainstream ทั่วไป ส่วนเพลง Rock ก็ฟังมันดีครับ เสียงกระเดื่องกลองเกรี้ยวกราด อิมแพคดุร้ายมากๆ แต่ถ้าใครเน้นฟังเสียงกีต้าร์ ชอบเสียงกีต้าร์หนาๆแนะนำให้ปรับเสียงเป็น Classic เสียงกีต้าร์จะอิ่มขึ้นในระดับที่พอดีๆเลยละครับ

Gallery :

การใช้งานเบื้องต้น

คำแนะนำก่อนเริ่มใช้งานครั้งแรก

1. ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนใช้งานครั้งแรก
2. เลือกใส่จุกหูฟังที่มีขนาดเหมาะสมกับช่องหูของเรามากที่สุด
3. หากหูฟังเปียกเหงื่อ ให้เช็ดให้แห้งสนิทก่อนเก็บลงกล่องชาร์จทุกครั้ง
4. ควรโหลดแอป Edifier Connect (iOS & Android) มาติดตั้งก่อนเริ่มใช้หูฟั

การเปิด-ปิด (Power on/off)

• หยิบหูฟังออกจากกล่องชาร์จ = เปิดหูฟัง
• เก็บหูฟังลงกล่องชาร์จ = ปิดหูฟัง

การสวมใส่

1. เปลี่ยนจุกหูฟังที่มีขนาดที่เหมาะสมกับช่องหู
2. ค่อยๆสอดหูฟังทั้งสองข้างเข้าช่องหู บิดหูฟังไปข้างหลังจนรู้สึกกระชับ

การเชื่อมต่อ Bluetooth

1. เปิดฝากล่องชาร์จ > หูฟังเข้าโหมดจับคู่ในการเชื่อมต่อครั้งแรก (ไฟสีแดงวิ่ง)
2. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ แตะเชื่อมต่อ Edifier Neobuds Pro เป็นอันเสร็จสิ้น

**หากต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์เชื่อมต่อ ให้เก็บหูฟังลงกล่องชาร์จทั้งสองข้าง กดปุ่มกล่องชาร์จค้างจนมีไฟสีแดงวิ่งๆ แล้วเปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ใหม่เพื่อต่อ Bluetooth ได้เลยครับ

**เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ล่าสุดอัตโนมัติทันทีที่เปิดฝากล่องชาร์จ (ไฟสีแดงกระพริบ 3 ครั้ง = เชื่อมต่อสำเร็จแล้ว)

**ในการใช้งานครั้งต่อๆไป ให้เปิดฝากล่องชาร์จแล้วรอไฟกล่องชาร์จกระพริบไฟสีแดง 3 ครั้งเสียก่อน แล้วค่อยหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ใช้งานครับ

การเชื่อมต่อหูฟังกับแอปพลิเคชัน Edifier Connect

1. ต่อ Bluetooth หูฟังกับอุปกรณ์
2. เข้าแอปพลิเคชั่น Edifier Connect แล้วทำตามขั้นตอนได้เลยครับ

การแยกใช้งานหูฟังข้างเดียว

1. เชื่อมต่อหูฟังสองข้างตามวิธีปกติ
2. หยิบหูฟังเฉพาะข้างที่ต้องการใช้ขึ้นมาใส่ > ปิดฝากล่องชาร์จ แล้วใช้งานได้เลนครับ

การเปิดโหมดตัดเสียงรอบข้างและโหมดฟังเสียงรอบข้าง Active Noise Cancelling / Ambient Sound

• แตะหูฟังข้างซ้าย (L) 2 ครั้งเพื่อสลับโหมดระหว่างโหมดตัดเสียงรบกวน active noise cancelling และ Ambient Sound ครับ

**โหมดตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ทำงานเฉพาะตอนใช้งานหูฟังสองข้างเท่านั้น

การควบคุมต่างๆ

หูฟังข้างซ้าย (L)

• รับสาย/วางสาย (ขณะสายเข้า) : แตะ x2
• เปิดโหมดตัดเสียงรบกวน : แตะ x2
• เปิด Game Mode : แตะ x3

หูฟังข้างขวา (R)

• รับสาย/วางสาย (ขณะสายเข้า) : แตะ x2
• เล่นเพลง/หยุดเพลง/รับสาย/วางสาย : แตะ x2
• ไปยังเพลงถัดไป : แตะ x3

**จุดสัมผัสหูฟังจะอยู่ช่วงต้นๆของก้านหูฟังนะครับ**

การชาร์จแบตเตอรี่

หูฟัง

1. เก็บหูฟังลงกล่องชาร์จ ปิดฝา หูฟังจะชาร์จแบตฯกับกล่องชาร์จ
2. หูฟังมีระบบ fast-charge ชาร์จเพียง 10 นาที ฟังเพลงได้สูงสุด 1 ชม. ครับ

กล่องชาร์จ

• เสียบสายชาร์จ USB-C ชาร์จกับคอมพิวเตอร์ หรือหัวชาร์จ 5V/1A
• ขณะชาร์จ > สเตปไฟสีแดงจะติดขึ้น
• ชาร์จเต็มแล้ว > ไฟดับ

**ห้ามใช้หัวชาร์จประเภท fast-charge หรือหัวชาร์จที่มีค่าไฟเกิน 5V/1A เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่กล่องชาร์จเสียหายได้

ไฟสถานะต่างๆ

• ไฟสีแดงวิ่งจากตรงกลางไปด้านข้าง 2 ครั้ง : หูฟังเปิดใช้งานแล้ว
• ไฟสีแดงวิ่งจากด้านซ้ายไปขวา : หูฟังอยู่ในโหมดจับคู่
• หูฟังกระพริบไฟสีแดง 3 ครั้ง : หูฟังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สำเหร็จแล้ว

การ Factory Reset

1. กด Forget Device หูฟังพร้อมทั้งปิด Bluetooth
2. เก็บหูฟังลงกล่องชาร์จทั้งสองข้าง อย่าเพิ่งปิดฝา
3. กดปุ่มกล่องชาร์จ 3 ครั้ง ไฟกล่องชาร์จจะขึ้นสเตปไฟไล่จากด้านข้างมาตรงกลาง และจบที่ไฟสีแดงกระพริบ 3 ครั้ง
4. เสร็จแล้ว หูฟังจะเข้าโหมดจับคู่ เชื่อมต่อใช้งานต่อไปได้เลยครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง (Product Included)

• หูฟัง Edifier Neobuds Pro 1 คู่
• กล่องชาร์จ Edifier Neobuds Pro 1 กล่อง
• จุกหูฟังคุณสมบัติปกป้องแบคทีเรีย 7 คู่
• ซองผ้าสำหรับเก็บหูฟัง 1 ซอง
• สายชาร์จ USB-C 1 เส้น
• คู่มือการใช้งาน

Waranty (เงื่อนไขการรับประกัน)

• สินค้ารับประกัน 1 ปี เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท 425DEGREE กำหนด
• *** ในส่วนของอะไหล่,สายชาร์จ,เคสชาร์จ ที่มากับตัวหูฟังจะมีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน ***
• คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวหูฟังทั้งสองข้าง, กล่องชาร์จ, สายชาร์จ ,จุกหูฟังซิลิโคนทุกแบบ, ซองผ้า
• หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของทางโรงงาน เปลี่ยนตัวใหม่ให้ทันที
• สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง
• หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น แตก, หัก, บิดเบี้ยวจนผิดรูป, นํ้าเข้าในแผงวงจรอิเล็คทรอนิค , เบิร์นหูฟังผิดวิธี(ใช้แอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• ปัญหาการคุยโทรศัพท์แล้วเป็นเสียงที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดตัวหูฟังอีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• อาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***เช่น กำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดหายแล้วกลับมาเป็นปกติ *** ซึ่งจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• หากตัวหูฟังหรือชิ้นส่วนของกล่องชาร์จเสียหรือชำรุด ที่เกิดจากการใช้งานไปแล้วเกินกว่า 7 วัน จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• สินค้ารุ่นนี้มีมาตรฐานการกันน้ำที่ระดับ IP54 กล่าวคือ กันฝุ่นจากการใช้งานนอกสถานที่ และเหงื่อจากการออกกำลังกายเท่านั้น **หากสินค้าจมนํ้า หรือเจอปริมาณนํ้าเยอะเกินกว่ามาตรฐาน IP54 จนเป็นเหตุทำให้หูฟังเสียหาย จะถือว่าใช้งานผิดวิธี และจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• ข้อมูลระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของหูฟัง จะแปรผันตามการใช้งานของแต่ละบุคคล